ข่าว

"​​​​​ไพบูลย์"สวน"ยุทธพงศ์" คนพรรคเดียวกันเอี่ยว ส.คลองจั่น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ไพบูลย์" สวนกลับ "ยุทธพงศ์" ระบุ นักการเมืองพรรคเดียวกับยุทธพงศ์รับเช็คสหกรณ์คลองจั่นฯ เผย 7 มิ.ย.ฟ้องเอาผิดอดีตอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์

 

               28 พ.ค.60 - หลังจากนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีต สปช. ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลตั้งกองทุนเยียวยาชาวบ้านผู้เสียหายจากกรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น  ล่าสุดนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ​​​​​​อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ​​​พรรคเพื่อไทย ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า ในช่วงดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้กำกับดูแลฯ กรมส่งเสริมสหกรณ์ และเป็นช่วงเวลาฯ ที่สหกรณ์คลองจั่นเกิดเรื่องการทุจริตขึ้นพอดี  
​               นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ในขณะเกิดเรื่องฯ การทุจริตในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เมื่อต้นปี 2556 ตนเองไม่เคยนิ่งนอนใจ หรือเพิกเฉยต่อการจัดการกับการทุจริตฯ และนอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์
ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้เคยเรียกตนเองไปพบที่ทำเนียบรัฐบาล และได้สั่งการให้ตนเองในฐานะรัฐมนตรีฯ ที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแลฯ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ให้จัดการแก้ปัญหาฯการทุจริตของสหกรณ์ฯ ดังกล่าว อย่างเฉียบขาด และให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องฯ ทุกคน ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับใคร ก็ไม่ให้ละเว้น 

               นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ (คพช.) ได้เรียกประชุม เพื่อแก้ปัญหาฯการทุจริตของสหกรณ์ฯ ดังกล่าว ถึง 3 ครั้ง และได้มีหนังสือสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษรและมีรายงานการประชุม คพช. ส่งไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะที่อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นนายทะเบียนของสหกรณ์ ให้ดำเนินการสอบสวนและดำเนินคดีเอาผิดต่อผู้บริหารสหกรณ์ฯ ดังกล่าว ที่บังอาจมาโกงเงินฝากฯของประชาชน

               ​​​​​​อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ​​​พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายไพบูลย์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ว่า หากนายไพบูลย์ มีข้อมูลจริง หรือรู้ว่ามีนักการเมืองระดับชาติคนไหน หรือมีข้าราชการประจำคนไหนที่ไปสบคบกับผู้บริหารของสหกรณ์ฯ เพื่อร่วมโกงประชาชนที่ฝากเงินกับสหกรณ์ ขอให้เปิดเผยชื่อออกมา และไปร้องเรียนต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดี หรือส่งให้ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ใช้ ม.44 จัดการ

               "ผมจะให้เวลานายไพบูลย์ 3 วัน ในการออกมาเปิดเผยชื่อ ไม่ใช่เที่ยวออกมาพูดให้คนอื่นและหน่วยงานเสียหาย ถ้าพ้น 3 วันไปแล้ว นายไพบูลย์ไม่ยอมออกมาเปิดเผยชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ผมจะเดินทางไปพบกับนายไพบูลย์ ถึงที่ทำงาน"

               นายไพบูลย์  ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังถูกนายยุทธพงศ์พาดพิงถึง โดยกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยพาดพิงถึงนายยุทธพงศ์ หรือนักการเมืองแต่อย่างใด เพราะตั้งใจจะจัดการในส่วนของข้าราชการที่เกี่ยวข้องก่อนเพราะมีคำสั่งศาลปกครองชัดเจนอยู่แล้ว

               "ผมไม่ได้พาดพิงถึงคุณยุทธพงศ์ ไม่ทราบว่าคุณยุทธพงศ์กินปูร้อนท้องหรือไม่ แต่เมื่อคุณยุทธพงศ์บอกแบบนี้ ผมก็จะจัดให้โดยไม่ต้องรอถึง 3 วัน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นทราบว่ามีนักการเมืองพรรคเดียวกับคุณยุทธพงศ์ อย่างน้อย 2 คน มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยรับเช็คที่ไม่มีมูลหนี้จากสหกรณ์คลองจั่น 135 ใบ เป็นเงินรวมประมาณ 2,566 ล้านบาท จากนี้ไปผมจะตามตรวจสอบว่าเงินจำนวนดังกล่าวไปที่ไหนต่อ เกี่ยวข้องกับใครบ้าง" นายไพบูลย์ กล่าว

              ทั้งนี้นายไพบูลย์ เปิดเผยว่า ประมาณวันที่ 7 มิ.ย.นี้ ชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากกรณีสหกรณ์คลองจั่นน่าจะสามารถยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตได้ โดยจะยื่นฟ้อง อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นจำเลยที่ 1 อดีตผู้อำนวยการในกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องเป็นจำเลยที่ 2 และสหกรณ์คลองจั่นเป็นจำเลยที่ 3

              โดยในส่วนของอดีตอธิบดีฯ และ อดีตผู้อำนวยการฯ นั้นจะฟ้องตามกฎหมายอาญามาตรา 157 คือเรื่องละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ  และความผิดในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนสหกรณ์คลองจั่นให้กระทำผิด พ.ร.ก. กู้เงิน เป็นการฉ้อโกงประชาชน และความผิดฐานฟอกเงิน

               นายไพบูลย์ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้พบว่าสหกรณ์บางแห่งมีปัญหาแบบเดียวกันกับสหกรณ์คลองจั่น จึงขอให้รัฐดำเนินการโดยเด็ดขาด นอกจากสั่งเลิกกิจการแล้วต้องฟ้องเอาผิดทั้งตัวสหกรณ์และพวกที่ทุจริตในข้อหากระทำผิด พรก.กู้เงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันกระทำผิดฐานฟอกเงิน ให้ดีเอสไอและป.ป.ง. ติดตามยึดทรัพย์สินมาคืนให้ประชาชน โดยวิธีเยียวยาผู้เสียหายตามกฏหมายฟอกเงิน จะทำให้ประชาชนผู้ถูกหลอกลวงได้รับการเยียวยาเร็วขึ้นลดความทุกข์ร้อนใจลง โดยไม่ต้องใช้เงินภาษีของประชาชนไปอุดหนุนสหกรณ์ทุจริตเหล่านั้น 

               "ที่สำคัญจะหยุดความเสียหายของระบบสหกรณ์ทั้งประเทศได้ เพราะหากรัฐใช้มาตรการเด็ดขาดนี้ ผู้บริหารสหกรณ์ต่างๆที่เอาเงินสหกรณ์ออกไปโดยทุจริตจะรีบเอาเงินหรือทรัพย์สินมาคืนสหกรณ์ เพราะกลัวจะโดนดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงินถูกตามยึดทรัพย์ไม่ว่าเอาไปไว้กับญาติหรือคนอื่น สหกรณ์และประชาชนผู้เงินและฝากหุ้นก็จะไม่เสียหาย รัฐไม่ต้องเอาภาษีประชาชนไปเสียหายด้วย เป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม" นายไพบูลย์ กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ