ข่าว

ที่ปรึกษา ป.ย.ป.มองการเมือง61สีเทา-ส่งสัญญาณย้ายพรรค

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เอกชัย" มองการเมืองไทย61 อึมครึม เป็นไปได้ต้องแก้รธน.-พ.ร.ป.หากไม่ลงตัว มีสัญญาณ นักการเมืองต้องย้ายพรรคกลุ่มใหญ่

          เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 --   พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ นักวิชาการด้านสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ฐานะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.)  ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเอฟเอ็ม 101 ถึงการประเมินสถานการณ์ทางการเมือง โดยเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งจะเกิดภายในปี 2561 อย่างแน่นอน และขณะนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เตรียมกระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งการเลือกตั้ง แต่การเมืองไทยในมุมมองของตนเห็นว่ายังไม่ลงตัวและเป็นสภาพการเมืองสีเทา เนื่องจากกระบวนการทางการเมืองที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ยังมีความไม่ชัดเจน ว่าจะสามารถเปลี่ยนองคาพยพทางการเมืองเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่

        "อนาคตหากรัฐธรรมนูญ หรือ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ไม่ทำให้เขาคลายกังวลหรือได้ตามรูปแบบ เช่น ทำให้พรรคการเมืองเล็กลง, เกิดพรรคการเมืองใหม่ เขาต้องแก้ไขภายหลัง อย่างที่เห็นตอนนี้ คือใช้อำนาจตามมาตรา 44 แก้ไขพ.ร.ป.พรรคการเมือง เพื่อขยายระยะเวลา แต่มีสัญญาที่แฝงมา คือ การย้ายพรรคของสมาชิก  อนาคตเราจะเห็นการย้ายพรรค ทั้งที่ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ออกจากพรรคเพื่อไทย แบบกลุ่มใหญ่หลักสิบคน ไม่ใช่ย้าย แบบ 3-5 คนเหมือนเดิม เหตุผลที่ย้ายเพราะเขาไม่สามารถอยู่ได้ภายใต้แบรนด์ที่ถูกตีตรา และถูกต่อต้านไปตลอดชีวิต เช่น พรรคเพื่อไทย ที่ถูกตราว่าเป็นของคุณทักษิณ ชินวัตร หรือ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นของคนภาคใต้ ดังนั้นเขาต้องย้ายเพื่อเกิดใหม่ ต้องแตกเป็นกลุ่มเล็กๆ หรือสลายขั้วเพื่อเข้าฟอร์มที่รัฐธรรมนูญ ต้องการให้รัฐบาลมาจากหลายพรรคการเมือง " พล.อ.เอกชัย กล่าว 

          พล.อ.เอกชัย กล่าวด้วยว่า อนาคตของพรรคการเมืองตามฟอร์มของรัฐธรรมนูญคือ พรรคที่มีส.ส.ไม่เกิน 100 คน ส่วนคนที่จะเป็นรัฐบาล เขาจะใช้บุคคลที่อยู่ในผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่หากพรรคการเมืองใดได้ส.ส.เขตเยอะ ก็จะไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ ภายใต้ระบบเลือกตั้งแบบใบเดียว ดังนั้นคนที่อยากเป็นรัฐบาลก็จะไม่ได้คนของเขา 


      นักวิชาการด้านสันติวิธี และธรรมาภิบาล กล่าวถึงสภาพการเมืองช่วงเส้นทางสู่การเลือกตั้ง ด้วยว่าหากไม่ทำกระบวนการปรองดองและสันติวิธี เชื่อว่าสภาพการเมืองหลังการเลือกตั้งจะหนักกว่าที่ผ่านมา สังเกตได้จากการเปิดหน้าต่อสู้ของฝ่ายการเมือง ที่เดิมจะพุ่งเป้าโจมตีนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม แต่ปัจจุบันมีเป้าหมายเดียวกัน คือ รัฐบาล คสช. ดังนั้นอนาคตตนเชื่อว่านักการเมืองสามารถเปลี่ยนแปลงได้ อย่าคิดว่าเขาจะยืนกระต่ายขาเดียวไปตลอด.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ