ข่าว

กกต. มั่นใจเซ็ตซีโร่กกต.ขัดหลักนิติธรรม-ขัดเจตนารมณ์รธน. 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บุญส่ง" ชี้ เซ็ตซีโร่กกต. ไม่บั่นทอนการทำงาน เตรียมถกกุนซือกฎหมาย หารือประเด็นแย้งร่างพ.ร.ป.กกต. 

 

          12 มิ.ย.60 -  นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ด้านสืบสวนสอบสวน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) มีมติเซ็ตซีโร่กกต.ว่า  ทางกกต.จะมีการประชุมร่วมกับทางคณะที่ปรึกษากฎหมายของกกต. ในวันที่ 14 มิ.ย. นี้ เพื่อปรึกษาหารือว่ามีประเด็นใดที่น่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรมหรือไม่ ซึ่งถ้าดูจากการอภิปรายของสนช.เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ดูทุกถ้อยคำของคนที่อภิปรายไม่เห็นด้วย ส่วนตัวเห็นว่ามีปัญหา คาดว่าน่าจะขัดต่อหลักนิติธรรม รวมทั้งอาจจะขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ในเรื่องคุณสมบัติของคนที่มีคุณสมบัติครยถ้วนตามรัฐธรรมนูญปี 2560 
          "ตามรัฐธรรมนูญ การทำหน้าที่ของรัฐสภา องค์กรอิสระ หรือภาครัฐก็ดี จะต้องปฏิบัติตามหลักนิติธรรมด้วย ซึ่งผมเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งอาจจะขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และในเรื่องกระบวนการตรากฎหมายที่มีการเปลี่ยนหลักการในวาระที่สอง ซึ่งอาจจะขัดต่อนิติประเพณีในการตรากฎหมายหรือไม่ รวมทั้งอาจจะขัดต่อบทเฉพาะกาลอีกด้วย" นายบุญส่ง กล่าว
          นายบุญส่ง กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอของร่างกฎหมาย ที่กกต.เห็นว่าจะมีประโยชน์ต่อการทำงานและสอดคล้องเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ แต่ถูกกรธ.ตัดทิ้งมีทั้งหมด 4 ประเด็น คือ 1.เรื่องที่กกต.ได้อำนาจระงับยับยั้งการเลือกตั้งได้หากพบการทุจริต และสามารถกำหนดวันเลือกตั้งได้ใหม่ 2.การเลือกตั้งท้องถิ่น กฎหมาย ได้มอบหมายให้หน่วยงานจัดการเลือกตั้ง แต่ให้อยู่ภายใต้การดูแลของกกต. 3.การคุ้มครองกกต.และพนักงานเลือกตั้งที่จะไม่ถูกฟ้องทางแพ่ง อาญา และทางปกครอง ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตตามรัฐธรรมนูญปี 2540 และ 2550 และ 4.สวัสดิการและค่ารักษาพยาบาลของพนักงานกกต.
          เมื่อถามว่า ในกฎหมายใหม่ให้กกต.แต่ละคน ลงพื้นที่และให้อำนาจกำกับดูแลการเลือกตั้ง ซึ่งหากเป็นกกต.ชุดใหม่ที่ขาดประสบการณ์จะมีปัญหาเกี่ยวกับการลงพื้นที่ นายบุญส่ง กล่าวว่า เชื่อว่าสามารถทำงานได้ และถ้าเป็นนักกฎหมายจะเข้าใจกฎหมายและระเบียบต่างๆได้ดี เพราะกว่าจะเข้าใจกฎหมายจะต้องใช้เวลานานและกว่าจะได้รับความเชื่อถือ และศรัทธาจากคนในองค์กรค่อนข้างยาก ต้องเข้าใจว่าองค์กรกกต.มีปัญหาพอสมควรในเรื่องการบริหารงานบุคคล เชื่อว่าก็คงทำได้แต่จะรู้เท่าทันในสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ก็ต้องรอดูกันไป
          "ไม่ขอให้ความเห็นเรื่องที่สนช.มีมติเซตซีโร่กกต. เพราะมันจะเป็นการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งประเด็นที่จะโต้แย้งกลับไปนั้น จะต้องหารือกันอีกครั้ง เพราะอาจจะไม่ใช่แค่ประเด็นคุณสมบัติ แต่ยังมีประเด็นที่เชื่อว่าถ้ากระบวนการไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะมีประเด็นเพิ่มขึ้นอีก คงไม่มีการเรียกร้องสิทธิใด เพราะไม่ใช่เรื่องของสิทธิ แต่เป็นเรื่องของเกียรติและศักดิ์ศรีขององค์กรมากกว่า ผมได้รับผลกระทบน้อยมากเพราะจะเกษียณอายุในปี 2561 การตรากฎหมายต้องมีมาตรฐาน ไม่ใช่หลายมาตรฐานที่ต้องสู้เพื่อรักษามาตรฐาน ยกตัวอย่างหากศาลรัฐธรรมนูญถูกฟ้องเสียเองตามกฎหมายวิธีประกอบพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญจะทำอย่างไร ใครจะเป็นผู้วินิจฉัยในสิ่งเหล่านี้ เพราะกฎหมายไม่ได้ให้องค์กรอื่นมาพิจารณาความชอบของรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าการเซ็ตซีโร่กกต.ไม่ได้เป็นการบั่นทอนจิตใจ และจะไม่ลาออกตามที่ฝ่ายการเมืองได้เสนอ เพราะจะทำให้องค์กรมีปัญหาได้" นายบุญส่ง กล่าว

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ