ข่าว

ผ่านร่างกม.ห้ามบุคคลเป็นกก.กสทช.!!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สนช.เห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.กสทช  ฉบับใหม่ กำหนดเข้มคุณสมบัติห้ามนักการเมือง- องค์ตามรธน.-แวดวงธุรกิจสื่อ และดิจิทัล  เป็นกก.กสทช.พร้อมแก้ไขคนเป็นกก.สรรหาใหม่

        31 มี.ค. --  ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่มีนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.คนที่สอง เป็นประธาน  โดยที่ประชุมได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.)  (ฉบับที่..) พ.ศ...  ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาเสร็จ โดยสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.กสทช. พ.ศ. 2553 ในเรื่องเกี่ยวกับองค์ประกอบและคุณสมบัติของกรรมการ กสทช.โดยยังคงจำนวนกรรมการกสทช.จำนวน 7 คน แต่เพิ่มคุณสมบัติให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน พร้อมแก้ไขอายุของกรรมการโดยลดลงจากเดิมกำหนดอายุไม่ต่ำกว่า 45 ปี เป็น 40 ปี และเป็นไม่เกิน 70 ปีจากเดิมแค่ 65 ปี  

         ส่วนลักษณะต้องห้ามได้แก้ไขห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือตำแหน่งใดในพรรคการเมือง หรือเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังโดยหมายศาล ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หรือเคยถูกวุฒิสภามีมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง เป็นหรือเคยเป็นกรรมการผู้จัดการผู้บริหารที่ปรึกษาพนักงาน ผู้ถือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านการกระจายเสียง โทรทัศน์ หรือกิจการด้านโทรคมนาคมในระยะเวลา 1 ปี ก่อนคัดเลือก
         นอกจากนี้การสรรหากสทช.ที่มีกรรมการสรรหาที่มาจากประธานองค์กรอิสระต่าง ๆ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครองสูงสุด ป.ป.ช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นต้น เปลี่ยนเป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจากที่ประชุมของกรรมการองค์กรอิสระนั้นๆ พร้อมทั้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทำหน้าที่เป็นฝ่ายธุรการในการสรรหาและคัดเลือกกรรมการจากร่างเดิมที่ให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลและสังคม ร่างพ.ร.บ.ยังได้เพิ่มเติมห้ามไม่ให้ผู้พ้นจากตำแหน่ง กรรมการกสทช.เป็นผู้ถือหุ้นส่วนหรือดำรงตำแหน่งใดในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนหรือนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจด้านวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เว้นแต่พ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
         จากนั้นได้พิจารณาเรียงตามลำดับรายมาตรา ซึ่งส่วนใหญ่เห็นตามที่กรรมาธิการฯแก้ไข  ซึ่งที่ประชุมได้ลงมติในวาระที่สามด้วยคะแนนเอกฉันท์ 197 เสียง งดออกเสียง 2 และให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป  
 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ