ข่าว

แขวะ“ไก่อู”ยืมมือเพื่อนทำข่าวมาออก“เอ็นบีที”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ดร.มานะ”แนะ“สื่อ” ทบทวนบทบาท เป็น“พีอาร์รัฐ”หรือไม่ ชี้ ถ้าทำตามคำขอ เท่ากับขายเสรีภาพ แขวะ “ไก่อู”ทำไมไม่ไปซื้อเวลาช่องอื่นแทนยืมมือเพื่อนทำข่าวมาออกเอ็นบีที

          เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2560 ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกรมประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือสื่อสถานีโทรทัศน์เอกชนทุกช่องลงพื้นที่ติดตามภารกิจรัฐมนตรีแต่ละคนระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)สัญจรที่ จ.นครราชสีมา 21-22 ส.ค. 2560 มีความเหมาะสมหรือไม่ว่าเรื่องนี้ต้องแยกให้ออกระหว่างการทำหน้าที่นักประชาสัมพันธ์ของภาครัฐกับการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนต้องมีเส้นแบ่งที่ชัดเจนหากเป็นสื่อของรัฐมีภารกิจประชาสัมพันธ์งานของรัฐก็สามารถทำแบบนั้นได้

          แต่ถ้าเป็นสื่อเอกชน สิ่งสำคัญคือความเป็นอิสระของกองบรรณาธิการรวม ถึงนักข่าวจะมีหลักในการพิจารณาเองว่าจะเลือกทำข่าวใครหรือไม่อย่างไร ดังนั้นควรรู้ว่าขอบเขตของตัวเองควรอยู่แค่ไหนเพราะนานาประเทศเขาเรียนรู้เรื่องการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน

           "ผมคาดเดาว่าการที่สื่อหลายสำนักให้ความร่วมมือเพราะอาจมีประเด็นที่ต้องการคืนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอลเข้ามามีส่วนในการตัดสินใจหรือไม่มีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนกันหรือไม่ ก่อนหน้านี้มีการเรียกร้องให้ออก มาตรา 44 เพื่อเปิดทางให้มีการคืนช่องกับกสทช.จะไม่รับฝากก็ไม่ได้หรืออาจจำเป็นต้องทำตาม ดังนั้นสื่อเองต้องกลับมาทบทวนด้วยว่าตัวเองทำหน้าที่อะไร เป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ภาครัฐหรือเปล่า หรือมีความเป็นอิสระทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ถูกต้อง" นายมานะ กล่าว

          ดร.มานะ กล่าวอีกว่า กรมประชาสัมพันธ์ไม่มีอำนาจหน้าที่สั่งการใดๆต่อสื่อทั้งสิ้นขึ้นอยู่กับสื่อเองจะเข้มแข็งเพียงพอหรือไม่กับการยึดถือเสรีภาพในการทำหน้าที่ ถ้าตัวเองยอมตามเขา ก็หมายความว่าคุณก็ขายเสรีภาพตัวเองไป ถ้าเป็นแบบอีกหน่อยคงมีอะไรมาขอความร่วมมืออีกเยอะ

          เมื่อถามว่า พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ชี้แจง ไม่ได้บังคับสื่อในเรื่องดังกล่าวให้อิสระในการทำข่าว แต่ขอแค่ให้นำมาออกอากาศผ่านช่องเอ็นบีทีด้วย นายมานะ กล่าวว่า “มันตลกงัย เอ็นบีทีก็คือทีวีดิจิตอลของรัฐทำไมไม่ไปซื้อโฆษณาหรือเวลาของทีวีช่องอื่นๆ จะมาขอความร่วมมือทำไม เรื่องนี้สะท้อนกรอบความคิดของผู้เกี่ยวข้องว่าความเข้าใจการทำงานของสื่อว่ามีมากน้อยแค่ไหนเข้าใจเรื่องเสรีภาพสื่อมากน้อยแค่ไหน”

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ