สภาใหม่คืบ 40 %  ขีดเส้น ต้องเสร็จภายในปี 62

            3 พ.ย.60-ที่สำนักงานโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ถ.เกียกกาย นายสรศักดิ์  เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้นำผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร และสื่อมวลชน ดูความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานก่อสร้าง

             นายพินิจ พูลเกิด ผู้จัดการสำนักงานที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ของบริษัทชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 53 จนขณะนี้ 31 ต.ค. 60จำนวน 1,607 วัน คงเหลือระยะเวลาการทำงาน 101 วัน จากระยะเวลาทั้งหมด 1,708 วัน ซึ่งสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ กำหนดระยะเวลาก่อสร้างจำนวน 900 วันนับตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. 2556 สิ้นสุดวันที่ 24 พ.ย. 2558 แต่เนื่องจากมีประเด็นปัญหาค่อนข้างมากทำให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร์พิจารณา ขยายระยะเวลาการก่อสร้างให้ผู้รับจ้างออกไปแล้ว 2 ครั้งคือ ครั้งที่ 1 จากสาเหตุการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าและปัญหาอุปสรรคจากงานดินเสาเข็มเจาะ จำนวน 387 วันนับตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 58 ถึงวันที่ 15 ธ.ค.59  ครั้งที่ 2 จากสาเหตุปัญหาเรื่องดินจากการก่อสร้างชั้นใต้ดินจำนวน 421 วันตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.59 ถึงวันที่ 9 ก.พ. 61ทั้งนี้ผู้รับจ้างทำงานมาแล้ว ถึงวันที่ 31 ต.ค. 60 จำนวน 1,607 วันคงเหลือเวลาทำงานจำนวนเพียง 101 วัน จากระยะเวลาทั้งหมด 1,708 วัน แต่ระยะเวลาที่เหลือเพียง 101 วันไม่เพียงพอทำให้ต้องขอขยายเวลาการก่อสร้างออกไปเป็นครั้งที่ 3 จากสาเหตุการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างส่วนที่ 4 ล่าช้า

            นายพินิจ กล่าวว่า ส่วนเรื่องของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอซีทีนั้น ที่จะต้องทำควบคู่ไปกับงานก่อสร้างซึ่งแบบก่อสร้างเดิมนั้นมีเรื่องระบบดังกล่าว แต่ในระหว่างการก่อสร้างได้มีการปรับเปลี่ยนแบบทำให้แยกเรื่องระบบไอซีทีออกมา เพื่อจัดจ้างภายหลัง อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้มีการของบประมาณเพิ่มจากเดิม 3,000 ล้านบาท เนื่องจากเทคโนโลยีมีการพัฒนามาก เพื่อให้ได้เทคโนโลยีสูงสุด ในระหว่างนี้ได้มีการจัดจ้างบริษัทออกแบบระบบสารสนเทศ ซึ่งจะมีการส่งมอบงานใน1-2 เดือนนี้และต้องจัดจ้างผู้รับจ้างให้เสร็จภายในอีก 5 เดือนหากไม่เสร็จก็จะทำให้โครงการก่อสร้างล่าช้าออกไปอีก                                                                                                       ด้านนายสรศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า   ขณะนี้ภาพรวมความคืบหน้าของโครงการอยู่ที่ 40.95 เปอร์เซ็นต์ โดยโครงสร้างหลักแล้วเสร็จเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ซึ่งผู้รับจ้างได้ยื่นเรื่องขอขยายเวลา 926 วันเป็นครั้งที่ 3  โดยส่วนตัวตนยังไม่เห็นด้วย จึงส่งให้ผู้คุมงานและที่ปรึกษาบริหารโครงการเสนอความเห็นว่า ที่ผู้รับจ้างเสนอมานั้นมีความเหมาะสมหรือไม่ โดยได้กำชับว่าโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ต้องเร่งให้เสร็จภายในสิ้น ปี 62  ทั้งนี้งบประมาณที่ได้มีการวางไว้ในปี 60 วงเงิน 3,000 ล้านบาท แต่ผู้รับจ้างทำได้เพียง 2,000 ล้านบาทเท่านั้น จึงต้องพยายามเร่งรัดงานให้เสร็จ และในปี 61 ตนได้เตรียมงบประมาณให้อีกเพื่อที่จะเร่งให้เสร็จ ขณะนี้ก็ขอร้องให้ทุกฝ่ายต้องทำให้เสร็จโดยเร็ว   ซึ่งทางผู้รับเหมาก็รับปากเช่นเดียวว่า ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือและงบประมาณเพียงพอการจะก่อสร้างก็จะเสร็จตามเป้า โดยจะต้องไม่มีปัญหาใหม่ๆเกิดขึ้นมาอีก  ส่วนปัญหาเรื่องระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือระบบ ไอซีที ที่นั้น ก็แก้ปัญหาให้เสร็จเช่นกัน

           ผู้สื่อข่าวถามว่า งบประมาณในส่วนของไอซีที ได้ขอจากคณะรัฐมนตรีหรือยัง นายสรศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ขอแต่ขณะนี้ได้ผู้ออกแบบไอซีที คือ บริษัทเมอร์ลิน ที่ออกแบบระบบโดยมีสัญญาการทำงาน 9 เดือน แต่ตนเร่งรัดภายใน 7 เดือนคือ ธ.ค.นี้ ซึ่งทางบริษัทก็ไม่มีปัญหาจะส่งงานตามที่ขอ ซึ่งจะนำงานออกแบบไปเสนอขอนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยต้องผ่านกระทรวงดิจิทัล เนื่องจากวงเงินงบประมาณเกิน 100 ล้านก่อนเสนอให้ครม.ต่อไป ทั้งนี้ระบบไอซีทีของรัฐสภาแห่งใหม่จะเป็นระบบที่ทันสมัยและดีที่สุด ด้านไม้สักที่นำมาตกแต่งอาคารก็ไม่มีปัญหา ทางบริษัทชิโนไทยได้จัดหาได้ไม้สักได้ครบตามจำนวนแล้ว

            ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังการรับฟังบรรยายสรุปแล้ว ทางโครงการได้นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้า โดยได้เข้าในตัวอาคารเป็นครั้งแรก โดยเข้าไปดูงานในส่วนของห้องสันทนาการ ชั้น 5 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ทั้งนี้การดูความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ล่าสุดคือ 4 ส.ค.2560 โดยมีความคืบหน้า 38 % และในวันนี้ (3 พ.ย.) ผ่านมา 3 เดือนมีความคืบหน้าไป40.95 %หรือ 2 % เท่านั้น