"อลงกรณ์" ชี้งบปี 61 ตอบโจทย์การปฏิรูปประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0 แนะรัฐจัดซื้่อจัดจ้างโปร่งใส เปิดรับการตรวจสอบจากภาคประชาชน
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) คนที่หนึ่ง กล่าวถึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 วงเงิน 2.9 ล้านล้านบาทที่ผ่านความเห็นชอบวาระที่ 1 ของสภานนิติบัญญัติ (สนช.)ว่า ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงการจัดทำงบประมาณครั้งใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีตามแผนการปฏิรูประบบงบประมาณและการคลัง ซึ่งจะส่งผลดีต่อการปฏิรูปประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0 ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติโดยเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและระบบงบประมาณเป็นแบบ 3 มิติ ได้แก่ มิติหน้าที่ (functional base) ตามภารกิจของหน่วยงานรัฐ มิติวาระปฏิรูป (agenda base) ตอบโจทย์ 37 วาระ ปฏิรูป 11 ด้าน อย่างชัดเจนง่ายต่อการบริหารและประเมินผลและมิติพื้นที่ (area base) สู่จังหวัด กลุ่มจังหวัด และท้องถิ่นโดยตรง ส่งผลต่อการพัฒนาอย่างเท่าเทียมทุกพื้นที่ทำให้การขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศเป็นรูปธรรมชัดเจน
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังสามารถปรับลดรายจ่ายประจำเหลือร้อยละ74 สามารถเพิ่มงบลงทุนได้ถึงร้อยละ23 ซึ่งเป็นทิศทางที่ดีขึ้นในรอบหลายปี พร้อมกับเพิ่มการลงทุนประเทศด้วยการใช้ระบบเอกชนร่วมลงทุนแบบพีพีพี. และกองทุนไทยแลนด์ฟันด์ทำให้ดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่เป็นภาระงบประมาณและหนี้สาธารณะซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 42 ของจีดีพี ถือว่าอยู่ในกรอบวินัยการคลังที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ เช่นเดียวกับตัวเลขทุนสำรองเงินตราเกือบ 2 แสนล้านดอลลาร์สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก จะทำให้เศรษฐกิจเติบโดอย่างมั่นคงต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และจะเติบโตสูงกว่าอัตราขยายตัวของจีดีพีเฉลี่ย 10 ปีเป็นครั้งแรก สะท้อนถึงความก้าวหน้าของการปฏิรูปประเทศใน 3 ปีที่ผ่านมาทำให้ประเทศไทยแข็งแรงขึ้น
"สิ่งที่ต้องมุ่งเน้นอีกด้านคือประสิทธิภาพการบริหารงบประมาณอย่างโปร่งใส มีธรรมาภิบาล ป้องกันไม่ให้หน่วยงานรัฐใช้วิธิพิเศษในการจัดซื้อจัดจ้างโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมกับส่งเสริมบทบาทของประชาชนเจ้าของภาษีในการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณ และการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารภาครัฐที่เกี่ยวกับการประมูลจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจสอบจากภาคประชาชนจะเป็นการอุดช่องโหว่การทุจริตของงบประมาณแผ่นดินได้เป็นอย่างดี"นายอลงกรณ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง