ข่าว

"บิ๊กป้อม"จี้ผู้แทนพิเศษรบ.เร่งแก้ปัญหาไฟใต้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ประธานคปต."จี้ผู้แทนพิเศษรัฐบาล เร่งแก้ปัญหาก่อเหตุใน 3 จชต. เน้นการป้องกัน หลังสรุปผลงานรอบ 6 เดือน ชี้ งานด้านความมั่นคงอยู่ระดับกลาง

 

          23 เม.ย. 60 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ได้สรุปผลการปฏิบัติงานในรอบ 6 เดือน ภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. มีคำสั่งเรื่องการปรับปรุงการบริหาร เพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกำหนดให้ คณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาล โดยมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็น หัวหน้าคณะผู้แทนพิเศษรัฐบาล มีหน้าที่ ประสานงาน เชื่อมโยงงาน ให้เกิดการบูรณาการ และปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน และการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ได้ร่วมขับเคลื่อนงานตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้ง 6 ยุทธศาสตร์ นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ นโยบายที่ 3 การป้องกันและแก้ไขการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้  แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ยุทธศาสตร์ที่ 5การเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศสู่ความมั่งคั่งและยั่งยืน  และ Road Map ของผู้แทนพิเศษของรัฐบาล

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ซึ่งในห้วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนงาน ดังนี้ ด้านความมั่นคง มุ่งเน้นการเพิ่มความปลอดภัย เสริมกลไกทางกฎหมาย และสร้างสภาวะที่เอื้อต่อการพูดคุยสันติสุข โดยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การมีส่วนร่วมของประชาชน ด้วยการเสริมสร้างชุดคุ้มครองตำบล จำนวน 60 ตำบล และการนำกำลังภาคประชาชนร่วมรักษาความปลอดภัย เฉลี่ยวันละ 35,000 คน โดยฝึกทบทวนห้วงละ 7 วัน รวมทั้งการฝึกร่วมเจ้าหน้าที่รัฐ ได้แก่ ผู้บังคับกองร้อย  ปลัดประจำตำบล ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ และตำรวจอำเภอ เพื่อสร้างความคุ้นเคย ความเป็นเอกภาพ ในการแก้ไขปัญหา และเสนอแก้ไขมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อเสริมประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคง รวมทั้งจัด “ชุดพนักงานสอบสวนคดีความมั่นคง” ตั้งแต่ระดับสารวัตร ถึงผู้กำกับการ จำนวน 9 ชุด ชุดละ 5 นาย เสริมการปฏิบัติงานใน 4 จังหวัด และจัดตั้งกองกำกับการเก็บกู้วัตถุระเบิด ให้กับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ๙ นอกจากนั้นยังสร้างความเข้าใจกับธนาคารโลกในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยธนาคารโลกพร้อมสนับสนุนงบประมาณให้รัฐบาลในกระบวนการสร้างสันติสุข

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับด้านการพัฒนาเน้นวางรากฐานการศึกษา จัดระบบแก้ไขปัญหา และเพิ่มมูลค่าการลงทุน โดยร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การศึกษาแบบบูรณาการเพื่อรองรับการพัฒนาเมืองต้นแบบ และแผนยุทธศาสตร์การศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ปี เน้นการเรียนรู้ตลอดชีวิตในสังคมพหุวัฒนธรรม ยกระดับการเรียนภาษาไทย และการรับรองวุฒิการศึกษาของผู้เรียนจากสถานศึกษาอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ มีการจัดตั้งและขับเคลื่อน “ศูนย์ประสานการบริการและการลงทุนจังหวัดชายแดนภาคใต้”  (One - Stop - Service) เพื่อบูรณาการงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในพื้นที่อย่างเบ็ดเสร็จ และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการให้เข้าถึงบริการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือ Soft Loan รวมทั้งแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินรอบอุทยานแห่งชาติ บูโด-สุไหงปาดี ซึ่งปัจจุบันออกโฉนดที่ดินให้แก่ราษฎรรวม 7,824  แปลง และคาดว่าภายในเดือนกันยายน จะสามารถออกโฉนดที่ดินให้แก่ราษฎรทุกรายจำนวน 15,750 แปลง  และสนับสนุนอาชีพการประมง และอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการประมงในพื้นที่รอบอ่าวปัตตานี พัฒนาและฟื้นฟูสภาพอ่าวปัตตานี โดยประสานงานกับกรมเจ้าท่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน ร่วมศึกษา และจัดทำโครงการขุดลอก พัฒนา และอนุรักษ์อ่าวปัตตานี ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างยั่งยืน

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับด้านการสร้างความเข้าใจจากหลักคิด “ความเห็นต่างคือโอกาสสร้างความเข้าใจ” จึงร่วมมือกับองค์กรภาคประชาสังคม แก้ไขสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน โดยประสานการถอนฟ้อง 3 นักสิทธิมนุษยชน ส่งผลดีต่อการชี้แจงในเวที ICCPR เกิดความเข้าใจในหน่วยงานของรัฐ นำไปสู่ความร่วมมือป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างยั่งยืน นอกจากนั้น ได้ร่วมต้อนรับและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะผู้แทนจาก OIC และผู้ตัดสินชี้ขาดสูงสุดทางศาสนาอิสลามจากอียิปต์ ในโอกาสเดินทางเยี่ยมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งช่วยสร้างความเข้าใจต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประเมินผลตาม Road Map ในรอบ 6 เดือน สามารถสรุปได้ว่า การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านความมั่นคง ด้านการพัฒนา และด้านการสร้างความเข้าใจ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยด้านความมั่นคงอยู่ในระดับปานกลาง และเห็นว่าควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ เพื่อให้เกิดจิตสำนึกรักและห่วงแหนผืนแผ่นดิน ด้านการพัฒนาอยู่ในระดับมาก และเห็นควรเร่งรัดโครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว พร้อมกับวางแผนการศึกษาให้กับบุคลากรในสายอาชีพ เพื่อรองรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ  ส่วนด้านการสร้างความเข้าใจอยู่ในระดับมากเช่นกัน และควรสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจในระดับท้องถิ่นให้มากทุกพื้นที่ รวมทั้งสร้างเครือข่ายสู่ภูมิภาค ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ภายนอกประเทศ สำหรับการประเมินการรับรู้ของประชาชนต่อแผนบูรณาการการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีค่าเฉลี่ยโดยรวมอยู่ในระดับมาก ภาคประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐ และผู้นำศาสนา อยู่ในระดับมาก ส่วนภาคประชาสังคมอยู่ในระดับปานกลาง

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ พล.อ.อุดมเดช ได้รายงานผลการดำเนินการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธาน คปต.ไปแล้ว และ พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำให้ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลร่วมแก้ไขปัญหาการก่อเหตุรุนแรง โดยมุ่งมาตรการป้องกันเป็นหลัก และร่วมขับเคลื่อนงานการพัฒนาให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ 

          ทั้งนี้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร หัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ระบุว่า การดำเนินการในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากส่วนราชการ ส่วนในห้วง 6 เดือนต่อไป จะขับเคลื่อนตาม Road Map ที่ได้รับอนุมัติจากประธาน คปต. และท่านนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม จำเป็นที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน ภาครัฐ และภาคประชาสังคม เพื่อสร้างความกินดีอยู่ดี และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะนำไปสู่สันติสุขที่ยั่งยืนต่อไป

 

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ