ข่าว

ศรีสุวรรณ จี้ ป.ป.ช. สอบ"บิ๊กป้อม" รวยผิดปกติ ปกปิดนาฬิกา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 "ศรีสุวรรณ" จี้ "ป.ป.ช." สอบ "บิ๊กป้อม" ส่อปกปิดบัญชีทรัพย์สิน แถมแจ้งเท็จ "นาฬิกาหรู-แหวนเพชร" เข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติ

                
          7 ธ.ค.60 - เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผ่านนายสุทธิ บุญที ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ เพื่อให้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนาฬิกาหรูและแหวนเพชรที่ไม่ปรากฏในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช.                 
          นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ว่าแหวนทองคำขาวหัวเพชรเป็นของเดิมที่เคยใส่มาอยู่แล้ว นาฬิกาก็ของเดิมนั้น เป็นการยอมรับและชี้ให้เห็นว่านาฬิกาและแหวนเพชรดังกล่าวไม่ใช่ของใหม่ แต่กลับไม่ปรากฏในรายการที่แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ซึ่งอาจจะเข้าข่ายจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. หรือจงใจยื่นบัญชีฯ ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ นอกจากนั้นยังอาจเข้าข่ายเป็นการร่ำรวยผิดปกติ ตามมาตรา 66 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อีกด้วย เนื่องจากตามเอกสารบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งพล.อ.ประวิตรได้รายงานไว้ต่อ ป.ป.ช. นั้น มีบัญชีเงินฝากในธนาคารมากถึงกว่า 53 ล้านบาท ซึ่งรวมทรัพย์สินอื่นๆ แล้วมีมูลค่ามากกว่า 87 ล้านบาท โดยไม่ปรากฏที่มาของเงินในบัญชีธนาคารและทรัพย์สินอื่นๆ                            
         "หากประมาณการจากการที่ พล.อ.ประวิตร รับราชการทหารมาประมาณ 40 ปี เป็นนักการเมืองมา 2 สมัยและไม่ได้มีธุรกิจใดๆ เลยนั้น ก็ไม่น่าที่จะมีรายได้มากมายถึงขนาดนี้ อีกทั้งมีพิรุธจากการยื่นบัญชีทรัพย์สินรวม 4 ครั้งตั้งแต่ครั้งรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เมื่อพ้นจากตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งหนึ่งปี และยื่นล่าสุดในรัฐบาลคสช. ปรากฏว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นตามลำดับคือ ครั้งแรก 56 ล้านบาท ต่อมาเพิ่มเป็น 69 ล้านบาท 79 ล้านบาท และ 87 ล้านบาทตามลำดับ จึงขอให้ป.ป.ช.ทำการไต่สวนและหากพบความผิด ให้ดำเนินการตามกฎหมายสูงสุด เช่นเดียวกันกับหลายๆ กรณีที่ ป.ป.ช.เคยวางบรรทัดฐานมาแล้ว เช่น กรณีคดีซุกหุ้นนายทักษิณ ชินวัตร คดีเงินกู้ 45 ล้านบาท ของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นต้น ซึ่งการตรวจสอบครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์การทำงานของ ป.ป.ช.ด้วยว่ามีศักยภาพหรือไม่" นายศรีสุวรรณ กล่าว.

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ