ข่าว

26 ผู้บริหาร มธ. จี้ "บิ๊กตู่" ทบทวนดำเนินคดี "We Walk"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

26 ผู้บริหาร มธ. ลงชื่อทำหนังสือถึง "บิ๊กตู่" ทบทวนดำเนินคดีผู้จัดกิจกรรม "เดินมิตรภาพ"

 

          29 ม.ค. 61 - เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ฝ่ายกิจการนักศึกษา ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มายื่นหนังสือถึงหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้พิจารณาทบทวนการดำเนินคดีกับผู้จัดกิจกรรม 'เดินมิตรภาพ'  โดยส่งเรื่องผ่านสำนักงานเลขานุการกองทัพบก  

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาหนังสือระบุว่า ตามที่กลุ่มองค์กรภาคประชาชนต่างๆ ในนามของ People Go Network ได้จัดกิจกรรม We Walk 'เดินมิตรภาพ' เพื่อรณรงค์เรื่องหลักประกันสุขภาพ ทรัพยากร ความมั่นคงทางอาหาร และสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ โดยเริ่มต้นกิจกรรมที่วิทยาลัยพัฒนาศาสตร์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2561 ที่ผ่านมานั้น ทาง คสช. ได้ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินคดีผู้จัดกิจกรรมจำนวน 8 คน ในข้อหาฝ่าฝืนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2558 ที่ห้ามมิให้มั่วสุมประชุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยหนึ่งในจำนวนนั้นเป็นอาจารย์ที่เป็นคณบดีคณะหนึ่งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วย 

          ในฐานะที่กิจกรรมนี้เริ่มต้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งเป็นสถานที่ชุมชนทางวิชาการ และเป็นสถาบันการศึกษาที่สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนเสมอมา รองอธิการบดีที่รับผิดชอบพื้นที่ศูนย์รังสิตร่วมผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่านอื่น อันประกอบด้วย รองอธิการบดี 4 คน คณบดี 10 คณะ ผู้อำนวยการสถาบัน 5 สถาบัน และผู้ช่วยอธิการบดี 10 คน ตามรายนามข้างท้าย จึงใคร่ขอแสดงความคิดเห็นดังต่อไปนึ้

          1.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ได้สิ้นสภาพลงไปแล้ว นับแต่วันที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2560 มี่ผ่านมา ถึงแม้ว่าบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะกำหนดให้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว และคำสั่งของ คสช. ที่ออกตามมาตรา 44 จะยังมีผลบังคับใช้ต่อไป แต่ในเมื่อประเทศไทยได้มีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรที่รับรองสิทธิเสรีภาพของประชาชนแล้ว การจำกัดสิทธิเสรีภาพต้องกลายเป็นเรื่องยกเว้น มิใช่เรื่องหลักอีกต่อไป

          ดังนั้น คำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ที่ 'ห้ามมั่วสุมประชุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป' ซึ่งเปิดให้เจ้าหน้าที่รัฐตีความและใช้อำนาจนี้อย่างกว้างขวาง ในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน จึงควรต้องทบทวนที่จะบังคับใช้ต่อไป มิเช่นนั้นแล้ว จะเท่ากับว่ารัฐธรรมนูญฉบับถาวรที่รับรองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งผ่านการลงประชามติและประกาศใช้แล้ว ยังคงไม่มีผลบังคับใช้ และเท่ากับว่าประเทศไทยยังไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับถาวรอยู่เหมือนเดิม ซึ่งไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น 

          2.ประเทศไทยกำลังเดินหน้าตามโรดแม็ปกลับสู่สภาวะปกติ คสช. จึงควรเปิดกว้างมากขึ้น และให้ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพภายในขอบเขตของกฎหมายและภายใต้รัฐธรรมนูญมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแสดงออกและการมีส่วนร่วมของพลเมือง ดังที่ ท่านนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้กล่าวหลายครั้งว่า ประชาชนอย่าเอาแต่รอรัฐบาล แต่ต้องมาช่วยกันแก้ปัญหาของประเทศด้วย การแสดงออกของประชาชนภายในขอบเขตของกฎหมายปกติ และโดยสันติวิธี จึงเป็นสิ่งที่ควรได้รับการสนับสนุน การดำเนินคดีต่อผู้จัดกิจกรรมการแสดงออกใดๆ ควรจะดำเนินการต่อเมื่อผู้จัดกิจกรรมฝ่าฝืนกฎหมายปกติเท่านั้น

          3.การจัดกิจกรรม We Walk 'เดินมิตรภาพ' ที่กำลังเดินไปตามถนนมิตรภาพโดยมีปลายทางที่จังหวัดขอนแก่นนั้น เป็นกิจกรรมรณรงค์ประเด็นทางสังคมโดยใช้วิธีการเดินรณรงค์ ทำนองเดียวกับการจัดวิ่ง หรือขี่จักรยาน หรือกิจกรรมรณรงค์รูปแบบอื่นในทำนองเดียวกัน คสช. จึงไม่ควรถือว่าเป็น 'การมั่วสุมประชุมทางการเมือง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อศาลปกครองได้มีคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราว ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดกั้นขัดขวางการใช้เสรีภาพในการชุมนุมและต้องอำนวยความสะดวกปลอดภัยในการชุมนุม จึงไม่ควรมีการดำเนินคดีด้วยข้อหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 อีก

          โดยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จึงขอให้ คสช. ทบทวนการดำเนินการกับผู้จัดกิจกรรมทั้ง 8 คน รวมถึงผ่อนปรนการแสดงออกของประชาชนที่เป็นไปอย่างสันติ ในขอบเขตของกฎหมายปกติ และโดยวิถีทางแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ทั้งนี้ขอให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะการสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีอาจถือได้ว่าเป็นการก้าวล่วงพนักงานเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทำให้กลายเป็นเรื่องการเมือง ไม่ใช่การบังคับใช้กฎหมายอีกต่อไป อันไม่เป็นผลดีต่อประชาชน ภาพลักษณ์ต่อประชาคมโลกที่ประเทศไทยเป็นสมาชิก และต่อ คสช. เองด้วย 
    
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท้ายหนังสือมีอาจารย์ลงชื่อ 26 คนได้แก่ 1.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล  รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต 2.รองศาสตราจารย์ ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ 3.ศาสตราจารย์ แพทย์หญิง อรพรรณ โพชนุกูล รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา 4.รองศาสตราจารย์ ดร.กิตติ ประเสริฐสุข รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ 5.รองศาสตราจารย์ ดร.พิภพ อุดรคณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี

          6.รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาล คณบดีคณะรัฐศาสตร์ 7.รองศาสตราจารย์ ดร.ชยันต์ ตันติวัสดาการคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ 8.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัจฉรา ปัณฑรานุวงศ์คณบดีคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน 9.รองศาสตราจารย์ ดร.ดำรงค์ อดุลยฤทธิกุลคณบดีคณะศิลปศาสตร์ 10.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปาริชาติ จึงวิวัฒนาภรณ์ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ 

          11.รองศาสตราจารย์ ดร.สมชาย ชคตระการ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 12.รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ดิลก ภิยโยทัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ 13.รองศาสตราจารย์ ดร.ธีร เจียศิริพงษ์กุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ 14.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จิตติ มงคลชัยอรัญญา คณบดีวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ 15.อาจารย์ ดร.วสันต์ เหลืองประภัสร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสัญญา ธรรมศักดิ์ เพื่อประชาธิปไตย

          16.รองศาสตราจารย์ ดร.ประภัสสร์ วังศกาญจน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษา 17.ดร.ปกป้อง ส่องเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 18.ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันไทยคดีศึกษา 19.รองศาสตราจารย์ ดร. สุพงศ์ ตั้งเคียงศิริสิน ผู้อำนวยการสถาบันภาษา 

20.ดร.อดิศร  จันทรสุข ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ 21.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปาริยา ณ นคร ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา 22.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ต่อพงศ์ กิตติยานุพงศ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการคลัง 23.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรรณภา  ติระสังขะ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริหารท่าพระจันทร์ 24.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีระ สินเดชารักษ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการ 25.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรรถสิทธิ์ พานแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร และ 26.นายบุญสม  อัครธรรมกุล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายศิษย์เก่าสัมพันธ์

               ทั้งนี้ ต่อมานายปริญญา ได้นำหนังสือดังกล่าวไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่งนตัว ระบุว่า เป็นหนังสือจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงหัวหน้า คสช. เรื่อง ขอให้ทบทวนการดำเนินคดีกับผู้จัดกิจกรรมเดินมิตรภาพ และ ผ่อนปรนการแสดงออกของประชาชนที่เป็นไปโดยสันติ

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ