ข่าว

นายกฯ ยันภาพรวมศก.ไทยดีขึ้น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ประยุทธ์" ขออย่าบิดเบือนเศรษฐกิจไทยแย่ แจงผลผลิตเกษตรราคาปรับสูงขึ้น 



 

          22 ก.ย. 60 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า สถานการณ์ในภาพรวมของประเทศในปัจจุบันด้านเศรษฐกิจ ล่าสุดตามหลักการ ตามวิชาการ หรือตามหลักเศรษฐศาสตร์ หลายอย่างปรับตัวดีขึ้น ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาสินค้าเกษตรในหลายหมวดปรับเพิ่มขึ้น เช่น ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี หัวมันสำปะหลังสด ปาล์มทะลาย และยางแผ่นดิบ ก็มีราคาที่สูงขึ้นพอสมควร

          ส่วนด้านธุรกิจในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 แสดงว่าทุกคนมีความมั่นใจมากขึ้น นับเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 4 ปี ที่ผ่านมา จากมาตรการของภาครัฐด้านภาษี เพื่อจะส่งเสริม และอำนวยความสะดวกในการประกอบกิจการ และสนับสนุนให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชน สอดคล้องกับที่ U.S. News ได้จัดให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 1 ของประเทศที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ด้วย 

          "นี่แหละครับคือความเป็นจริง ฉะนั้นที่พูดๆกันอยู่ก็ขอให้ฟังทางผมบ้าง หลายประเทศก็ให้ความมั่นใจกับประเทศไทยในเวลานี้ รัฐบาลก็จะเดินหน้าส่งเสริมในเรื่องของการลงทุนภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถกลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อีกครั้ง อันนี้ผมก็เป็นกังวลกับประชาชนระดับล่าง ระดับฐานราก ซึ่งอาจจะยังไม่เชื่อมโยงตรงนี้ เราก็พยายามอย่างเต็มที่ ทั้งมาตรการในการช่วยเหลือ มาตรการในการกำหนดราคาข้าวเปลือก หรือสินค้าการเกษตร บางอย่างได้ตามพันธะสัญญาที่เราสามารถทำได้เอง ที่ไม่ไปละเมิด WTO อะไรต่างๆ เขาทำตามมาตรการเหล่านี้ นี่เป็นความแตกต่างนะ อย่ามาบอกว่าประชานิยมเหมือนกัน มันคนละเรื่องกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าอะไรก็ตามที่ทำได้แล้วไม่ขัดหลักการของ WTO หรือหลักการพันธะสัญญากับนานาประเทศ ทำได้ทั้งหมด แต่ปัญหาคือเราจะหาเงินจัดได้อย่างไร ตนพูดอีกข้างหนึ่งว่า ถ้าเราสนับสนุน ส่งเสริม เรื่องสาธารณสุข เรื่องการศึกษา เรื่องเกษตรมากๆ โอเคเป็นสิ่งที่เราควรจะต้องทำ แต่จะทำอย่างไร ให้เขาเข้มแข็งได้ ไม่ใช่จะให้อย่างเดียว ไปเรื่อยๆ จนเขาเคยชินมากๆ แล้วถึงเวลาพอไม่ได้แบบนั้น ก็มีปัญหากับการบริหารราชการแผ่นดิน

          "อย่างนี้ไม่ได้ โทษเขาไม่ได้ เพราะรัฐบาลที่ผ่านมา หลายๆ รัฐบาลก็ไม่ได้คิดตรงนี้ อาจจะไปคิดในแง่ของการให้ความช่วยเหลือซะมาก อาจจะไม่ได้คำนึงถึงว่าเราจะหารายได้ที่ไหน ที่ผมพูดหมายความว่า ช่วงนี้เรายังไม่มีเงินมากพอที่จะทำให้มันดีมากกว่านี้อีกหลายเท่า แต่เราก็ทำให้มันดีขึ้น นโยบายการศึกษา แต่มันไม่ดีทั้งหมด ความต้องการ ความอ่อนแอมันมาก เพราะมันไม่ได้แก้อย่างเต็มระบบ ครบวงจร ในช่วงที่ผ่านมา" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เราต้องแก้ไขวงจรเหล่านั้น คราวนี้เงินมันก็ต้องเพิ่มขึ้น เมื่อเพิ่มขึ้นผมก็บอกว่า วันนี้ถ้าทุกคนเรียกร้องทั้งหมด มันไม่มีเงินให้ จะมาบอกว่าให้ตัดตรงโน้นไปใส่ตรงนี้ ตรงนี้ไปใส่ตรงนั้น ตรงอื่นก็ไม่ต้องทำ มันก็ไม่ได้อีก ตนถึงต้องอธิบายต่อไปว่า ต้องไปปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ของเรา หารายได้เข้าประเทศ เก็บภาษีจากรายได้ใหม่เหล่านั้นให้มากยิ่งขึ้น การลงทุนใหม่ยิ่งมีราคาสูงมากยิ่งขึ้น เพื่อจะนำเม็ดเงินเหล่านั้นมาเติมตรงนี้ 

          "เพราะฉะนั้นหลายคนก็มาบิดเบือนว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับคนรายได้น้อย ให้ความสำคัญกับการซื้อของ ให้กับการลงทุนขนาดใหญ่ เอื้อประโยชน์กับคนมีรายได้มาก ทำนองนี้ มันก็ตีกันอยู่แบบนี้ ไม่มีประเทศไหนหรอกครับที่เขาจะเอาเงินไปทุ่มด้านใดด้านหนึ่ง อย่างเดียว มีมากน้อยตามความสำคัญไป แต่มันต้องทำทุกอัน เข้าใจด้วย วันหน้าจะได้ไม่วุ่นวายอีก" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว.

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ