"สังศิต" แจงปรับกฎหมายจาก 7 เหลือ 4ชั่วโคตร เพราะแรงไป ยันใช้แค่ 3 เจนเนอเรชั่น ชี้ "ประชานิยม" เข้าข่ายผิดด้วย
นายสุทธิชัย หยุ่น ผู้ก่อตั้งเครือเนชั่น สัมภาษณ์ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีเห้นชอบร่าง“ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม” หรือ "กฎหมาย 4 ชั่วโคตร" โดยนายสังศิตเล่าว่า กฎหมายฉบับนี้ เริ่มตั้งแต่ปี 2550 และเป็นมติ ครม. ส่งมาที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมัยที่มีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ สนช.ไม่เห็นด้วย เพราะ 7 ชั่วโคตรรุนแรงเกินไป จึงแก้ไขปรับให้ลดความรุนแรง แต่ก็ไม่ได้เป็นกฎหมายเพราะเวลาของ สนช. ชุดนั้นหมดลง มาถึงยุคสมัย ส.ว. แต่งตั้ง พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ก็หยิบขึ้นมาปัดฝุ่นแต่ก็ไม่ทัน เพราะวาระ ส.ว. ก็หมดไป มาถึงยุคปัจจุบันก็มีการตั้ง สปช. ที่ตนเป็นปรอปงระธานกรรมาธิการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ก็หยิบมาใหม่และมาเสนอ แต่ยังไม่เรียบร้อยทแต่รัฐบาลยุบ สปช. ไปเสียก่อน และเปลี่ยนมาเป็น สปท. ตนก็เป็นรองประธาน กมธ. จึงหยิบมาใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ ยอมรับและเอาด้วยและนำเข้าสู่ ครม. และถือว่าความสำเร็จอันนี้มาจากคนจำนวนมากช่วยกันผลักดัน คนที่ควรได้รับการยกย่องคือพล.อ.ประยุทธ์
นายสังศิตกล่าวว่า ตอนนี้ก็เหลือ แค่สี่กลุ่ม คือรุ่นพ่อแม่ เครือญาติ เจ้าตัว คู่สมรส พี่น้องคู่สมรสและรุ่นลูก เอาจริงๆก็แค่ 3 เจนเนอเรชั่น รวมทั้งคนสนิท คนใกล้ชิด หากเข้ามาเกี่ยวข้องก็โดนกันหมด อย่างไรก็ตามแม้จะเบาบางแต่ก็ยังต่อต้านเยอะ ทั้งนักการเมือง และข้าราชการผู้ใหญ่ ไม่ค่อยอยากได้ ในครม. ต้องอภิปราย ถ้าท่านประยุทธ์ไม่ยืนยันในหลักการคงออกจาก ครม. ไม่ได้
นายสังศิต กล่าวต่อว่า นอกจากนี้การขัดกันระหว่างผลประโยชน์ เงินที่ได้ถือเป็นเงินสีดำ สามารถใช้กฎหมาย ป.ป.ง. จัดการได้ กฎหมายฉบับนี้จะแรงกว่ากฎหมาย ป.ป.ช. เพราะ ป.ป.ช. ไม่ครอบคลุมไปถึงเอกชน แต่พ.ร.บ.ตัวนี้ครอบคลุมธุรกิจเอกชน เช่นอดีตนายกฯให้ภรรยาไปประมูลซื้อที่ดิน จนคนแข่งคนอื่รถอดใจและศาลพิพากษาว่ามีผลประโยชน์ทับ้อน แต่ภรรยาไม่มีความผิดเพราะกฎหมายไม่ครอบคลุม หากกฎหมายฉบับนี้ออกมา ภรรยาก็โดนด้วย แต่ปัญหามีอยู่ว่ากฎหมายนี้จะได้ออกหรือไม่
"เวลานี้ รัฐบาลหลือแค่ปีเศษๆ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง ยังใช้สองปีเศษกว่าจะออกได้ และกฎหมายนี้ที่แรงกว่ามันจะออกได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องทุบโต๊ะว่าต้องการกฎหมายฉบับนี้ หากประชาชนเอาด้วย คสช. ก็ต้องยอม"นายสังศิตกล่าว
ขณะที่เรื่องการทุจริตเชิงนโยบาย นายสังศิตกล่าวว่า การออกกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ก็โดนตามกฎหมายฉบับนี้ด้วยในโลกมีคอร์รับชั่นเชิงนโยบาย แต่ไม่ค่อยมาก ที่มีก็เช่นเกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น แต่เขาก็เนียนกว่าเรา แต่ในโลกตะวันตกไม่มี เพราะประชาชนเขาตื่นตัวมาก นอกจากนี้เรื่องประชานิยมเข้าข่าย ในต่างประเทศเป็นคอร์รับชั่น แต่ในกรณีนี้อาจตีความได้เหมือนกัน เอาเงินหลวงมาใช้แต่ตัวเองได้ประโยชน์
"กฎหมายให้ดีอย่างไร หากข้าราชการไม่สุจริต กฎหมายไม่ทำงานหรอก กฎหมายดีต้องมีเจ้าหน้าที่ดีด้วย" นายสังศิตระบุ
-----
ข่าวที่เกี่ยวข้อง