สนช.จ่อถกร่างก.ม.จัดตั้งศาลปกครอง

                               

           ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในวันที่ 23 มิ.ย. นี้ จะมีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ซึ่งมีระเบียบวาระที่น่าสนใจ คือ พิจารณาเรื่องด่วน ร่างพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ในวาระ 2 และวาระ 3 โดยร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯ และมี 40 มาตรา

           ในชั้นคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง ที่มีพล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ เป็นประธาน โดยคณะกมธ.เสียงข้างมากได้ตัดมาตรา 38 ว่าด้วยการนับระยะเวลาดำรงตำแหน่งของประธานศาลปกครองสูงสุดที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนวันที่ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวใช้บังคับออก จากเหตุดังกล่าวทำให้ระยะเวลาดำรงตำแหน่งของประธานศาลปกครองคนปัจจุบันที่ดำรงอยู่ก่อนหน้านี้ ไม่ถูกนับรวมกับระยะเวลาดำรงตำแหน่งที่กำหนดขึ้นใหม่ตามมาตรา 15/2 ที่ให้มีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี นับแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง

                  อย่างไรก็ตาม นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ และนายตวง อันทะไชย สมาชิกสนช. ขอแปรญัตติเสนอเพิ่มมาตรา 33/1 ซึ่งเป็นการยกเว้นไม่ให้นำมาตรา 15/2 วรรคหนึ่ง บังคับใช้แก่ตุลาการศาลปกครองซึ่งดำรงตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุดคนปัจจุบัน และให้ตุลาการศาลปกครองผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งดังกล่าว เมื่อดำรงตำแหน่งครบ 4 ปี นับแต่วันที่พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับและให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว ทั้งนี้ กมธ.เห็นด้วยและแก้ไขตามข้อเสนอของนพ.เจตน์ และนายตวง

           ด้านพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย  กล่าวว่า ตามร่างพ.ร.บ.ฉบับที่สนช.รับหลักการในวาระหนึ่งนั้น ให้ประธานศาลปกครองสูงสุดมีวาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี นับตั้งแต่วันโปรดเกล้าฯ ซึ่งประธานศาลปกครองคนปัจจุบันได้รับการโปรดเกล้าฯตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.2559 ดังนั้นจะครบ 4 ปี เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2563 แต่การที่กมธ.เสียงส่วนใหญ่ตัดมาตรา 38 ออก และเพิ่มมาตรา 33/1 ขึ้นมาใหม่นั้น ทำให้ประธานศาลปกครองสูงสุดมีอายุยาวยิ่งขึ้น

           พล.อ.สมเจตน์ กล่าวอีกว่า หลักการออกกฎหมายทั่วไปไม่ควรรอนสิทธิ์ผู้ใด ซึ่งตามเดิมประธานศาลปกครองสูงสุดอยู่ได้ถึง 70 ปี ก็จริง แต่มีข้อยกเว้นว่ากฎหมายที่สุจริตและไม่รอนสิทธิ์ต้องเป็นคนอื่นออกกฎหมายให้คนๆนั้น การเริ่มแก้ไขกฎหมายให้วาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี นับแต่วันที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ทำตั้งแต่ประธานศาลปกครองคนปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานศาลปกครอง และเขาเป็นคนเสนอเอง ทำเอง ดังนั้นสำคัญที่สุดคือประธานศาลปกครองต้องยอมรับกติกาที่ทำมาตั้งแต่ต้น การที่เขาได้มาเป็นประธานแล้วแก้ให้ตนเองมีอายุยาวยิ่งขึ้น ในความรู้สึกตนคิดว่าไม่ชอบ ทำให้มีมลทิน มาวิ่งเต้นเพื่อให้ตัวเองมีอายุอีกปีกว่า เพราะของเก่าไม่นับ ในฐานะที่ตนเป็นกมธ.จึงได้สงวนไม่เห็นด้วย เพราะจากเหตุดังกล่าวจะทำให้ประธานศาลปกครองสูงสุดเสียชื่อเสียง จะทำให้คนในองค์กรไม่เชื่อถือ อีกทั้งสภาฯถูกครหาตามด้วย ถือว่าไม่เหมาะสม

           “เดิมเสนอโดยรองประธานศาลปกครองในอดีต ซึ่งปัจจุบันมาเป็นประธานศาลปกครอง ตอนท่านเป็นรองประธานท่านคิดแบบหนึ่ง พอมาเป็นประธานคิดอีกแบบหนึ่ง ถามว่าเหมาะสมหรือไม่ ถ้าสนช.ไปแก้ไขจะทำให้ประธานศาลปกครองจะไม่มีความสง่างาม”พล.อ.สมเจตน์ กล่าว