ข่าว

"นายกฯ"ลั่นใหญ่โตแค่ไหนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"นายกฯ"ย้ำรัฐบาลทำทุกอย่างให้ทุกคนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม"ฟุ้ง"รัฐบาลให้ความสำคัญกับประชาธิปไตย "วอน"เคารพเสียงส่วนใหญ่ 

             29 ก.ย.60 ที่บริเวณเวทีด้านข้างอาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา วิทยาเขตสตูล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดโครงการเน็ตประชารัฐ โดยมีนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายนิพนธ์ รัตนพิเฎฐชัย ผวจ.สตูล และข้าราชการ นักเรียน ประชาชน ประมาณ 2,000 คน ให้การต้อนรับ จากนั้นนายกฯชมการแสดง สืบสานวัฒนธรรมถิ่นใต้ วิดีทัศน์ความเป็นของโครงการเน็ตประชารัฐ รับฟังผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้านถึงโครงการเน็ตประชารัฐผ่านเว็บคอนเฟอร์เรนซ์ จาก 5 จังหวัด ได้แก่ จ.ราชบุรี พะเยา หนองคาย สระแก้ว และกระบี่ ก่อนทำพิธีมอบ Wi-fi แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และตัวแทนประชาชน

            พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่ง ว่า ใครที่ต้องการมาประท้วงนั้นไม่ต้องทำ ทั้ง 4-5 กลุ่ม ขอให้ส่งเรื่องมาเดี๋ยวจะดูให้ วันนี้ถือว่าเดินทางมาสตูลเป็นครั้งแรก "เคยมีนายกฯคนไหนมาแล้วบ้าง มีหรือไม่มี คราวหน้าก็เลือกนายกฯ ที่เดินทางไปทุกจังหวัดซิ ไม่ใช่เลือกไปเฉพาะจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง เงินก็จะไปลงที่จังหวัดนั่น จังหวัดนี้ก็ไม่ได้ ที่ทำก็ไม่ได้กันทั้งหมด ไม่ทั่วถึง เข้าใจกันหรือยัง" สำหรับการพัฒนาศักยภาพ ยกระดับความเป็นอยู่ของจังหวัดสตูล ทุกฝ่ายต้องร่วมมือเพราะปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สังคมเมืองเกิดขึ้นมากปัญหาย่อมเกิดขึ้นเป็นธรรมดา ก็ต้องร่วมมือกันแก้ไข อย่างปัญหาอุทกภัย ปัญหาการจัดการขยะนั้นก็ต้องแก้ทั้งระบบครบวงจรโดยอาศัยความสามัคคีปรองดอง การพูดคุย การเปิดเวทีสาธารณะ ถือเป็นการบริหารจัดการตัวเองก่อนซึ่งทั้งหมดจะแก้ได้ด้วยตนเอง วันนี้โลกแบ่งเป็นหลายขั้ว ประเทศเล็ก ๆ จึงต้องเผชิญกับปัญหา  เพราะประเทศมหาอำนาจส่วนใหญ่เป็นผู้กำหนดกติกา และประเทศที่มีเศรษฐกิจการค้าขนาดใหญ่ ซึ่งเราไม่สามารถเอาตัวออกจากเขาไม่ได้  จึงต้องทำตามกติกาของสากลโลก อย่างเรื่องการค้าก็ต้องทำตามกฎขององค์การการค้าโลก (WTO) ถ้าเราฝืนกฎก็มีการฟ้องเราก็จะแป็กทั้งประเทศ

              "ผมจึงต้องการให้ทุกคนมองไปข้างหน้า มองอย่างมีวิสัยทัศน์ ผู้สูงอายุอย่างผมบางคนมีรายได้ปีละ 3 ล้านบาท ก็ขอร้องว่าอย่าไปขอรับเบี้ยผู้สูงอายุเลย ขอให้เสียสละบ้าง แต่ก็คงไปบังคับไม่ได้เพราะประเทศเราเป็นประชาธิปไตย ซึ่งต้องยอมรับว่าประชาธิปไตยเป็นเรื่องดี เป็นการปกครองที่ดี ประเทศไทยและผมก็ยอมรับถึงแม้ผมจะเข้ามาแบบนี้ก็ตาม แต่ทำอย่างไรให้ประเทศไทยเคารพเสียงส่วนใหญ่ก่อน พร้อมกับดูแลเสียงส่วนน้อย บางครั้งเสียงส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้ดูแลให้ทั่วถึง ดังนั้นประชาธิปไตยต้องสร้างหลักคิดความเป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้อง โดยจะต้องมีกติกา ต้องมีกฎหมาย ต้องมีระเบียบในการบริหารประเทศและการปฏิบัติตัวของทุกคน กติกาที่ออกมาไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อบังคับใคร เพราะกฎหมายเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกคนมีความเท่าเทียม เพราะทุกคนใช้กฎหมายฉบับเดียวกัน ไม่ว่าใครจะใหญ่โตขนาดไหน เมื่อทำผิดกฎหมายก็ต้องลงโทษให้ชัดเจน รัฐบาลชุดนี้เข้ามาเพื่อให้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องของผม จะไปบอกว่าใครผิดหรือถูกไม่ได้ ทุกอย่างเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม แม้แต่การประกาศใช้มาตรา 44 ผมก็ต้องนำเรื่องทั้งหมดเข้าไปสู่ศูนย์ต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำหน้าที่และพิสูจน์ทราบออกมาว่าใช่หรือไม่ใช่ เพราะฉะนั้นขอร้องว่าอย่าให้ใครมาบิดเบือน วันนี้เราต้องร่วมมือกัน ซึ่งทั้งหมดแก้ได้ด้วยประชาชนด้วยการบริหารจัดการตัวเองที่ถูกต้องและคิดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ถ้ามัวไปคิดต่อต้านรัฐบาล ต่อต้านการทำงานในเรื่องต่าง ๆ โดยไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ ประโยชน์ต่าง ๆ ก็ไม่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชาชนเอง บางครั้งผมต้องใช้เวลาอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ร้อนใจ " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

               นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ปัญหาต้องเริ่มต้นด้วยการแก้ด้วยตัวเองก่อน และส่วนราชการต่าง ๆ ก็ต้องพร้อมเข้าไปร่วมมือและช่วยเหลือ รวมทั้งการให้ข้อมูลในภาพใหญ่ก่อน บางครั้งบางส่วนก็ต้องยอมเสียสละบ้าง การรวมกลุ่มกันเคลื่อนไหวเรียกร้องสารถทำได้แต่ต้องเป็นคนในท้องถิ่นคนของชุมชนอย่างแท้จริง อย่าปล่อยให้คนอื่นเข้ามาชี้นำถ้าปล่อยให้คนนอกเข้ามาปัญหาก็ยังคงมีอยู่แบบเดิม เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้ค้านทุกเรื่อง เราต้องสร้างความเข้าใจ

              ขอปชช.ทบทวนประโยชน์สร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา ยันรัฐไม่ฝืนเสียงประชาชน อยู่บนความเข้าใจ ไม่ใช้ก.ม.บังคับ

               นายกฯ กล่าวว่า โลกมีการเปลี่ยนแปลง ต้องเรียนรู้ปรับตัวตลอดชีวิต ระบบการศึกษาเราไม่มีปัญหาอะไรมาก เพียงแต่ครูต้องสอนถึงเหตุถึงผล มีประโยชน์ นำวิชานี้ไปใช้อย่างไร เด็กวันนี้เรียนจบมา จะทำงานตรงไหนก็ยังไม่รู้ เมื่อวานมีขำอยู่เรื่องในการประชุมหัวหน้าส่วนราชาร ระดับปลัดกระทรวง ซึ่งมีปลัด 1 ในกระทรวง รัฐบาลให้ไปหาเด็กมาเป็นข้าราชการคนรุ่นใหม่ ปรากฏว่าเขาไปเอาเด็กได้รับทุนการศึกษา เรียนจบเมืองนอกกลับมา เก่งระดับหนึ่ง แต่ปรากฏว่า เมื่อเรียกมาสัมภาษณ์ พอปลัดจะสัมภาษณ์ กลับถามมาก่อนว่า ท่านปลัดจะพูดให้ผมรู้สึกอย่างไรอยากทำงานให้กับท่าน แบบนี้มันมีด้วยเหรอ อย่างนี้มันน่าไหม คนเราจะต้องมีสติ สัมมาคาวระ รู้อะไรควรไม่ควร แถมยังพูดด้วยว่าถ้าอยากได้ผมทำงานจะเสนออะไรให้ผม เงินเดือนเท่าไหร่ ทำงานที่บ้านได้หรือไม่ มันเป็นไปได้ไหม แต่มีจริง นี้คือสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป การนั่งทำงานที่บ้านไม่ใช่ข้าราชการ อย่าเอามาปะปนกัน คนสมัยนี้เลือกแต่สิ่งดีๆให้กับตัวเอง แต่คนเป็นข้าราชการต้องมานั่งทำงานที่ทำงาน ลงเยี่ยมเยือนประชาชน ใช้ดิจิตอลสื่อสาร

              นายกฯ กล่าวว่า โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ที่มีการโวยวายกันตอนนี้ต้องมีการตรวจสอบ โดยท้องถิ่นต้องเข้าไปดูแล เพราะเรื่องนี้ได้มอบหมายให้พื้นที่ดูแลความต้องการของประชาชน ทั้งนี้ตนไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการทุจริต มีหรือไม่มีอย่างไร แต่ต้องตรวจสอบให้ได้มาก ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้ว สำหรับโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่ หน่วยงานต้องถามความต้องการของประชาชน อย่างโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ที่เกรงว่าจะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเกาะหลีเป๊ะ ต้องทบทวนสร้างท่าเรือได้หรือไม่ ถ้าไม่เกิดขึ้น ก็ต้องอยู่กันแบบนี้ แต่ถ้าต้องการให้ต้องหาวิธีการป้องกัน หาทางออกให้รัฐบาลหน่อย เหมือนเรื่องสร้างโรงไฟฟ้า บอกว่าจะไม่เอา แต่ไฟฟ้าดับเอายังไง ภาระทั้งหมดต้องร่วมมือกัน มีระเบียบมากกมาย รัฐบาลไม่อยากบังคับ ต้องอยู่ด้วยความเข้าใจ กฎหมายมีไว้เป็นหลักเกณฑ์ คนไม่ไปละเมิดก็ลดความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนได้ รัฐบาลหวังเพียงไม่ให้มีการทุจริต อย่างเรื่องของประมง ถ้าเกิดเขาไม่ซื้อาหารประมงจากไทย รวมถึงอาหารกระป๋อง เราจะขายกับใคร ขายคนในประเทศก็กินไม่หมด ขอให้ทำตามกติกาเท่านั้น เพราะเราไม่ได้ดูตรงนี้มานานแล้ว 

              ขออย่าสร้างวิกฤตการเมืองอีก โวปชช.ตอบ 4 คำถามล้านกว่ามีความรู้ระดับประถม แต่สนใจเรื่องการเมือง-ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ขอทุกคนร่วมมือสู่ปชต.ที่ไม่ทำความเสียหายเช่นเดิม

               นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ปัญหาของเราคือเรื่องความขัดแย้ง การเมือง การแบ่งฝ่าย การบิดเบือน การให้ร้ายซึ่งกันและกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นอันตรายในช่วงที่เรากำลังมีโอกาส ฉะนั้น เราอย่าไปสร้างวิกฤตขึ้นมาเอง  

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯยังได้สอบถามประชาชนที่มาร่วมในงานว่า "ได้ไปตอบคำถามผม 4 ข้อหรือยัง" พร้อมกล่าวด้วยว่า ขอให้ช่วยกันไป วันนี้คนไปเขียนเป็นล้านคนแล้ว มากกว่าโพลทุกโพล ตนอ่านมาไม่ได้เขียนเชียร์ทุกคนมีเขียนด่าตนก็มี แต่ไม่เป็นไร เขามีความคิดเห็นเพิ่มเติมตนก็พอใจ แล้วตนก็เอามาปรับแก้ไข เอามาถ่ายทอด หน่วยงานก็รับไป สิ่งสำคัญที่สุดคือคนที่มาเขียนล้านกว่าคนความรู้ระดับประถม ไม่ได้มีความรู้สูง นั่นแสดงให้เห็นว่ามีคนสนใจการเมืองที่ถูกต้อง ประชาธิปไตยที่ถูกที่ควร และหลักใหญ่ที่เขาเขียนมาก็คือ อยากให้บ้านเมืองสงบ อยากให้มีการปฎิรูป อยากให้มีธรรมาภิบาล

              นายกฯ กล่าวอีกว่า เป็นธรรมดาคน 70 ล้านคน คงเห็นตรงกันกับตนไม่ได้ แต่ขอให้ทุกคนเอาประเทศมาเป็นหลัก เอาปัญหาและวิกฤตเป็นหลัก แล้วจะหาทางออกให้ประเทศได้เอง นั่นคือการบริหารจัดการตนเอง ไม่ใช่มุ่งแต่เรื่องการกระจายอำนาจเอาแต่งบประมาณเยอะ ๆ และหวังว่าสิ่งที่รัฐบาลทำเวลานี้จะเป็นประโยชน์กับท่านไม่มากก็น้อย ขอให้ทุกคนเพิ่มการสร้างการเรียนรู้ ความเข้าใจ ความร่วมมือ เรียนรู้การบริหารจัดการตนเอง และการเตรียมการไปสู่ประชาธิปไตยที่จะต้องไม่ทำความเสียหายเช่นเดิมอีกต่อไป

               ทั้งนี้ ภายหลังกล่าวกับประชาชนนายกฯได้มอบถุงยังชีพให้ผู้นำศาสนา และผู้นำท้องถิ่น พร้อมมอบอุปกรณ์กีฬาให้นักเรียน โรงเรียนบ้านราไว ก่อนเดินทักทักทาย ร่วมถ่ายรูป รับของที่ระลึกจากผู้ที่มาร่วมงาน และเดินชมซุ้มจัดแสดงด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวของกับเน็ตประชารัฐ ที่อาคารเรียนรวม

 

            

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ