ข่าว

"บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม"เห็นพ้อง"ประยุทธ์5"ลดทหารนั่งเก้าอี้รมต.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"นายกฯ -บิ๊กป้อม"ประสานเสียง ปรับครม.ประยุทธ์ 5 อาจลดสัดส่วนทหารเข้ามาเป็นรมต."บิ๊กตู่"ลั่น“บิ๊กบี้”ลาออกไปประกอบธุรกิจ"ปชป."แนะโละรมว.เกษตรฯ-พาณิชย์

     เป็นแรงกระเพื่อมที่ส่งผลกระทบถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)โดยตรง หลังจาก พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล หรือบิ๊กบี้ รมว.แรงงาน และทีมงานตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหลังจากหัวหน้าคสช.ใช้มาตรา 44 สั่งย้าย นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ไปเป็นรองปลัดกระทรวงแรงงาน ทำให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยบางกระแสข่าวบอกว่าสาเหตุที่ พล.อ.ศิริชัย ลาออกเพราะไม่พอใจที่นายกฯ สั่งย้ายนายวรานนท์ ออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน ขณะที่อีกกระแสข่าวบอกว่า นายกฯ ไม่พอใจกับการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวของกระทรวงแรงงาน ทำให้กระแสข่าวลือการปรับครม.ประยุทธ์ 5ยิ่งเข้มข้นขึ้น

“บิ๊กตู่”ยัน“บิ๊กบี้”ออกไปทำธุรกิจ

     เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่วัดนวลนรดิศ ถ.เพชรเกษม ซอย 19 เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารเรียนรวมแบบพิเศษ โรงเรียนวัดนวลนรดิศ และเปิดมหกรรมวิชาการไทยแลนด์ 4.0 โดยกล่าวตอนหนึ่งถึงกรณี พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งว่า “สื่อไม่ต้องถามอีก เรื่องกระทรวงแรงงานไม่ต้องห่วง ท่านออกไปประกอบธุรกิจ ทุกคนก็ออกตาม แต่มีคนทำงานและรับผิดชอบอยู่แล้ว ตามกฎหมายการรักษาการของกระทรวง ไม่ต้องกังวล ทุกกระทรวงผมสั่งหมด มีปัญหาอะไรไหม สื่อมวลชน ไม่ต้องมาหาเรื่องอีก”

"บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม"เห็นพ้อง"ประยุทธ์5"ลดทหารนั่งเก้าอี้รมต.

ยอมรับปรับ ครม.ดึงคนอดลดทหาร

     เมื่อถามว่าจะมีรัฐมนตรีอื่นลาออกอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไปถามรัฐมนตรี แต่ รมว.แรงงาน ที่ลาออกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะบอกว่าจะไปประกอบธุรกิจส่วนตัว คณะทำงานที่ออกตามนั้น เพราะเขามาด้วยกัน จึงต้องออกด้วยกัน เพราะมาด้วยกัน ยังไงก็ต้องออกอยู่แล้ว ออกพร้อมกันเลยก็จบ ส่วนที่ถามว่า รมว.แรงงาน ลาออกเพราะน้อยใจที่ใช้มาตรา 44 ย้ายอธิบดีกรมการจัดหางานใช่หรือไม่นั้น “จะน้อยใจได้อย่างไร ใครน้อยใจ คนละเรื่องกัน”

     เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่าการปรับครั้งนี้ สัดส่วนรัฐมนตรีทหารจะน้อยลงจริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำลังคิดอยู่ ต้องใช้เวลา มันมีเวลาของมันอยู่ ส่วนที่ถามว่าจะปรับในปีนี้หรือไม่นั้น อย่าไปสนใจมากเลย เพราะเป็นเรื่องของการบริหาร ส่วนกรณีฝ่ายการเมืองเรียกร้องให้ปลดล็อกทางการเมืองนั้น ขณะนี้มีหลายเรื่องกดดันมาก ที่ผ่านมาบ้านเมืองสงบเรียบร้อยเพราะอยู่ในช่วงพระราชพิธีฯ แต่เมื่อผ่านพ้นช่วงพระราชพิธีฯ ก็กลับมากันอีกแล้ว ขอถามว่ารอกันไม่ได้จะเป็นจะตายกันหรืออย่างไร ยืนยันไม่ต้องการถ่วงอะไรทั้งสิ้น แต่อยากให้ทุกอย่างสงบเรียบร้อย ส่วนเรื่องอื่นก็ทำตามกฎหมาย และกติกา อย่าทวงบ่อยมากนัก เพราะรู้สึกรำคาญ ทุกอย่างเป็นไปตามช่วงเวลาที่มีอยู่

“วิษณุ”แจงปมเด้งแก้ปัญหาคั่งค้าง

    ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการใช้มาตรา 44 โยกย้ายนายวรานนท์ ไปเป็นรองปลัดกระทรวงแรงงานว่า เนื่องจากต้องการความเร่งด่วนในการแก้ปัญหาให้รวดเร็ว เพราะผูกพันกับอะไรบางอย่างที่ผู้เกี่ยวข้องเขาทราบอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นเรื่องของการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวล่าช้าหรือไม่นั้น ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร ไม่รู้สาเหตุของการปรับย้าย แต่การดำเนินการดังกล่าวเพื่อต้องการแก้ไขปัญหาที่คั่งค้างให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

     เมื่อถามว่า การโยกย้ายครั้งนี้เป็นผลทำให้ พล.อ.ศิริชัย ลาออกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพิ่งมารู้เรื่องนี้ตอนดึกวันที่ 1 พฤศจิกายน และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) ได้มาสอบถามเรื่องนี้ จึงแจ้งไปว่าเมื่อ พล.อ.ศิริชัยกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ไปแล้วก็ลงประกาศได้ เพื่อให้คนที่จะรักษาการแทนได้รู้ตัว เพราะเรื่องนี้เคยมีมติครม.กำหนดไว้อยู่แล้วว่ากรณีรัฐมนตรีคนใดไม่อยู่ ไปปฏิบัติภารกิจ หรือป่วย ใครจะเป็นผู้รักษาการแทน รวมถึงกรณีไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ส่วนนี้ครม.สามารถเปลี่ยนแปลงภายหลังได้ เช่น กรณีก่อนหน้านี้ที่ นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ลาออก รวมถึงรัฐมนตรีบางท่านไปเป็นองคมนตรี ก็มีผู้รักษาการแทน ครั้งนี้เมื่อตำแหน่งว่างลงตามคำสั่งเดิมก็ให้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้รักษาการแทน

"บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม"เห็นพ้อง"ประยุทธ์5"ลดทหารนั่งเก้าอี้รมต.

‘บิ๊กป้อม’ชี้อาจลดทหารนั่งรมต.

    วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.อ.ศิริชัยลาออกจากตำแหน่งว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.ศิริชัย คิดว่าไม่มีอะไร ส่วนเหตุผลการลาออกนั้นไม่ทราบ เพราะพล.อ.ศิริชัยไม่ได้บอกจะไปทราบได้อย่างไร การลาออกครั้งนี้คิดว่าจะไม่กระทบการทำงานของคณะรัฐมนตรี ส่วนจะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วๆ นี้หรือไม่ เรื่องนี้ต้องไปถาม พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนที่ถามในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน จะเสนอรายชื่อรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่นั้น ไม่เสนอ เพราะให้นายกฯ เป็นคนตัดสินใจ โดยตอนนี้ปลัดกระทรวงแรงงานจะปฏิบัติราชการแทนไปก่อน

    เมื่อถามว่า การลาออกครั้งนี้เป็นเพราะ พล.อ.ศิริชัยน้อยใจนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ เพราะยังไม่ได้พูดคุยกัน ส่วนจะเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ คิดว่าไม่เกี่ยว แต่จะเกี่ยวกับเรื่องทำงานหรือเปล่า ไม่ทราบ อาจจะเป็นเรื่องการทำงานของรัฐมนตรี ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีอะไรหรือเปล่า ถามว่าการปรับ ครม.ครั้งใหม่ จะนำทหารเข้ามาทำงานน้อยลงหรือไม่ ก็อาจเป็นไปได้ ขณะที่การปรับในกระทรวงกลาโหมนั้น ยืนยันว่าไม่มีการปรับย้าย ส่วนจะเป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต่อไปหรือไม่ ไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นนายกฯ และกรณีเช่นนี้จะเกิดรอยร้าวใน ครม.หรือไม่นั้น ยืนยันว่า ไม่มี

"บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม"เห็นพ้อง"ประยุทธ์5"ลดทหารนั่งเก้าอี้รมต.

“บิ๊กโด่ง”ปัดเสียบแทนรมว.แรงงาน

    ด้าน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวถูกทาบทามให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานแทน พล.อ.ศิริชัย ที่ยื่นลาออกจากตำแหน่ง ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการทาบทามใดๆ และเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลือ

     ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า เพิ่งทราบจากข่าวเมื่อคืนเหมือนกัน หากมีข้อมูลอะไรจะเล่าให้ฟังก็มาแลกเปลี่ยนกันก็ได้ ส่วนตัวไม่ทราบจริงๆ ที่ถามว่าหากมีการปรับใหญ่จะเป็นการช่วยในช่วงสุดท้ายของรัฐบาลก่อนการเลือกตั้งหรือไม่นั้น เข้าใจว่าในส่วนของนายกรัฐมนตรีต้องการที่จะขับเคลื่อนงาน ควบคู่กับการแก้ปัญหาดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนกับการพัฒนาประเทศ ซึ่งจะมีในส่วนเรื่องการปฏิรูป ตรงนี้ก็เห็นอยู่ เรื่องนี้นายกฯ คงจะต้องพิจารณาในส่วนที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพตามที่นายกฯ ตั้งใจไว้ให้มากที่สุด ทุกคนพร้อมสนับสนุน และตนว่า ทุกคนเข้าใจว่าต้องอาศัยความร่วมมือ ไม่อย่างนั้นจะไปไม่ได้ตามที่ตั้งใจไว้ ส่วนเรื่องอื่นคิดว่านายกฯ จะเป็นผู้ตอบคำถามดีที่สุดงๆ

“ปิยะสกล”ชี้เป็นเรื่องนายกฯ

    วันเดียวกัน นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกระแสปรับครม.ครั้งใหญ่ โดยกระทรวงสาธารณสุขอาจจะเป็นหนึ่งในนั้น ว่า การปรับ ครม.เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องของรัฐมนตรี คงไม่มีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์ ส่วนเรื่องผลงานของกระทรวงต้องให้คนนอกเป็นผู้ประเมินว่าที่ทำไปนั้นเพียงพอหรือไม่ ถ้าถามคนทำก็ต้องตอบว่าทำเต็มที่ อย่างเรื่องการแก้ไขปัญหาโรงพยาบาลขาดสภาพนั้นถือว่าดีขึ้นในทุกไตรมาส ส่วนที่อาจจะมีปัญหาอยู่ก็ต้องช่วยกันปรับไป ไม่ได้ไปเพ่งโทษ ส่วนโครงการก้าวคนละก้าวของ “ตูน บอดี้สแลม” เพื่อระดมทุนช่วยเหลือโรงพยาบาล 11 แห่ง นั้นเป็นกิจกรรมที่ดี เป็นการเอื้ออาทรต่อกันและกัน และเงินที่ได้จากโครงการเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และกระทรวงได้ส่งทีมบุคลากรทางการแพทย์ดูแลเรื่องสุขภาพของผู้ร่วมวิ่งตลอดเวลา ตลอดเส้นทาง

“ถาวร”แนะปรับครม.ครั้งใหญ่

     ด้านนายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำ กปปส. กล่าวว่า ถึงเวลาที่นายกฯ ต้องปรับครม.ครั้งใหญ่เสียที โดยปรับไปในคราวเดียวกันนี้ เพราะมีรัฐมนตรีบางคน บางกระทรวงที่รับกำกับดูแลงานไม่สามารถดูแลแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องเกษตรกรที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศได้ ซึ่งนายกฯ อาจจะเกรงใจ หรือเป็นสุภาพบุรุษชาติทหาร ให้โอกาสพรรคพวก เพื่อนฝูง พี่น้องในการบริหารงาน แต่ทำให้พี่น้องประชาชนขาดโอกาส เพราะที่ผ่านมากระทรวงที่น่าจับตามองที่ต้องปรับ ครม.ครั้งนี้คือ ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำเป็นประวัติการณ์ เช่น ข้าวหอมปทุม ที่ภาคเหนือ จ.เชียงราย ตกเหลือตันละ 5,200 บาท ในภาคใต้เหลือ 5,500 บาท ยางพาราแผ่นดิบตกเหลือ กก.ละ 39-41 บาท แล้วแต่พื้นที่ทั่วประเทศไทย เศษยางก้อนตกมากเหลือกก.ละ 18 บาท มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบมากกว่า 40 ล้านคน คือเกษตรกรชาวนา ชาวสวนยางพาราราว 30 ล้านคน และอีก 10 ล้านคนเป็นแรงงานรับจ้างที่เกี่ยวเนื่องในการจ้างทำนา หรือรับจ้างกรีดยาง

      “ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้โอกาสรัฐมนตรีทั้งสองท่านนี้คือ รมว.เกษตรฯ และรมว.พาณิชย์มามากพอแล้ว หลายครั้งแล้วในการแสดงฝีมือการบริหารแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ แต่ก็ล้มเหลว สินค้าหมวดเกษตรยังต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ชาวไร่ชาวนาเดือดร้อนถูกกดราคา หากจะให้โอกาสต่อไปก็ควรให้ หรือใช้ในเรื่องส่วนตัว แต่ไม่ใช่มาให้โอกาสทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีที่มีผลกระทบต่อชีวิต ความเป็นอยู่ ปากท้องค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน เกษตรกรคนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยและเจ้าของประเทศ ผมจึงเรียนท่านนายกฯ ว่าเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมของชาติ ท่านนายกฯ ควรจะปรับรัฐมนตรีทั้งสองกระทรวงนี้พ้นจากตำแหน่งได้แล้ว และควรจะเป็นการปรับ ครม.ครั้งใหญ่ โดยให้หาคนดีที่มีฝีมือ เป็นมืออาชีพมาทำหน้าที่แทนได้แล้ว” นายถาวร กล่าว

พท.ซัดม.44ทำพวกเดียวทนไม่ได้

      ขณะที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลาออก หลังหัวหน้า คสช.ใช้มาตรา 44 โยกย้ายอธิบดีกรมการจัดหางาน ว่า ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องคิดไตร่ตรองให้ละเอียดถึงผลกระทบของการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ที่เป็นอำนาจเบ็ดเสร็จ ปราศจากการตรวจสอบ และไร้การควบคุม ส่งผลกระทบในทางลบด้านใดบ้าง เพราะขนาด พล.อ.ศิริชัย ซึ่งเป็นรัฐมนตรีที่พล.อ.ประยุทธ์ตั้งมากับมือยังรับไม่ได้ ถึงขั้นนำคณะทำงานทั้งหมดลาออกในคราวเดียว แสดงว่าต้องมีปัญหากันอย่างหนักถึงขั้นร่วมงานกันต่อไปไม่ได้แล้ว จึงขอเรียกร้องให้พล.อ.ศิริชัยออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุที่แท้จริงของการตัดสินใจลาออก อย่างน้อยการลาออกอาจเป็นประโยชน์ในการสะท้อนปัญหาให้สังคมได้ช่วยกันตรวจสอบ มูลเหตุของการปลดอธิบดีกรมการจัดหางาน มาจากประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวที่มีความล่าช้าอย่างเดียวหรือไม่ หรือมีสาเหตุจากปัญหาอื่นๆ ในกระทรวงแรงงานหรือในคสช.หรือไม่

      นอกจากนี้ ผลกระทบจากการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวของรัฐบาลทำให้ต้นทุนผู้ประกอบการสูงขึ้นอย่างน้อย 40% ในขณะที่เศรษฐกิจวิกฤติ กำลังซื้อหดหาย แต่ผู้ประกอบการนายจ้างกลับมีต้นทุนด้านแรงงานที่สูงขึ้น ซึ่งรัฐบาลจะแก้ปัญหานี้โดยการโยนบาปให้ข้าราชการประจำฝ่ายเดียวไม่ได้ รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามอย่าใช้วิธีตัดตอนหรือโยนความผิดไปให้คนอื่นเพื่อให้ตัวเองพ้นความรับผิดชอบ การแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจะเป็นตัวชี้วัดว่าในช่วงท้ายของคสช.และรัฐบาลจะอยู่อย่างไร ถ้าแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจไม่ได้ ต่อให้ 100 โหร ออกมาเชียร์ ก็อยู่ต่อลำบาก

ราชกิจจาฯเผยมีผลตั้งแต่ 1 พ.ย.

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสํานักนายกรัฐมนตรี เรื่องรัฐมนตรีลาออก เนื่องด้วย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน ได้ขอลาออกจากตําแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ศิริชัย จึงสิ้นสุดลงตั้งแต่ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ตามความในมาตรา 170 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

ขณะเดียวกัน ที่กระทรวงแรงงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ได้มีทหารหลายนายเข้ามาขนของใช้ส่วนตัวของ พล.อ.ศิริชัย โดยส่วนใหญ่เป็นหนังสือ เอกสารต่างๆ เครื่องออกกำลังกาย และเก้าอี้นวดไฟฟ้า จนเกือบเต็มรถหกล้อของทหาร

"บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม"เห็นพ้อง"ประยุทธ์5"ลดทหารนั่งเก้าอี้รมต.

สนช.รับหลักการกฎหมายป.ป.ช.

     ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)เสนอ โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. กล่าวชี้แจงหลักการและเหตุผลว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การปราบปรามการทุจริตมีประสิทธิภาพและเกิดความเป็นธรรม เช่น การกำหนดระยะเวลาการไต่สวนของป.ป.ช. ซึ่งกรธ.คิดว่าควรไม่เกิน 2 ปี แต่สามารถต่อเวลา ถึงกระนั้นหากมีกรณีที่ไต่สวนเกินเวลาขึ้นมาจริงๆ ป.ป.ช.ก็ยังมีอำนาจในการตรวจสอบคดีดังกล่าวอยู่ เพียงแต่ป.ป.ช.ต้องไปตรวจสอบว่าเกิดปัญหาอะไรที่ทำให้ป.ป.ช.ทำการไต่สวนไม่เสร็จตามกำหนดเวลา โดยต้องแจ้งให้ประชาชนทราบด้วย

     นายมีชัย กล่าวว่า ขณะที่การตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของป.ป.ช.นั้น รัฐธรรมนูญกำหนดให้กรณีที่ของกรรมการป.ป.ช.กระทำความผิด สมาชิกรัฐสภาสามารถเข้าชื่อต่อศาลฎีกาให้ไต่สวนได้ แต่สำหรับกรณีของเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.กระทำผิดเสียเอง จะเป็นหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แต่สตง.ไม่มีอำนาจหน้าที่ชี้ขาด เพราะจะให้คณะกรรมการป.ป.ช.วินิจฉัยในชั้นสุดท้าย ซึ่งคิดว่าเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องไปพิจารณาในขั้นตอนของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ

ตั้ง 'วิชา-กล้านรงค์-พัชรวาท

     จากนั้นจึงเปิดให้สมาชิกสนช.อภิปราย โดยนายกล้านรงค์ จันทิก สมาชิกสนช. ในฐานะกรรมการพิจารณาศึกษา ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กล่าวว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า การไต่สวนสาธารณะ ในร่างกฎหมายที่ป.ป.ช.เสนอให้ กรธ.แล้วถูกตัดทิ้งไปนั้น ควรคงเนื้อหาส่วนนี้ว่า เพื่อให้สาธารณะมีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น ส่วนการยึดและอายัดทรัพย์นั้น ควรมีการกำหนดมาตรการเยียวยา ทั้งยังต้องทบทวนว่า กรอบเวลาการทำงาน 2 ปี ของป.ป.ช.นั้น จะมีผลกระทบหรือไม่

      ภายหลังอภิปรายราว 2 ชั่วโมง ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบรับหลักการ ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต วาระแรก ด้วยคะแนน 200 ต่อ 0 งดออกเสียง 4 พร้อมตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาราย มาตรา ในวาระที่ 2 ภายใน 58 วัน จำนวน 35 คน เช่น นายวิชา มหาคุณ ที่ปรึกษากรธ.และอดีตป.ป.ช. นายกล้านรงค์ จันทิก สนช.และอดีตป.ป.ช. น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ สมาชิกสนช. พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา สมาชิกสนช.และผบ.ตร. มีกำหนดแปรญัตติ 7 วัน

"บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม"เห็นพ้อง"ประยุทธ์5"ลดทหารนั่งเก้าอี้รมต.

สนช.ยันถกก.ม.ลูกทันตามกำหนด

     วันเดียวกัน นายพรเพชรกล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.ป.ในส่วนของสนช.ว่า สนช.ได้รับร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต จาก กรธ.แล้ว เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา คาดว่าน่าจะเป็นร่างกฎหมายลูกที่ยาวที่สุดเท่าที่ สนช.เคยได้รับมา โดยมีทั้งสิ้น 200 กว่ามาตรา ในขณะที่ สนช.และคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องกลับเหลือเวลาพิจารณากฎหมายฉบับนี้แค่ 58 วันเท่านั้น ดังนั้นเพื่อให้ทันกรอบเวลาการพิจารณาในส่วนของข้อกฎหมายที่เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่กระทบกับหลักการสำคัญของกฎหมาย ทางกรรมาธิการน่าจะตกลงกันได้เรียบร้อยไม่ต้องมาหารือในวาระ 2 และวาระ 3 อีก ส่วนเรื่องใหญ่ๆ อาทิ การรีเซตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) การส่งบัญชีทรัพย์สินของ ป.ป.ช. และอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. เรื่องเหล่านี้คงต้องมาอภิปรายกันในสภาและต้องลงมติ สุดท้ายแล้วเชื่อว่า สนช.น่าจะเร่งพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ดังกล่าวได้ทันตามกำหนดและสรุปได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม

 

ผู้สมัครกกต.สเปกเทพคนแรก

     ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ตามที่คณะกรรมการสรรหา กกต. ที่มีนายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธาน ได้เปิดรับสมัครบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งมาตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น ผลปรากฏว่า หลังเปิดรับสมัครมาเป็นเวลา 13 วัน เพิ่งมีผู้มาสมัครเป็นคนแรก คือ นายเรืองวิทย์ เกษสุวรรณ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ อายุ 61 ปี ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหาฯ จะเปิดรับสมัครไปจนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ ผู้ที่สนใจสามารถยื่นหนังสือได้ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 2 ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพฯ และชั้น 1 อาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่น เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ

ผู้ตรวจฯให้แจงกรณีเซตซีโร่กกต.

     ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงความคืบหน้าหลังที่ประชุมผู้ตรวจการฯ มีมติรับคำร้องกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ขอให้วินิจฉัยและเสนอความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า มาตรา 70 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. มีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งหลังจากมีมติดังกล่าว ล่าสุดได้ลงนามในหนังสือถึงประธานสนช. และประธาน กรธ. เพื่อให้ชี้แจงและอธิบายเหตุผลของการร่างกฎหมายดังกล่าว โดยเฉพาะเจตนารมณ์ในการบัญญัติมาตรา 70 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. ที่กำหนดให้มีการเซตซีโร่ ประธาน กกต. และกรรมการ กกต. ชุดปัจจุบัน โดยในเบื้องต้นไม่ได้มีการกำหนดกรอบเวลาในการชี้แจง แต่ตามขั้นตอนปกติที่ต้องดำเนินการส่งหนังสือชี้แจงกลับมา คือ 30 วัน อย่างไรก็ตาม หลังได้รับคำชี้แจงจาก สนช.และ กรธ.แล้ว ทางผู้ตรวจฯ ก็จะนำข้อมูลที่ได้รับมาพิจารณาว่ามีมูลหรือมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตามที่ผู้ร้องได้ร้องหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นทางผู้ตรวจฯ ยังไม่มีประเด็นที่จะต้องสอบถามนายสมชัย เพียงแต่ได้แจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าของกระบวนการเท่านั้น

 

‘อภิสิทธิ์’แจงปชป.ไม่ได้จี้ปลดล็อก

     วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ 101 องศาข่าว กรณีปลดล็อกพรรคการเมืองให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองว่า พรรคประชาธิปัตย์พูดคุยกันเป็นการภายใน และมีข้อตกลงว่าจะไม่เรียกร้องให้ปลดล็อก แต่ขณะนี้มีปัญหาที่กฎหมายขัดกันระหว่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และคำสั่ง คสช. ดังนั้น การไม่สามารถปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขของกฎหมายพรรคการเมืองก็อาจจะสร้างปัญหา ที่ผ่านมาได้มีการพูดเป็นการภายในกับทุกคนในพรรคว่า เป็นช่วงของพระราชพิธี เพราะฉะนั้น ไม่มีความเหมาะสมที่จะทำกิจกรรมการเมืองอะไรทั้งสิ้น อะไรที่เตรียมตัวเป็นการภายในได้ก็เตรียมตัวไป พอเสร็จสิ้นพระราชพิธีก็คุยกันภายในว่าไม่ต้องไปเรียกร้องอะไร แม้วันนี้ คสช.บอกว่ายังไม่เหมาะสม ก็อยากให้ คสช.ลองทำความเข้าใจกับกฎหมายที่เป็นคนออกมาเอง เช่น กรณีที่เกี่ยวกับการแก้ไขฐานข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกทั้งหมดต้องทำภายใน 60 วัน อยากให้ช่วยประสานงานกับทาง กกต. และทางกรมการปกครอง ให้พรรคการเมืองสามารถนำฐานข้อมูลในคอมพิวเตอร์ไปเทียบกับฐานสมาชิกได้

"บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม"เห็นพ้อง"ประยุทธ์5"ลดทหารนั่งเก้าอี้รมต.

     นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีกรณีพรรคการเมืองที่จัดตั้งใหม่ จะมีการหาสมาชิกได้นั้น ต้องมีระเบียบของ กกต.กำหนด แต่ขณะนี้ กกต.ก็ยังไม่ออกระเบียบ เพราะเหมือนกับ กกต.คิดว่าถ้า คสช.ยังไม่ปลดล็อก ก็จะรอก่อน ซึ่งถ้า กกต.ออกระเบียบมา แม้ตอนนี้ยังไปทำอะไรไม่ได้ แต่อย่างน้อยพรรคการเมืองจะได้เตรียมตัวจัดทำรูปแบบวิธีการ รายงาน แบบฟอร์ม สิ่งที่จำเป็นต้องใช้ ซึ่งเป็นการเตรียมการภายในโดยไม่มีผลเสีย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไม่ได้เรียกร้อง เพียงแต่ว่าอะไรที่เราเห็นว่าจะช่วยให้การทำงาน การบริหาร แล้วก็การเดินหน้าของบ้านเมืองราบรื่นก็ทำเสีย ถ้า คสช.ไม่เข้าใจ คสช.จะเชิญพรรคการเมืองไปถามก็ยังได้ ทำไมเราหาวิธีทางออกแบบนี้ไม่ได้ ทำไมเราจะต้องให้เกิดการมาโต้แย้ง โต้เถียง เกิดความขัดแย้งกันในบ้านเมือง

 

“สมชัย”จ่อถกไม่รอปลดล็อก

   ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกลาง กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ มีข้อเสนอขอให้ กกต.ออกประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้องของพรรคการเมืองโดยเร็ว แม้ว่าจะยังไม่มีการปลดล็อคพรรคการเมือง ว่า เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ เพราะเดิม กกต.เคยมีความเห็นร่วมกันว่า แม้ออกระเบียบและประกาศแต่พรรคก็ยังไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้หากไม่มีการปลดล็อกพรรคการเมือง แต่ในเมื่อสัญญาณการปลดล็อกพรรคการเมืองยังไม่ชัดเจน การออกประกาศ และระเบียบทันที อาจเป็นการช่วยผ่อนคลายให้พรรคการเมืองดำเนินการได้ล่วงหน้าในส่วนที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องปลดล็อก โดยในวันอังคารที่ 7 พฤศจิกายนนี้ จะได้นำประเด็นดังกล่าวหารือในที่ประชุม กกต. เพื่อให้มีมติอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป

ชำแหละพ.ร.ป.ส.ส. ฉบับ"มีชัย”

     นอกจากนี้ นายสมชัยยังกล่าวถึงเนื้อหาของร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ฉบับการพิจารณาของกรธ.ว่า สำหรับการกำหนดเรื่องหมายเลขผู้สมัครของพรรคการเมืองจะแตกต่างกันไปในแต่ละเขตเลือกตั้ง จะทำให้เกิดความสับสนอลหม่าน เพราะข้ามเขตเบอร์พรรคก็เปลี่ยนไป ทำให้ผู้มีสิทธิต้องจดจำหน้าผู้สมัครแทน หัวหน้าพรรคการเมืองเวลาหาเสียงทางทีวี คงบอกได้แค่ชื่อพรรค ไม่สามารถบอกว่าให้เลือกเบอร์ใดได้ บัตรเลือกตั้ง หากมีชื่อพรรคอยู่ในบัตร ต้องพิมพ์แตกต่างกัน 350 แบบ การรักษาความปลอดภัยในการจัดพิมพ์บัตรทำได้ยากขึ้น โอกาสปลอมบัตรมีมากขึ้น การนับคะแนนที่หน่วยไม่มีปัญหา แต่การรวมคะแนนพรรคการเมืองทั้งประเทศด้วยเบอร์ที่แตกต่างกันของแต่ละพรรคในแต่ละเขต คงวุ่นวาย ใช้เวลามากขึ้นหลายเท่า และมีโอกาสผิดพลาดในการประกาศผล การติดตามตรวจสอบจากพรรคการเมืองและองค์กรเอกชนสังเกตการณ์เลือกตั้งทำได้ยากยิ่ง ทั้งนี้ เห็นว่าหากเขียนกฎหมายกำหนดในลักษณะนี้ กกต.สามารถดำเนินการได้ และไม่น่าเป็นประเด็นโต้แย้งว่าขัดรัฐธรรมนูญ

"บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม"เห็นพ้อง"ประยุทธ์5"ลดทหารนั่งเก้าอี้รมต.

      นายสมชัย กล่าวต่อว่า ส่วนการกำหนดให้วิธีการเลือกตั้งต้องใช้บัตรเลือกตั้ง เพราะหากจะใช้วิธีการอื่นได้ กกต.ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเป็นวิธีการที่สามารถป้องกันการทุจริตได้ดีกว่า มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า และเป็นการเลือกโดยตรงและลับ ซึ่งเห็นว่า ขณะนี้เทคโนโลยีการจัดการเลือกตั้งในประเทศต่างๆ ก้าวไปไกล เช่นในสหรัฐอเมริกา มีการใช้เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ในทุกหน่วยเลือกตั้ง ประเทศในเอเชีย เช่น อินเดีย เนปาล ภูฏาน มีการใช้เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ทั้งประเทศ ฟิลิปปินส์ มีการใช้เครื่องอ่านบัตร นับและส่งผลคะแนนทางอิเล็กทรอนิกส์ ออสเตรเลีย มีการเปิดให้คน 4 กลุ่ม คือ คนในต่างประเทศ คนในพื้นที่ห่างไกล คนพิการ และบุคคลที่มีเหตุจำเป็นสุดวิสัยสามารถใช้สิทธิทางอินเทอร์เน็ตได้

      “กรรมการการเลือกตั้งไทย ได้พัฒนาระบบการใช้เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ และเตรียมนำร่องให้คนไทยในต่างประเทศบางประเทศสามารถใช้สิทธิ์ทางอินเทอร์เน็ตได้ หลังจากที่ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ออกมา คงต้องถอยหลังไปใช้บัตรเลือกตั้งต่อไปอีกนาน เพราะ กกต.คงไม่เสี่ยงไปอยากพิสูจน์อะไร ทำแบบเดิมต่อไป ไม่ผิดดีกว่า การเขียนกฎหมายกำหนดให้เป็นลักษณะนี้ กกต.สามารถดำเนินการให้ได้ และไม่เป็นประเด็นโต้แย้งว่าขัดรัฐธรรมนูญ” นายสมชัยกล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ