ข่าว

"เรืองไกร"ร้อง"ป.ป.ช."สอบ"ครม.มาร์ค"ซื้อเรือเหาะมิชอบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"เรืองไกร" ร้อง "ป.ป.ช." สอบ "ครม.อภิสิทธิ์" ใช้ งบกลาง 350 ล้าน ซื้อ "เรือเหาะ" มิชอบ อ้างหลักเกณฑ์ที่ยกเลิกไปแล้วมาพิจารณา แถมไม่เข้าเกณฑ์จำเป็นเร่งด่วน

22 ก.ย.60 - เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อประธานป.ป.ช. ผ่านนายสุทธิ บุญมี ผอ.สำนักการข่าวและกิจการพิเศษ เพื่อขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบคณะรัฐมนตรีสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ  กรณีที่ประชุมครม.ในขณะนั้นมีมติอนุมัติให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)เบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2552 งบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อจัดหาระบบเรือเหาะพร้อมกล้องตรวจการณ์กลางวัน กลางคืน วงเงิน 350 ล้านบาท เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่
 
                นายเรืองไกร กล่าวว่า การที่ครม.อภิสิทธิ์ ได้มีมติอนุมัติแนวทางปฏิบัติกรณีการขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ในวันที่ 17 ก.พ.2552 ซึ่งมีการกำหนดหลักเกณฑ์ว่าจะต้องเป็นกรณีที่จำเป็นและเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการเท่านั้น ส่วนกรณีที่มีวงเงินเกินกว่า 100 ล้านบาท ให้เสนอ ครม.พิจารณาอนุมัติในหลักการก่อน รวมถึงได้ยกเลิกแนวทางปฏิบัติกรณีการขออนุมัติใช้เงินงบกลาง จากมติ ครม.เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2551 ด้วย ต่อมาในการประชุม ครม.ในวันที่ 10 มี.ค.2552 ก็มีมติอนุมัติให้ กอ.รมน.เบิกจ่ายงบกลาง เพื่อจัดหาระบบเรือเหาะพร้อมกล้องตรวจการณ์ วงเงิน 350 ล้านบาท โดยอ้างมติ ครม.เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2551 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ครม.มีมติยกเลิกแนวทางดังกล่าวไปแล้ว ดังนั้น การที่ ครม. เมื่อวันที่ 10มี.ค.มีมติอนุมัติให้ กอ.รมน.เบิกจ่ายงบกลาง เพื่อจัดหาระบบเรือเหาะพร้อมกล้องตรวจการณ์ วงเงิน 350 ล้านบาทจึงน่าจะไม่ชอบ และอาจจะไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การใช้งบกลาง ที่ใช้ได้เฉพาะกรณีที่จำเป็นและเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการเท่านั้น และหากกรณีดังกล่าว ครม.ไม่ได้อนุมัติในหลักการก่อนตามหลักเกณฑ์ของวงเงินงบประมาณที่เกินกว่า 100 ล้านบาท จึงถือเป็นการฝ่าฝืนมติ ครม.เสียเอง นอกจากนั้น การที่เรือเหาะใช้การไม่ได้ตามวัตถุประสงค์และมีการยกเลิกไปแล้วนั้น ก็เป็นข้อเท็จจริงว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้จำเป็นเร่งด่วนแต่อย่างใด จึงอาจเข้าข่ายก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ จึงขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ