นักกฎหมาย ฟันธง!! "ศาลฎีกาฯ" ทำขัดรธน.

          22 ก.ค. 60 --นายปิยบุตร แสงกนกกุล นักวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ต่อประเด็นที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ส่งคำร้องของทีมทนายน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เนื่องจากให้โอกาสคู่ความต่อสู้อย่างเต็มที่แล้ว ว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 212 กำหนดเป็นบทบังคับให้ต้องส่งคำโต้แย้งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ภายใต้เงื่อนไข คือ กฎหมายที่ใช้บังคับกับคดีนั้นขัดกับรัฐธรรมนูญ และศาลรัฐธรรมนูญไม่เคยมีคำวินิจฉัย ดังนั้นตนมองว่าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่มีอำนาจที่จะวินิจฉัยว่าจะไม่ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ และหากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยกคำร้องดังกล่าวเท่ากับเป็นการใช้ดุลยพินิจที่ไม่ตรงตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 กำหนดไว้

          "การตรวจสอบกฎหมายมิให้ขัดรัฐธรรมนูญแบบรูปธรรม หรือ concrete control ในประเทศไทย ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2550 ต่อเนื่องมา 2560ใช้ระบบบังคับส่งหมายความว่า เมื่อคู่ความโต้แย้งมา ศาลแห่งคดีต้องส่งประเด็นไปให้ศาลรัฐธรรมนูญเสมอ เพราะ มาตรา 212 ไม่มีส่วนที่ให้ศาลแห่งคดีใช้ดุลยพินิจไม่ส่งได้ ส่วนกรณีที่ศาลฎีการะบุว่าไม่ส่งคำร้องเพราะให้โอกาสคู่ความเต็มที่แล้วถือเป็นคนละเรื่อง ซึ่งหากนำเรื่องนี้ออกข้อสอบเนติบัณฑิต วิชากฎหมายรัฐธรรมนูญ ก็ยุ่งตาย และหากศาลฎีกาฯ มีความกังวลใจว่าจำเลยจะประวิงเวลาคดี ควรให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้บอก โดยอ้างว่าไม่เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัยไม่ใช่หน้าที่ของศาลฏีกาฯ" นายปิยบุตร โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ค

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโพสต์ข้อความของนายปิยบุตรนั้นมีผู้ติดตามและสมาชิกเฟซบุ๊คเข้ามาแสดงความเห็นและเผยแพร่ต่อจำนวนหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้น มีความเห็นจากนายวัฒนา เมืองสุข อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย  ร่วมด้วย ซึ่งมีสาระของความเห็นระบุว่า  ศาลฎีกากลายเป็นผู้ตีความรัฐธรรมนูญไปแล้ว และมีสิ่งที่ตนเป็นห่วงคือสังคมไทยสูญเสียความน่าเชื่อถือ แม้แต่ตัวหนังสือที่เขียนตรงๆ ยังตะแบงได้ ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันเพื่อพาประเทสออกจากวิกฤตดังกล่าว.