"วัชระ" ดักคอรัฐหวังให้ทุกสื่อเป็นกระบอกเสียง

"เด็กปชป." ค้านกม.คุมสื่อ เหตุแทรกแซงสิทธิเสรีภาพสื่อ ส่ง 2 ปลัดนั่งบอร์ดสภาวิชาชีพ ระบุต่อไปไม่กล้าตรวจสอบรัฐกลัวถูกถอดใบอนุญาตฯ ชี้ มีกฎหมายมากมายควบคุมสื่ออยู่แล้ว หากละเมิดรัฐดำเนินการได้ จวกสปท.เจตนาปิดกั้นข้อมูลข่าวสารประชาชน เผยโมเดลกฎหมายสิงคโปร์จำกัดสิทธิเสรีภาพสื่อ

          29 เม.ย. 60 - นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเสอร่างพ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) และกำลังจะมีการพิจารณาในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ว่า ขอคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพราะแค่ชื่อร่างพ.ร.บ.ก็ถือว่าโกหกประชาชนแล้ว เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้แทรกแซงสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน อีกทั้งยังส่งตัวแทนภาครัฐถึง 2 คน คือปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าไปนั่งเป็นกรรมการสภาวิชาชีพ มีหน้าที่ออกใบอนุญาตในการเป็นสื่อมวลชน ซึ่งใครฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท  
          นายวัชระ กล่าวอีกว่า การเขียนกฏหมายของสปท.เป็นการย่ำยีสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน และมีเจตนาต้องการปิดกั้นการเสนอข่าวสารข้อเท็จจริงสู่ประชาชน ดังนั้นจะถือว่าเป็นการปฏิรูปประเทศหรือไม่ขอให้สาธุชนลองคิดดู หากรัฐมีอำนาจในการออกใบอนุญาตให้สื่อในการทำข่าว ต่อไปสื่อมวลชนจะกล้าตรวจสอบการทุจริตและประพฤติมิชอบของรัฐหรือ และหากกล้าตรวจสอบการทุจริตแล้วจะได้ต่อใบอนุญาตหรือ แล้วประชาชนจะได้ข่าวสารอย่างรอบด้านได้อย่างไร รัฐบาลกำลังจะสร้างสื่อมวลชนทุกแขนงให้กลายเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลใช่หรือไม่

          นายวัชระ กล่าวต่อว่า สำหรับการยกโมเดลกฎหมายสื่อฉบับนี้มาจากสิงคโปร์นั้น ถ้าสปท.ท่านใดชอบก็ควรย้ายประเทศไปอยู่สิงคโปร์ ไม่ใช่นำกฎหมายจำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อจากประเทศอื่นมาใช้ที่นี่ ส่วนกรณีหมอนวดแผนโบราณมีใบอนุญาต ขณะที่สื่อไม่มี ก็ต้องบอกว่าสื่อมีการรับรองจากต้นสังกัดอยู่แล้ว รัฐไม่ควรก้าวก่ายการออกใบอนุญาตให้สื่อ  
          “การมาอ้างว่าต้องออกกฏหมายนี้เพราะสื่อควบคุมกันเองไม่ได้ อย่าว่าแต่สื่อ ขนาดข้าราชการพล.อ.ประยุทธ์ มีม.44 ก็ยังคุมกันเองไม่ได้ เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น เพราะรัฐมีกฎหมายอาญา กฎหมายอื่นๆควบคุมสื่อครอบจักรวาลอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องส่งตัวแทนเข้ามานั่งในสภาวิชาชีพของสื่อแต่ประการใด สื่อไหนที่ละเมิดกฎหมาย รัฐดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดหรือไม่ มิหนำซ้ำยังมีการแอบให้งบประมาณประชาสัมพันธ์กับสื่อที่เป็นปฏิปักษ์กับรัฐบาลมาโดยตลอดก็ไม่เห็นพล.อ.ประยุทธ์ ว่าอะไร” นายวัชระ กล่าว    
          นายวัชระ กล่าวด้วยว่า สำหรับร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว สปท.ไม่ควรดันทุรัง แต่ควรถอย เพื่อการปรองดองประเทศ อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลให้ผ่านกฏหมายกดหัวสื่อ ตนจะเสนอกฎหมายแก้ไขในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป เพราะรัฐบาลบอกไว้ว่าจะมีการเลือกตั้งส.ส.ในปีหน้า.