"หมอวรงค์" ชำแหละ 8 ประเด็น จำนำข้าวจีทูจีเก๊

 

         14 ก.ย.60-น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว "Warong Dechgitvigrom" ในหัวข้อ "มหากาพย์โกงข้าว ตอนอวสานต์จีทูจี (1)" ว่าการทำธุรกิจนั้น สัญญาถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทำไมนายบุญทรงจึงพูดว่า "กูพูดไม่ได้" ลองมาดูพิรุธของสัญญาระบายข้าวแบบจีทูจี ประกอบด้วย 1.สัญญาตกลงซื้อขายเป็นเงินบาท และเป็นการส่งมอบแบบหน้าคลัง(Ex-warehouse) แทนที่เป็นการส่งมอบที่ท่าเรือของประเทศผู้ขาย (FOB) หรือท่าเรือประเทศผู้ซื้อ(CIF) รวมทั้งไม่กำหนดให้ส่งหลักฐานใดๆว่าข้าวได้ส่งออกแล้ว จึงทำให้ง่ายต่อการเวียนเทียนข้าวในประเทศ 

          2.การขายข้าวค้างเก่าในสัญญาฉบับแรก รัฐบาลมีข้าว 2.189 ล้านตัน แต่ตกลงขายข้าว 2.195 ล้านตัน ซึ่งมากกว่าของที่มีอยู่จริง ซึ่งเป็นสิ่งไม่น่าเกิดขึ้นสำหรับการขายแบบรัฐต่อรัฐ ที่คู่สัญญาต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

          น.พ.วรงค์ ระบุต่อไปว่า 3.การทำสัญญาฉบับแรก (ทั้งหมดมี 4 ฉบับ) มีปริมาณข้าวหลายล้านตัน แต่ทำสัญญาโดยไม่แยกชนิดข้าว แต่ตกลงขายแบบเหมารวมราคาเดียวกันทำให้ผู้ซื้อเลือกแต่ข้าวราคาแพงออกไป เช่นเลือกเอาแต่ข้าวหอมมะลิออกไปขาย เพราะราคาแพง 

           4.การตกลงราคาข้าวจำนวนหลายล้านตัน ระยะเวลาส่งมอบ 10 เดือน (ตอนหลังมีการแก้ไขสัญญาเอื้อผู้ซื้อ) แต่กำหนดราคาข้าวครั้งแรกทีเดียว เป็นการตกลงที่ผิดปกติ เพราะราคาข้าวมีการขึ้นลงตลอด โดยปกติการตกลงราคา จะตกลงเป็นช่วงๆ ให้สัมพันธ์กับราคาตลาดในช่วงนั้น

           5.การกำหนดคุณภาพข้าวที่ซื้อขายว่า สำหรับคนบริโภค (for human consumption) ก็ผิดปกติ และเป็นเงื่อนไขที่กว้างมาก เพื่อเอื้อให้ผู้ซื้อเลือกข้าวอะไรก็ได้ตามใจชอบ เพราะปกติจะกำหนดเป็นมาตรฐานข้าวไทย ข้าวชนิดอะไรให้ชัดเจน

          6.การทำสัญญาฉบับที่สอง กำหนดข้าวไว้ 4 ชนิด แต่ไม่กำหนดปริมาณข้าวแต่ละชนิด และไม่กำหนดระยะเวลาส่งมอบข้าวแต่ละชนิดในแต่ละเดือนให้ชัดเจน

           7.ตามสัญญาไม่มีข้อตกลงชดใช้ค่าเสียหายกรณีผิดสัญญา จึงทำให้ผู้ซื้อฉวยโอกาสรับข้าวไม่ครบ ถ้าตนเองได้ประโยชน์ไม่เต็มที่

           8.ราคาขายข้าวทั้งสี่สัญญาต่ำกว่าท้องตลาด โดยเฉลี่ยมากกว่า 20% เป็นราคาที่ต่ำผิดปกติ เพราะปกติแล้ว เอกชนสามารถทำกำไร จากการส่งออกได้เพียง   1-2% เท่านั้น

          "สิ่งที่กล่าวมาเป็นเพียงข้อพิรุธของสัญญา การระบายข้าวแบบจีทูจี ยังมีรายละเอียดอีกมากที่จะเสนอในคราวต่อไป จึงไม่แปลกที่นายบุญทรงจึงต้องพูดว่า 'กูพูดไม่ได้' แต่ถ้านายบุญทรงพูดออกมา ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลัง อย่างน้อยจะได้ถือว่าได้มีส่วนช่วยทำความสะอาดประเทศไทย ทั้งนี้ข้อมูลอ้างอิงจากคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีระบายข้าวแบบจีทูจี วันที่ 25 ส.ค."