"วัส"โพสต์เฟซร่ายยาวย้ำกสม.ชุดปัจจุบันไม่ใช่ต้นเหตุถูกลดสถานะ หยุดอ้างเพื่อเซ็ตซีโร่ ชี้กสม.ร่วมกันแก้ไขปัญหาจนเกิดผลงานอย่างต่อเนื่อง
13 มิ.ย.60 นายวัส ติงสมิตร ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีเนื้อหาระบุว่า เรื่องราวเกี่ยวกับกสม.ไทย 1.การได้มาของกสม.ชุดปัจจุบัน (ชุดที่ 3 ) เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ถูกลดสถานะจาก เอ เป็น บี หรือไม่ เมื่อปลายปี 2557 กสม.ไทยถูกกำหนดให้แก้ไขปัญหาทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงภายใน 1 ปี ซึ่งครบกำหนดเมื่อปลายปี 2558 ในขณะที่ กสม.ชุดปัจจุบัน เข้ารับหน้าที่เมื่อปลายปี 2558 ต่อมาปลายเดือนมกราคม 2559 กสม.ไทยถูกลดสถานะจาก เอ เป็น บี การที่ กสม.ไทยถูกลดสถานะจึงไม่ได้มีผลมาจากการได้มาของกสม.ชุดปัจจุบันแต่อย่างใด ดังนั้นคำกล่าวที่ว่า การได้มาของกสม.ชุดปัจจุบันเป็นเหตุผลหนึ่งทำให้ถูกลดสถานะจึงเป็นความเท็จ
2. เหตุใดจึงต้องกำหนดในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ( พ.ร.บ.) ว่าด้วยกสม.ให้กรรมการสรรหา กสม.มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 246 วรรคสี่ บัญญัติให้พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกสม. มีผู้แทนองค์กรเอกชนร่วมในการสรรหาด้วย เป็นเหตุให้ร่างดังกล่าวที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ฉบับวันที่ 7 มิถุนายน 2560 มาตรา 11 กำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหาผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นกสม.ให้มีผู้แทนองค์กรเอกชนร่วมเป็นคณะกรรมการสรรหาด้วย ซึ่งการกำหนดให้กรรมการสรรหากสม.มีความหลากหลายมากขึ้น จึงไม่ได้เกิดจากความต้องการของผู้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกสม.แต่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ คงมีปัญหาว่ามีการร่างองค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหาที่มีเหตุผลถูกต้องตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่
นายวัส ระบุต่ออีกว่า 3. ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกสม.ของกรธ.ให้ความสำคัญกับการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาจากการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตรวจสอบน้อยลงหรือไม่ โดยร่างฉบับดังกล่าวของกรธ. ฉบับวันที่ 7 มิถุนายน มาตรา 29 กำหนดให้กสม. แต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลหรือศึกษาเรื่องใดในกรณีที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและประสิทธิภาพที่จะเกิดขึ้น ในปัญหาเรื่องนี้กสม. ได้พิจารณาแล้ว เห็นควรเสนอความเห็นต่อกรธ.ให้แก้ไขจากข้อความว่า“ในกรณีที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”เป็น“ในกรณีที่มีความจำเป็น”
ประธานกสม. ระบุอีกว่า 4. การทำงานของ กสม.ชุดปัจจุบันมาปีเศษ มีปัญหาอุปสรรคมาโดยตลอดหรือไม่ ทุกองค์ย่อมมีปัญหาและอุปสรรคในการทำงานแต่ละองค์กรย่อมต้องช่วยกันแก้ไข กสม.ชุดปัจจุบันก็เช่นเดียวกัน ในระยะแรกของการทำงานพบปัญหาและอุปสรรคแต่กสม.ก็ร่วมกันแก้ไขจนปรากฏผลงานทั้งภายในและระหว่างประเทศออกมาอย่างต่อเนื่อง ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวจึงไม่เป็นความจริง
5. บทเฉพาะกาลของร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกสม.ระบุว่า กสม. ชุดปัจจุบันต้องรักษาการจนกว่าจะมีกรรมการชุดใหม่ ถ้าดูองค์ประกอบคณะกรรมการสรรหาต้องมีทั้งประธานรัฐสภาและผู้นำฝ่ายค้าน ฉะนั้นกว่าจะได้กสม.ชุดใหม่ต้องมีเลือกตั้งแล้วหากร่างฉบับนี้ผ่านต้องรอประเทศไทยเลือกตั้งและมีประธานรัฐสภาและผู้นำฝ่ายค้านที่มาจากการเลือกตั้ง จะได้ครบองค์ประกอบ จะได้ไม่ถูกตั้งคำถามอีก
นายวัส กล่าวว่า บทเฉพาะกาลของร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกสม. ของ กรธ. กำหนดให้ประธานกสม. และกสม. ชุดปัจจุบันพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกสม. ใช้บังคับ (รีเซ็ตหรือเซ็ตซีโร่ทั้งชุด) แต่ให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่ากสม.ที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ (ร่างมาตรา 60 วรรคหนึ่ง) แต่คณะกรรมการสรรหาต้องดำเนินการสรรหาผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นกสม.ภายในเวลาที่กำหนดในร่างมาตรา 61 (ประมาณ 7 เดือน นับแต่วันที่พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กสม.ใช้บังคับ) ไม่ใช่รอผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา มีประธานสภาผู้แทนราษฎร มีรัฐบาล และมีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่งอาจตกในราวปลายปี 2561 ตามที่มีผู้ให้ความเห็นดังกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง