ข่าว

คสช. ยันจำเป็นเอาผิด 8 แกนนำเดินมิตรภาพ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แจง 26 ผู้บริหาร มธ. ยัน คสช. จำเป็นเอาผิด 8 แกนนำ People Go network  จัดกิจกรรม โจมตี รบ. ก่อความขัดแย้ง กระทบโรดแม็ป 

 

          30 ม.ค. 61 - พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษก คสช. ชี้แจงถึงกรณี คณะอาจารย์ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืน และบริหารศูนย์รังสิต ลงชื่อร่วมกัน จำนวน 26 ท่าน ยื่นหนังสือต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้ทบทวนการดำเนินการกับผู้จัดกิจกรรมทั้ง 8 คนรวมถึงผ่อนปรนการแสดงออกของประชาชนที่เป็นไปอย่างสันติ ในขอบเขตของกฎหมายปกติ และโดยวิถีทางแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ว่า มูลเหตุเริ่มต้นจาก กลุ่มองค์กรเครือข่ายภาคประชาชน ในนาม People Go network ได้จัดกิจกรรมบริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 

          พล.ต.ปิยพงศ์ เปิดเผยต่อว่า ถือเป็นเหตุการณ์ชุมนุมเรียกร้อง มีการกล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาลและคสช. ซึ่งมีผู้ร่วมในเหตุการณ์ประมาณ 150 คน นำโดย ผศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ต่อกรณีดังกล่าว ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 4 ปฎิบัติหน้าที่รับผิดชอบการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ดังกล่าว ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ตามคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ฐานร่วมกันมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช. ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวคือ พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา แต่หากยังไม่มาพบ จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และหากไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกหมายจับทันที

          พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวย้ำว่า ณ เวลานี้การที่ คณะอาจารย์ได้มีหนังสือให้พิจารณาทบทวน จึงเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ครูอาจารย์ผู้ซึ่งเป็นขุมพลังปัญญาอันสำคัญยิ่ง และสามารถชี้แนะการปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสม ให้แก่ นิสิต นักศึกษา และสังคม โดยใช้บรรยากาศการปรองดอง ความร่วมมือ ใช้สติปัญญาหันหน้าพูดคุย เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม กับบรรยากาศของบ้านเมือง และนำพาประเทศชาติและสังคมก้าวข้ามผ่านความยากลำบาก ในช่วงเวลานี้ และนำพาชาติบ้านเมืองไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต่อไป

          พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การกำหนดบทเฉพาะกาล ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ให้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวยังมีผลบังคับใช้ เป็นเครื่องแสดงเจตนาที่ชัดเจนว่าประเทศยังมีความจำเป็นในการมีกฎหมายเพื่อรักษาความสงบ และความมั่นคงภายในอยู่ ส่วนท่านใดจะตีความเช่นไรก็เป็นการเสนอความเห็นที่กระทำได้ แต่มิได้หมายความว่าจะทำให้กฎหมายขาดความศักดิ์สิทธิ์ไปได้

          "คสช.และรัฐบาลได้ดำเนินงาน ตามโร้ดแม็ปที่วางไว้ตลอดมา และทุกฝ่ายทุกส่วนพยายามทำให้เกิดความเรียบร้อย อย่างดีที่สุด การแสดงออกที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง หรือสร้างความอ่อนไหวต่อสถานการณ์ความสงบ อาจจะเป็นปัจจัยทำให้การเดินหน้าสู่โร้ดแมปไม่ราบรื่น ตามที่ประชาชนส่วนใหญ่คาดหวัง จึงอยากร้องขอให้การแสดงออกทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ อย่างถ้วนทั่ว ไม่ควรมีการเรียกร้อง หรือขอข้อยกเว้นว่าให้ใช้กฎหมายเฉพาะรูปแบบหนึ่ง รูปแบบใดเท่านั้น เพราะทุกคนควรอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม" พล.ต.ปิยพงศ์กล่าว  

          พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า อีกทั้งผู้ดำเนินกิจกรรม ย่อมรู้อยู่แก่ตนเองว่ากิจกรรมที่ดำเนินการอยู่ เหมือนหรือแตกต่างจาก กิจกรรมรณรงค์ประเด็นทางสังคมอื่นหรือไม่ ทั้งนี้ในส่วนของ คสช.ก่อนที่จะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดี ได้มีการสังเกตการณ์ รวมทั้งพูดคุยเจรจา ขอความร่วมมือ เพื่อมิให้มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่เมื่อทางกลุ่มยังยืนยันที่จะทำต่อไป  คสช. จึงไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากสนับสนุนให้เกิดการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งผู้จะพิจารณาว่าจะมีการดำเนินคดีหรือไม่อย่างไร ขึ้นกับกระบวนการทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่ คสช.จะไม่ก้าวล่วง

          พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าวว่า คสช.ขอขอบคุณ ในความปรารถนาดี และการมีส่วนร่วมทางความคิดอันเป็นประโยชน์ยิ่งของคณะอาจารย์ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ต่อการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล และคสช. มา ณ โอกาสนี้ และ คสช. จะพิจารณาโดยรอบคอบอย่างรวดเร็ว เพื่อทำให้ความสงบสุขของบ้านเมืองจะได้ดำเนินต่อไป และหากมีผลการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคสช.อย่างไรจะแจ้งให้ท่านทราบในโอกาสแรกทันที.

 

***ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"บิ๊กตู่" ฮึ่ม "กลุ่มWE WALK" อย่าทำผิดกฏหมาย

 

 


            

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ