ข่าว

นายกฯลั่น ต้องร่วมปฏิรูป ปรองดอง เพื่อปลดล็อคขัดแย้ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นายกฯลั่นเมื่ออาศัยบนแผ่นดินเดียวกัน ต้องร่วมปฏิรูป ปรองดอง ปลดล็อคความขัดแย้งประเทศ โต้ถูกด่าไร้ผลงาน

          24 พ.ค.60-นายกฯลั่นเมื่ออาศัยบนแผ่นดินเดียวกัน ต้องร่วมปฏิรูป ปรองดอง เพื่อปลดล็อคความขัดแย้งประเทศ โต้ถูกด่าไร้ผลงาน เหตุต้องมาทำเรื่องที่อดีตประกาศไว้แต่ไม่ยอมทำ ชี้อดีตไม่มียุทธศาสตร์ชาติทำติดกับดัก พร้อมย้ำการศึกษาไทยไม่ได้เลวร้าย อยู่ที่การบริหารจัดการ

          ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง“การขับเคลื่อน ไทยแลนด์ 4.0 ในภาคใต้” ตอนหนึ่งว่า วันนี้ดีใจที่ได้มาท่ามกลางรอยยิ้ม และถือเป็นการให้เกียติอย่างยื่นที่ให้ตนมาเยี่ยมเยือน เรื่องของการขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0ในภาคใต้เราพูดกันมานานแล้ว เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคน ได้ศึกษาทำความเข้าใจ เราได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนโยบายของประเทศเราเพื่อเดินหน้าไปสู่ความทันสมัย ในการเดินหน้าประเทศไทยไปสู่ 4.0 ต้องมองว่าประเทศเราอะไรคือ 4.0 ในช่วงที่โลกยุคปัจจุบันเขาไป 4.5 แล้ว และกำลังจะไป 5 ในวันข้างหน้า แต่ไม่รู้โลกจะไปอย่างไร เพราะความขัดแย้งก็สูง พันธะสัญญาของแต่ละประเทศก็เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดการเลือกข้างขึ้นมา วันหน้าก็จะมีหลายขั้ว หลายฝ่าย หรืออาจจะเป็นขั้วเดียวหรือสองขั้ว เกิดสงครามเย็น 

         นายกฯกล่าวว่า รัฐบาลนี้เห็นมุ่งความสำคัญในการพัฒนาประเทศและคนของเราให้ไปสู่ 4.0ให้ได้ โดยการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมเข้ามาช่วยพัฒนาประเทศ  ในการดำรงชีวิตเพื่อพัฒนาชีวิตพวกเราทุกคน ต้องนำหลายๆอย่างมาช่วย เรายังคงเลิกใช้แรงงานไม่ได้แต่ก็ต้องปรับปรุงตัวเองขึ้นมาด้วย ทั้งเรื่องของความรู้ เทคโนโลยี ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต เพาะปลูก เพื่อเพิ่มผลิตให้มีรายได้มากขึ้น มีสัดส่วนในการตลาดมากยิ่งขึ้น ปรับปรุงเครื่องจักรอุตสาหกรรมให้ทันสมัยควบคู่การรักษาสิ่งแวดล้อม สร้างห่วงโซ่ เพิ่มมูลค่าการส่งออก นำงานวิจัยที่มีอยู่มาพัฒนา เพราะที่ผ่านมาเราไม่ได้ให้ความสนใจ รัฐบาลนี้เข้ามาตั้งแต่ปี 2557 เข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ ไม่อย่างนั้นก็วิจัยแล้วก็เก็บเอาไว้และต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ จากอดีตที่ไม่มียุทธศาสตร์ประเทศเลย ทำไปตามนโยบายพรรค ท้ายสุดเราก็ติดกับดักตัวเอง ถูกจัดลำดับเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง โดยธนาคารโลกเขาบอกมานานแล้วแต่คุณไม่สนใจ ต้องตอบให้ได้เรื่องการศึกษาเป็นอย่างไร การประกอบธุรกิจเป็นอย่างไร อยู่ลำดับที่มันไม่ค่อยดีนัก ไม่ได้มีการปรับแก้ บริหารแบบเดิมมาโดยตลอด

                       นายกฯลั่น ต้องร่วมปฏิรูป ปรองดอง เพื่อปลดล็อคขัดแย้ง

         “เราต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ได้ในการบริหารประเทศ นึกถึงคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ ไม่ใช่เพื่อบริหารเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ทั้งนี้ได้มีการสั่งงบประมาณลงมามากกว่าช่วงที่ผ่านมา ท่านก็ทราบดีว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ไม่ใช่เพราะไม่สงบ ไม่เรียบร้อยเลยต้องให้ หรือไม่ร่วมมือเลยไม่ให้ ยิ่งไม่ร่วมมือก็ต้องมาทบทวนว่าเป็นเพราะอะไร เขาไม่เข้าใจเพราะอะไร  ถามเขาตรงๆ แล้วมาช่วยเขาจะได้ช่วยลดความขัดแย้ง ลดสิ่งต่างๆที่มันล่าช้าได้ทั้งหมด วันนี้รัฐบาลจัดงบประมาณลงมามากพอสมควร เราได้แบ่งการพัฒนาประเทศเป็นเรื่องของภาค เราต้องมาดูกัน ก่อนแต่ละภาค มีความแตกต่างกันอย่างไร มีวัฒนธรรม ประเพณีที่แตกต่างกันไหม ภาคใต้มีความแตกต่างมากกว่าเพื่อน เพราะฉะนั้นเราอยู่ร่วมบนความแตกต่างนี้ได้ มันต้องมีความร่วมมือกันให้ได้ ไม่ว่าจะแตกต่างกันอย่างไร เชื้อชาติ ศาสนา ซึ่งทุกคนภาคภูมิใจในความเป็นตัวตน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

         พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว สำหรับการรับฟังความเห็นของคนรับฟังได้ จะร้อยจะพันจะหมื่นจะแสนฟังได้ทั้งหมด แล้วเป็นความเห็นร่วมนำมาปฏิบัติ ถ้ามันแปลกก็แก้กันที่หลัง เหมือนที่เขาบอกว่าเวลาขัดแย้งกัน เวลาจะร่วมมือปฏิรูป ปรองดอง ต้องเอาเรื่องที่ปรองดองกันได้มาทำก่อน ตรงไหนขัดแย้งสูงโยนไว้ข้างๆแล้วเดินไปด้วยกัน ไม่อย่างนั้นปลดล็อกไม่ได้ สร้างการไปมาหาสู่กันได้ ไม่ขัดแย้งไม่ทะเลาะกัน ไม่แย่งดูทีวีพอคนละสถานีแล้วตีกัน ถ้ายังทะเลาะเบาะแว้งประเทศชาติจะเดินไป 4.0 ได้หรือไม่ มันไปไม่ได้ วันนี้ต้องแก้ทั้งหมด คิดใหม่ หาความร่วมมือ สร้างความเข้าใจระบบราชการ ไม่ใช่ไม่พอใจก็ว่าไม่ได้เรื่อง นายอำเภอไม่ว่าง มันไม่ใช่ แต่ถ้าไม่ว่างจริงก็บอกมา วันนี้คิดว่าน้อยแล้ว ไม่น่าจะมี เพราะกระทรวงมหาดไทยก็ลงไปข้างล่าง รับฟังทุกอย่าง ทุกอย่างต้องโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบได้  

                       นายกฯลั่น ต้องร่วมปฏิรูป ปรองดอง เพื่อปลดล็อคขัดแย้ง

         “รัฐบาลนี้มาจากอะไรก็แล้วแต่ ก็ต้องหาวิธีการในการทำงาน เข้ามาเพื่อแก้ไข ปฏิรูป นำวิจัยสู่การผลิตสู่การใช้งาน ทุกรัฐบาลมีหมดแต่ให้ความสำคัญหรือเปล่า เอสเอ็มอี กองทุนต่างๆ มีไหม หรือประกาศโครงการแต่ไม่ได้ทำอะไรไว้เลย  นี้คือปัญหาประเทศไทยที่บอกว่าตนไม่มีผลงาน หรือมีผลงานน้อยเกินไป ก็เพราะต้องมาแก้เรื่องพวกนี้ เรามาเริ่มต้นตรงนี้ ถึงจะไปสู่สิ่งที่ท่านต้องการทั้งหมด ต้องเริ่มตั้งแต่ข้างล่าง บางอย่างต้องเริ่มใหม่ เรื่องของการศึกษาตนบอกเลยว่าไม่ได้เลวร้าย แต่อยู่ที่การบริหารจัดการ และไม่ได้เดินไปเป้าหมายเดียวกัน การพัฒนาทุกอย่างต้องมีเป้าหมายชัดเจนก่อนว่า ทำอะไร เพื่อใคร ผลประโยชน์อะไรจะเกิดขึ้น อะไรคือปัญหา ถ้าคิดปลายทางแต่ไม่คิดต้นทางนั้นคือปัญหา แล้วจะหาวิธีการแก้ปัญหาได้อย่างไร วันนี้วิชาการอย่างเดียวไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

เผย ในหลวงร.10 ทรงเป็นห่วงเรื่องการศึกษา ขอคนไทยเรียนรู้ตลอดชีวิต น้อมนำศาสตร์พระราชการมาใช้

         นายกฯ กล่าวว่า เราให้ความสำคัญกับคนวัยศึกษา ทั้งนักเรียน ครู เพราะถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่ามากเนื่องจากเป็นคนที่สร้างคนรุ่นใหม่ให้สังคมไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 และเสพโซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ เว้นแต่จะมัวไปเสพความขัดแย้งแล้วก็แสดงความเห็นลงไปเพราะคิดวาสนุกดี โดยไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดสับสนอลหม่านขนาดไหนวันนี้อาจสนุก แต่ประเทศจะมีปัญหาวันหน้าแน่นอน ฝากน้องๆไว้ด้วย

         “ขอฝากเรื่องการศึกษาไว้เพราะสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ท่านทรงเป็นห่วงเรื่องการศึกษาเพราะพระองค์ทรงช่วยเหลือด้านการศึกษา อุทกภัยต่างๆ และรับสั่งมาว่าให้คนไทยมีระเบียบวินัยและเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมถึงมีความสุขมีความพอเพียง พัฒนาตัวเองตลอดเวลา พระองค์ทรงรับสั่งว่าทั้งหมดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานไว้หมดแล้ว ซึ่งรัฐบาลนี้เอามาขับเคลื่อน นโยบายทั้งหมดจึงอยู่ภายใต้ศาสตร์ของพระราชาเรื่องหลักเศรษฐกิจพอเพียงทั้งสิ้น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

 

ปัดขึ้นทะเบียนคนจนแยกชนชั้น-เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว

         นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาในภาคใต้ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับสั่งกับตนเสมอว่าคนใต้เป็นคนใจดี มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นคนมีฝีมือ มีความอดทนเข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจทุกภาคส่วนต้องเดินไปด้วยกัน อะไรที่จำเป็นก็ต้องซื้อ แต่ซื้อให้น้อยลง แล้วค่อยผลิตทดแทนไปเรื่อยๆ วันนี้รัฐบาลเข้าไปแก้ระเบียบการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐในการซื้อสิ่งของ ที่ต้องทำให้เกิดความชัดเจน

         นายกฯ กล่าวอีกว่า ปีนี้เรายังติดรายได้ปานกลางอยู่ เพราะการกระจายรายได้ไม่ทั่วถึง ถึงได้มีการบริหารจัดการงบประมาณด้วยการขึ้นทะเบียน โดยการขึ้นทะเบียนปีนี้ขึ้นมาเป็น 14.9 ล้านคน จากปีที่แล้วเพียง 8 ล้านคน ซึ่งปีที่แล้วการขึ้นทะเบียนน้อย เพราะคนไม่เชื่อใจว่าขึ้นทะเบียนแล้วจะได้อะไร พอเรามีการใช้จ่ายงบประมาณส่วนหนึ่งไปดูแล เขาก็เลยมาขึ้นกัน แล้วใครที่ชี้ว่าจะเป็นการเปิดเผยข้อมูลตัวเอง จะเป็นการแยกชั้นคนจนคนรวย มันใช่ที่ไหน ไม่อย่างนั้นเราจะช่วยเหลือเขาอย่างไร ในจำนวน 14.9 ล้านคนมีเกษตรกร 4.6 ล้านคน แสดงว่าคนที่มีรายได้น้อยไม่ใช่เกษตรกรอย่างเดียว

         “เราต้องมาดูว่าจะพัฒนาประเทศอย่างไรให้คนรายได้ต่ำอยู่ได้ หากทุกคนไปมองว่าจะต้องมีรายได้เท่าเทียมกันทั้งหมดเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน จะรวยหรือยากดีมีจนทุกคนต้องได้สิทธิประโยชน์ ไม่มีเรื่องการเสียสละ ผมถึงบอกเอาแค่นี้ก่อนไม่ต้องไปพูดเรื่องอื่น เดี๋ยวหาว่าผมจะไปลด ผมไม่ได้ลดใคร เคยได้อย่างไรก็ได้อย่างนั้นไปก่อน แต่การจะเพิ่มต้องมีมาตรฐานและมาตรการ ก็ขอให้เข้าใจด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯลั่น ต้องร่วมปฏิรูป ปรองดอง เพื่อปลดล็อคขัดแย้ง

ลั่นรบ.นี้ต้องการบังคับใช้ก.ม.กับทุกคนอย่างเท่าเทียม อย่าเชื่อบิดเบือน อย่าเชื่อสื่อเขียนรัฐบาลไปรบกับใคร

         พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เราต้องคำนึงถึงภาพรวมของประเทศ ทุกคนที่เป็นคนไทยต้องนึกถึงตรงนี้ ประเทศไทยมี 76+1 จังหวัด ไม่ได้บอกหวย พอมาก็ดูรถนายกฯ พอไม่ถูกก็ว่าตนอีกว่าเอารถอะไรมา มันเป็นเรื่องของโชคชะตา รัฐบาลได้ทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้งบประมาณเข้าสู่หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด และภูมิภาค จึงมีโครงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่หมดทั้งประเทศ เพื่อประชาชนทั้งหมด โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยกว่าร้อยละ 30 รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาทั้ง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ปัญหาน้ำ ปัญหาด้านความมั่นคง ซึ่งเป็นปัญหามาตลอดก็แก้กันแบบเดิม ซึ่งแก้ได้แค่ชั่วคราว ปีหน้าปัญหาก็กลับมาใหม่อีก จึงต้องคิดโครงสร้างทั้งหมด เมื่อเรามองภูมิภาคทั้ง 6 ภูมิภาคแล้ว โดยทำเขตเศรษฐกิจพิเศษแต่ละภูมิภาค และเปิดระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)

         พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เรามีรายได้หัวเฉลี่ยต่อจีดีพีคนละ 6 หมื่นกว่าบ้านต่อปี แล้วจะอยู่ได้หรือไม่ แล้วก็ตามมาด้วยปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้แต่ก็ยังแก้ได้ไม่หมดจนกว่าเจ้าหนี้จะมาขึ้นทะเบียน หากไม่มาขึ้นทะเบียนแล้วยังปล่อยกู้ก็ติดคุก แล้วมีใครกล้าทำหรือไม่ เพื่อให้เจ้าหนี้เข้ามาเสียภาษีด้วย ส่วนคนจนหากมีคดีแล้วใครไม่มีเงิน รัฐบาลจัดตั้งกองทุนยุติธรรม เพื่อช่วยเหลือเยียวยา อันนี้ถือว่าช่วยอย่างแท้จริง ไม่ใช่อะไรก็เอาเงินไปจะผิดกฎหมายก็ได้

         “รัฐบาลชุดนี้ทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะเราต้องการให้กฎหมายบังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าผมหรือใครหากผิดกฎหมายเดียวกันก็ต้องดำเนินคดีเหมือนกัน ไม่มีใครจะอยู่นอกระบบไม่ได้ ฉะนั้นอย่าไปเชื่อคำบิดเบือนทุกวันตามสื่อ ที่เขียนว่ารัฐบาลไปรบหรืออะไรใคร ผมไม่เคยคิดอย่านั้น ถ้าใครผิดก็ว่ามา ก็แล้วแต่ใครจะผิดหรือถูกผมไม่รู้ ผมไปขัดไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

ขอความร่วมมืออย่ามีความขัดแย้งภาคใต้

          นายกฯ กล่าวว่า ตนขอขอบคุณมหาลัยสงขลานครินทร์ที่ได้ขับเคลื่อนงานวิจัยในเรื่องการสร้างนวัตกรรมต่างๆ มากมาย รัฐบาลจำนำมาสู่การปฏิบัติมากขึ้น ในเรื่องกิจกรรมต่างและผลงานที่ปรากฏ รัฐบาลจะนำไปเชื่อมต่อสู่การผลิต และภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ เราต้องสร้างความปลอดภัยให้ได้ ด้วยความร่วมมือระหว่างกันลดความขัดแย้งให้ได้ การเมืองต้องเลิก ความขัดแย้งทางการต้องเลิกสักที เรายังมีภาระต่างๆ อีกมากมาย ทุกวันนี้ที่อังกฤษ ฝรั่งเศสก็มี ทุกประเทศมีหมด เราต้องแก้ปัญหาความขัดแย้งภาคใต้กันเอง อย่าให้คนอื่นเขามา ถ้าเข้ามาแล้วแก้ได้หรือไม่ ที่ยืดเยื้อกันมาถึงทุกวันนี้ เราแก้กันด้วยคนไทยของยึดการพัฒนาเป็นหลัก การบังคับกฎหมายก็ทำไป การทูตต่างประเทศก็ว่าไป ขออย่าให้มีความขัดแย้ง มันไม่มีใครยอมใคร เราเองต้องมาร่วมมือกันพัฒนาเป็นหลัก อย่างไรก็ตามก็มีคนไม่ดีอยู่ ทำอย่างไรจะเอาคนไม่ดีออกไปได้

                    นายกฯลั่น ต้องร่วมปฏิรูป ปรองดอง เพื่อปลดล็อคขัดแย้ง

          นายกฯ กล่าวต่อว่า จะทำอย่างไรให้ข้าราชการรุ่นใหม่มีช่องทางที่เหมาะสม ไม่อย่างนั้นจะมีความขัดแย้งกันเรื่อยไป วันนี้ในเมื่อเราจะไป 4.0 มันจะมีกลไกที่นำพาประเทศไปหรือเปล่า เขาจะปฏิรูปต้องดูว่ามีกลไกปฏิรูปหรือไม่ ไม่อย่างนั้นรัฐบาลที่มาจากอะไรก็แล้วแต่ ถ้าไม่มีพื้นฐานเลย ก็จะสะเปะสะปะเหมือนเดิม พอเปลี่ยนรัฐบาลทีที่ทำดีอยู่แล้วก็ไม่ทำ มันไม่ได้ มันต้องมียุทธศาสตร์ชาติให้เราเดิน การปฏิรูปประเทศไม่ใช่ทำแล้วเสร็จ แต่การปฏิรูปมันมีฟอร์มว่าจะทำอะไร ทำทำไม จะทำแค่ไหน

          ทั้งนี้ในช่วงหนึ่งของการพบกับผู้ที่มารับฟัง โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว ขอร้องบรรดานักเรียนนักศึกษาว่าอย่าออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองกันมากนักเพราะพวกที่ออกมาเคลื่อนไหวมักจะเรียนไม่จบ หรือไปจบเอาในช่วง 8 ปีเนื่องจากต้องไปทำกิจกรรมต่างๆ ขอให้กลับไปทำและคิดในเรื่องของตัวเองคือเรื่องการเรียนและการศึกษา รวมทั้งทำเพื่อครอบครัวจะดีกว่า เพราะถ้ามัวแต่เสียเวลากับการออกมาเคลื่อนไหวการแสดงความคิดเห็นต่างๆก็จะทำให้เกิดผลกระทบต่อการเรียนได้ อย่างไรก็ตามความเห็นต่าง หรือการเรียกร้องต่างๆสามารถที่จะทำได้แต่ขอให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญซึ่งก็มีการบัญญัติไว้อย่างชัดเจนในเรื่องของสิทธิเสรีภาพ แต่ก็อย่าลืมว่ากฎหมายไม่ได้มีแค่เฉพาะรัฐธรรมนูญอย่างเดียวยังมีกฎหมายลูกกฎหมายความมั่นคงกฎหมายการจราจรพี่ต้องดูเป็นองค์ประกอบร่วมกัน

          จากนั้นนายกเยี่ยมชมนิทรรศการ “ม.อ. รวมพลังขับเคลื่อน Thailand 4.0” ณ บริเวณโถงหน้าห้อง Conventions Hall ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ