ข่าว

ถ้าการเมืองไม่มีเสถียรภาพอย่างไรยางก็ราคาตก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“ประยุทธ์” เผย “มาเลย์-อินโด” ติงไทย ปัญหายางโยงการเมือง วอนอย่าเคลื่อนไหวกดดันรบ.

11 ก.ค. 2560 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงวิธีการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ รวมถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มเกษตรกรว่า เราต้องไปดูต้นทางว่ามีการปลูกยางพาราจำนวนมาก และมีการปลูกในพื้นที่บุกรุกกว่า 3 ล้านไร่ ถ้าให้หยุดทีเดียวก็จะเดือดร้อนเกษตรกร สมาคมเกษตรต้องช่วยกัน หากเรียกร้อง รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ ไปขายใคร เพราะเรามียางสำรองจำนวนมาก ทำให้มีผลกระทบข้างนอก กลางทางรัฐบาลพยายามที่จะนำไปใช้ในด้าน ๆ อย่างการทำถนน ที่ต้องดูเรื่องงบประมาณที่สูงขึ้น ทั้งนี้ในวันที่ 12 ก.ค. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะมีการประชุมเรื่องยางเพื่อหารือว่าจะเอาไปใช้อะไรได้บ้าง        
  
    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เราก็เร่งให้ทั้งหมด อยากจะบอกว่าที่ต่อว่ากันมาทำอย่างนี้หรือไม่ แต่มาอุดหนุนราคายางที่ปลายทางอย่างเดียว อย่างอื่นก็ไม่เกิด ในเมื่อขายยางได้ดีมาตลอด ซึ่งพอมาขายจริงๆ ไม่ได้ราคาตามนั้นรัฐก็ขาดทุน เป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกันคิด ทั้งนี้ประเทศไทยได้หารือในสภาไตรภาคียางพาราครั้งที่ 28 ร่วมกับมาเลเซีย และอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 6-7 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมีระบุว่าการที่จะทำให้ราคายางพาราสูงกว่าเดิมเป็นไปได้อยาก และบอกว่าประเทศไทยเป็นคนทำให้ราคายางพารามีปัญหา เพราะมียางพารามากเกินไป จะให้เขาเข้ามาทำคงลำบาก เราจึงต้องปรับว่าควรมีปริมาณยางเท่าไหร่
 
    “ต่างประเทศเขามองว่า กรณียางพาราในประเทศไทยเป็นเรื่องการเมือง ถ้าการเมืองไม่มีเสถียรภาพ อย่างไรราคายางพาราก็ตก เพราะมีการซื้อขายในตลาดกลางของโลกล่วงหน้า สถานการณ์ในประเทศดูเหมือนว่าเป็นเรื่องของความมั่นคง เป็นเรื่องการเมือง ก็เลยไปกันใหญ่ ผมขอร้องใครที่จะออกมานำการเคลื่อนไหว จะให้ผมทำอย่างไร ผมก็ใช้มาตรา 44 อยู่แล้ว แต่ต้องนึกถึงระบบของเขา การที่ราคายางสูง 70 บาทต่อกิโลกรัม ถ้าปริมาณยางพาราไม่มากเท่านี้ ราคาก็จะสูงขึ้น เพราะวันนี้ทุกประเทศทั่วโลกมีการเก็บสต๊อกยางพาราไว้อยู่แล้ว ถ้าปริมาณยางพาราในต่างประเทศมีจำนวนมาก ราคายางพาราจะสูงขึ้นได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่เราต้องไปดู บอกว่าจะร่วมมือกัน 3 ประเทศ ก็ร่วมมือยาก” นายกฯ กล่าว
  
    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มีการเรียกร้องราคาปาล์ม ซึ่งเขากำหนดว่าต้องสกัดน้ำมันได้ 17 เปอร์เซ็นต์ บางทีไม่ถึงก็เก็บปาล์มอ่อนไปสกัดน้ำมัน ปริมาณน้ำมันก็ไม่ได้ เขาก็กดราคา แล้วจะให้ราคาสูงคงไม่ได้ เพราะเขากำหนด มาแล้ว พอให้เปลี่ยนพันธุ์ปาล์มก็ไม่เปลี่ยน ให้รัฐบาลมากดตรงนี้แต่ตัวเองไม่ปรับแก้ก็ไม่ได้  เรื่องข้าวโพดวันนี้ก็มีปัญหา เราต้องมองทั้งระบบ อย่าไปฟังใครบางคนพูด เพราะได้แต่พูดไม่เคยทำซักอย่าง ก็ไปขยายให้เขาอยู่ได้ รัฐบาลนี้ทำไม่ได้ เศรษฐกิจไม่ดีขึ้น แทนที่จะบอกว่า ทำอย่างนี้ก็จะเกิดอย่างนี้ขึ้น บางคนยอมเปลี่ยนไปปลูกแบบผสมผสาน แต่บางคนไม่ยอมเปลี่ยนปลูกแต่ข้าว ปลูกแต่ยางพาราและปาล์มอยู่นั้นแหละ อย่างในพื้นที่ภาคใต้ก็ให้กั้นพื้นที่ส่วนหนึ่งปลูกทุเรียน และมังคุด ซึ่งกำลังราคาดี
--------

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ