ข่าว

นายกฯแนะขรก.ปรับตัว-เป็นผู้นำที่ดี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ประยุทธ์"ชี้ข้าราชการต้องปรับตัว เป็นผู้นำที่ดี อย่าให้มีคนมาพูดได้ว่า "ดีแต่พูดแล้วไม่ทำ" ระบุคนไม่ดีมีทุกองค์กรต้องช่วยดึงกลับมาดีให้ได้ 

        31 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช.) กล่าวให้โอวาทเนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2560 โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า เรามีการสร้างสรรค์ และจัดระบบราชการตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 จนถึงปัจจุบัน ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเมือง จนทำให้ประเทศมีความสงบเรียบร้อย และวันนี้ตนก็ถือเป็นข้าราชการคนหนึ่งในฐานะข้าราชการการเมือง จึงถือว่าคำว่าข้าราชการมีความสำคัญที่สุดในชีวิต ถือเป็นความภาคภูมิใจ เกียรติยศศักดิ์ศรี ผู้ที่ได้รับรางวัลต้องถือว่าเป็นรางวัลที่ทรงเกียรติ ปัจจุบันประเทศไทยมีความจำเป็นที่ต้องพัฒนา และปฏิรูปเป็นช่วงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลง ซึ่งผู้นำในการเปลี่ยนแปลงนั้น ไม่พ้นคนที่เป็นข้าราชการ เพราะประเทศของเรายังต้องสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้มากขึ้น มีคุณภาพที่ใกล้เคียง และเท่าเทียมกัน ข้าราชการต้องเป็นผู้นำให้ได้ โดยประชาชนมีส่วนร่วม

         ดังนั้นเราต้องเตรียมพร้อมในการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก ถือเป็นความท้าทายของข้าราชการทุกคน ในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย จากประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงอย่างยั่งยืน ทำให้ประชาชนมีความสุข ลดความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ ทำอย่างไรประชาชนจะเชื่อมั่นกฎหมาย และไว้ใจกระบวนการยุติธรรม  เป็นความสำคัญและการท้าทายที่ยิ่งใหญ่ ทุกคนมีความสำคัญเท่าเทียมกันถือเป็นองคาพยพในการขับเคลื่อนประเทศ ตนคนเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ แม้รัฐบาลจะเป็นผู้กำหนดนโยบาย หรือคาบเกี่ยวในการปฏิบัติบ้าง แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้ไปจำกัดแนวคิดหรือวิสัยทัศน์ของข้าราชการ รัฐบาลพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดตามที่ข้าราชการ และประชาชนคาดหวัง

          ขอให้ข้าราชการทุกคนนำกระแสพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวปฏิบัติในการขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง วันนี้เราต้องลดความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนให้มากที่สุด ต้องทำให้ความพยายามบังคับใช้กฎหมายน้อยที่สุด โดยไม่มีใครทำผิดกฎหมาย ไม่เช่นนั้นทุกคนจะเสพติดอำนาจ เสพติดกับกฎหมาย เสพติดกับการฝ่าฝืนกฎหมาย จากนั้นก็เกิดการกระทบกระทั่ง และหวาดระแวงเจ้าหน้าที่รัฐ เราต้องหาวิธีให้ประชาชนรู้ว่าควรอยู่อย่างไร เจ้าหน้าที่ก็จะงานไม่หนัก และไม่นำไปสู่การทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ ทุกอย่างคือการทำให้บ้านเมืองสงบสุข

         จึงขอให้ข้าราชการทุกคนยึดหลักเหล่านี้ในการทำงาน การทำประเทศให้เป็น 4.0 เพื่อแก้ปัญหา และพัฒนาทำให้ประเทศเดินหน้าอย่างสมบูรณ์ ไม่เช่นนั้นถ้าประชาชนขาดความเข้าใจ จะทำให้เกิดความคิดที่ว่ารัฐบาลนี้มุ่งแต่จะเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มธุรกิจ โดยไม่ดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย ไม่ต้องลงทุนเพราะมีคนจนมาก เอาเงินมาดูแลคนจนไม่ดีกว่าหรือ ถามว่าถ้าคิดแบบนี้จะเป็นการกินตัวเองไปอีกนานเท่าไร แล้วจะอยู่รอดไปได้อีกกี่ปี ถ้าคิดแบบนี้ก็ไปไม่ได้ทั้งหมด

          รัฐบาลนี้พยายามทำทุกอย่าง ที่จะจัดสรรงบประมาณลงไปสู่ทุกภาคส่วนทุกกิจกรรมทุกยุทธศาสตร์ แต่ถ้ายังมีความไม่เข้าใจและไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนก็ทำอะไรไม่ได้ ที่ผ่านมามันเป็นปัญหาซ้ำซาก แต่ตนไม่ได้โทษใคร วันนี้ทุกคนคาดหวังว่ารัฐบาลนี้จะทำได้ทุกเรื่อง จนลืมไปว่าปัญหาหมักหมมมานานทุกคนต้องช่วยกันอธิบาย และสร้างความเข้าใจ ถ้าประเทศกำลังพัฒนาปัญหาอะไรอยู่ด้วยข้อเท็จจริงหลักการ และเหตุผลโดยไม่ใช้ความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องถ้าเราใช้ความรู้สึกนำหน้าก็จะทำอะไรไม่ได้ทำทุกอย่าง

         "ชอบหรือไม่ชอบ ใช่หรือไม่ใช่ ก็วนกันอยู่แค่นี้ปิดตัวเองอยู่ตรงนี้จนขับเคลื่อน หรือทำงานไม่ได้ ติดด้วยกฏหมาย ติดด้วยวัฒนธรรมองค์กรของตัวเอง ที่เป็นปัญหา ของพวกเรา ไม่ใช่ข้อบกพร่อง แต่อยู่ที่การปรับเปลี่ยนตัวเอง อยู่ที่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนตัวเองหรือไม่ และต้องทำงานในการบูรณการ ขอให้ข้าราชการทุกคนกลับไปคิดว่าทำอย่างไร จะให้สำเร็จตามที่สถาบันพระมหากษัตริย์คาดหวัง ซึ่งท่านทรงคาดหวังอยางเดียวคือประชาชนมีความสุข ดังนั้นทุกคนจะต้องทำงานตามที่ทรงคาดหวังให้ได้มากที่สุด เพราะทุกคนคือข้าราชการ โดยข้าราชการต้องทำตัวเองเป็นคน 4.0 ให้ได้ก่อน”พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกล่าว

           พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่าการพัฒนา หรือการปฏิรูปบางอย่างก็ต้องพึงระวัง เช่นการใช้ภาษา ปัจจุบันแทบจะต้องพิมพ์พจนานุกรมฉบับเด็กเพิ่มอีกฉบับ เช่นคำว่า เด๋ว (เดี๋ยว) เขียนกันจนติดในภาษาคอมพิวเตอร์ ภาษาโทรศัพท์ ในแอพพลิเคชั่นไลน์ จนปัจจุบันจะเขียนกันไม่ถูกแล้ว ขอให้กระทรวศึกษาธิการไปทบทวน เพราะอนาคตในวันข้างหน้าภาษาไทยเด็ก ๆ จะสอบตก ต้องกลับมาดูว่าจะทำอย่างไรให้เด็กสอบผ่านภาษาไทย และสอบผ่านทุกวิขา ถือเป็นความท้าทายของข้าราชการทุกกระทรวง

          "เข้ามาเป็นนายกฯ จะครบ 3 ปี ในเดือนพ.ค. นี้ ผมไม่เคยที่จะหยุดคิดแม้แต่วันเดียว ไม่เคยหยุดกำกับดูแล จึงนึกทุกเรื่องได้ออกว่าพูดและสั่งอะไรไปบ้างแล้ว จากนั้นก็มาตามในครม. โดยมีรองนายกฯ และครม. ช่วยในการทำงาน แต่คนที่ขับเคลื่อนคือข้าราขการ วันนี้อย่าให้ประชาชนว่าได้ว่านายกฯ รัฐบาลก็พูดไป แต่ไม่เกิดอะไรขึ้นมาดีแต่พูด ผมไม่อยากให้เกิดคำนี้เท่านั้นเอง ทุกคนทำดีอยู่แล้ว แต่ขอให้ทำมากขึ้นกว่าเดิม อย่าให้มีการพูดจาดูหมิ่นเราได้อีกต่อไป ด้วยความไม่ไว้เนื้อเชื้อใจ ยอมรับว่าเห็นใจ มีหลายอย่างที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของบางคน เพราะคนไม่ดีมันก็มีทุกที่ เราต้องทำให้คนไม่ดีเหล่านั้นกลับมาเป็นคนดี แม้จะขจัดไม่ได้ทั้งหมด ต้องไม่ปล่อยให้สร้างความเดือดร้อนต่อสังคม สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ รับสั่งกับสังคมว่า ถ้าเราไม่พูดจา ไม่คบกับคนไม่ดีเลย เขาก็จะไม่ดีไปเรื่อย ๆ เราต้องคยและหาเรื่องคุย ปรับทุกข์ให้เขา เติมความดี หาความดีจนเขากลับขึ้นมาดี ถ้าปล่อยทำไม่รู้ไม่ชี้ก็จะทำให้เสียทั้งตัวเขา และองค์กร รวมถึงประเทศ สังคม และวัฒนธรรม สำคัญที่สุด ต้องเปลี่ยนแปลงปรับปรุงไปด้วยกัน ตั้งแต่นาย และลูกน้อง ทุกอย่างจึงจะสำเร็จ"นายกฯ กล่าว

        ขอข้าราชการที่ได้รางวัล ทำให้ทุกคนในองค์กรมีคุณธรรม ย้ำคนทำผิด ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรรม

         พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ข้าราชการต้องทำงานเป็นข้าราชการ 4.0 ตนเชื่อมั่นว่าข้าราชการทุกคนมีคุณธรรมรู้ว่าอะไรดีไม่ดี แต่ท่านที่ได้รับรางวัลวันนี้ ต้องทำให้ทุกคนมีคุณธรรมทั้งองค์กรด้วย จึงจะเรียกว่ามีจริยธรรมทั้งองค์กร ต้องมีส่วนร่วมในการได้เสีย แต่เรื่องเงินทองขออย่าไปคิดถึง หากเรามีรายได้ประเทศเข้ามา เงินเดือนของข้าราชการก็จะดีขึ้น ซึ่งตนก็รู้ดีว่าทุกคนต้องการเช่นนั้น แต่ถ้าเรายังพันอยู่กับปัญหาเดิม ๆ ก็จะเดินไปข้างหน้าไม่ได้ 100% ข่าววันนี้ทุกหน้ายุ่งแต่เรื่องความขัดแย้ง ในขณะที่หนังสือพิมพ์ต่างประเทศเขาลงอะไรบ้างในแต่ละวัน ลองเปรียบเทียบกันดู เพราะเขารู้ว่าถ้าเขาลงเรื่องอะไรที่เป็นผลลบ ข่าวย่อมไปที่อื่นด้วย แต่ไม่ใช่เราต้องการจะเปิดกั้นอะไรทั้งสิ้น หากต้องคำนึงถึงผลเสีย และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย จึงขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย

         พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ตนเชื่อมั่นต่อข้าราชการที่ได้รับรางวัล ขอให้มีความภาคภูมิใจดำรงรักษาคุณงามความดี ให้สมกับที่คณะกรรมการได้พิจารณามอบรางวัลให้ และเพื่อเป็นความภูมิใจของครอบครัวมีรางวัลประดับโต๊ะทำงาน และที่บ้าน และต้องถามตนเองด้วยว่าประชาชนจะได้อะไรจากเรา ถ้ายังทำไม่เต็มที่ ก็ต้องทำอีก นั่นคือรางวัลท่ีเป็นความสุข

         “แม้วันนี้จะมีปัญหา แต่ก็ยังมองเห็นความสำเร็จ ผมเห็นหลายอย่างที่ทุกคนช่วยกันทำ แล้วมีความก้าวหน้าผมก็ภูมิใจ แต่ยังมีปัญหาอีกเยอะซึ่งผมก็เอาส่วนนี้เป็นพลังที่จะทำสิ่งที่เหลือให้ได้ แต่ผมคงทำคนเดียวไม่ได้ ขอให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความวิริยะอุตสาหะ สุจริตมีคุณธรรม ครองตน ครองเรือน ครองงาน ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อประชาชนและประเทศชาติ พัฒนาระบบราชการให้เกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง ผมฝากการทำงานที่สำคัญของข้าราชการ 4.0 ต้องเรียนรู้ด้วยข้อมูลเชิงวิชาการด้วยตัวเอง เอาความรู้มาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด เมื่อเป็นนักคิดแล้ว ก็ต้องเป็นนักปฏิบัติด้วย วันนี้รัฐบาลทำทุกระบบ แต่อย่าถือว่าเราคอยจับผิดพวกท่าน หากเป็นการเข้าไปช่วยและติดตามงาน เพราะบางทีข้าราชการอาจจะไม่กล้าบอกว่าติดปัญหาที่ส่วนไหน ขอให้บอกมา ผมพร้อมจะแก้ให้”นายกรัฐมนตรี กล่าว

          พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญคือเรื่องการทุจริตความไม่โปร่งใส จะต้องแก้ไขให้ได้ ถือเป็นวาระของชาติ ใครทำผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขอให้จำคำพูดของตนไว้ ตนต้องการแค่นั้น ไม่เช่นนั้นกฎหมายที่มีจะไร้ค่า คงไม่ต้องมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ โดยต้องแก้ไขกฎหมายให้ทันสมัย และต้องมุ่งว่าประชาชนจะได้อะไรจากกฎหมายฉบับนั้น อย่าหวังแต่เพียงให้ข้าราชการทำงานได้แต่ประชาชนเดือดร้อน อย่าลืมว่ากฎหมายทุกฉบับมีความสุส่มเสี่ยงไปละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่นกรณีการเป็นเจ้าของที่ดินทั้งประเทศ หากเราจะเอาที่ดินมาทำผังเมืองมาใช้ประโยชน์ ก็ต้องสร้างความพึงพอใจให้เขาว่าเขาจะได้อะไร อย่าใช้อำนาจตามที่รัฐบาลสั่งอย่างเดียว เพราะจะสร้างปัญหาตามมาอีกเยอะ แล้วต้องคอยตามแก้กันอีก

         “วันนี้หลายคนอาจจะคิดว่าผมพูดเยอะ แต่ก็ต้องพูด เพราะอยากให้รู้ว่าผมคิดอะไร ถ้าผมไม่คิดไม่พูด ทุกคนก็จะมองว่าผมมีอำนาจมีผลประโยชน์ ซึ่งผมไม่ต้องการคำเหล่านี้เลย อำนาจนี้เป็นของประชาชนที่ให้กับเรา ไปทำอะไรเพื่อพวกเขา โดยเขามีความคาดหวัง ซึ่งแววตาเขาเป็นเช่นนั้นกับทุกรัฐบาล ผมเชื่อเช่นนั้น เขาคาดหวังว่าคนนี้คนนั้นจะทำอะไรให้ ซึ่งวันนี้เขาอาจจคาดหวังมากหน่อย เราจะทำอย่างไรถึงจะไม่กลับไปที่เดิม ประชาธิปไตยจะไม่เป็นแบบเดิม ที่ไม่มีธรรมาภิบาล นั่นคือภาระกิจของพวกท่าน ซึ่งผมช่วยอะไรไม่ได้ เพราะเป็นกระบวนการประชาธิปไตย แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ท่านรู้ปัญหาดี ทั้งนี้ข้าราชการทำงานต้องมีการสังเกต แต่ไม่ใช่การจับผิด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

          ย้ำยุคนี้ต้องไม่มีใช้อำนาจเละเทะอีกต่อไป หวัง 1 ปีก่อนเลือกตั้งข้าราชการจะไม่ยอมให้ใครทาบทับอำนาจบริหาร หวัง 1 ปีก่อนเลือกตั้งตามโรดแม็ป ขรก.ไม่ยอมให้ใครทาบทับอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน บอกตลอด 3 ปีสวดมนต์ขอพรประเทศชาติ สถาบันปลอดภัย        
         พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า  ทุกพระองค์ทรงเป็นครูหมด รับสั่งกับตนหลายครั้งว่าทำให้ดีที่สุด เพื่อประชาชนมีความสุข มีความพึงพอใจ รักษาระเบียบวินัยให้บ้านเมือง ทุกพระองค์มีความห่วงใยบ้านเมืองทั้งสิ้น นั่นคือสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเรื่องของการทำงานนอกจากจะได้รับชื่อเสียง ความภาคภูมิใจ ซึ่งตนว่าแค่นี้ยังไม่เพียงพอ ต้องให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจเราด้วย ให้ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อนฝูง รักเราทำได้ไหม ถ้าเราวางตัวได้ดีเขารักษาทุกคน ต้องอธิบายทำความเข้าใจ ให้เกิดความยอมรับ โดยอธิบายไม่ใช้อำนาจเรื่อยเปื่อย เพราะมันจะเละเทะทั้งหมด ซึ่งต้องไม่เกิดขึ้นในสมัยนี้อีกต่อไป          
       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ตนรับเรื่องเยอะมาก จริงบ้างไม่จริงบ้าง ตนไม่อยากไปทำให้เพื่อนข้าราการต้องเดือดร้อน แต่ถ้ามีมูล มีข้อเท็จจริงก็จำเป็น ไม่เช่นนั้นจะปกครองกันไม่ได้ ทำงานไม่ได้ ประสิทธิภาพก็ไม่เกิด แล่วจะอยู่กันไปทำไม ต้องทำงานให้สำเร็จ ทำงานให้ทุกคนพึ่งพอใจ  ภายในใต้กรอบกติกา กฎหมายที่มีอยู่อย่างถูกต้อง ยึดศาสตร์พระราชาเป็นแนวทางปฏิบัติ เดินตามยทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
        "ผมคาดหวัง 1 ปีที่ผมยังอยู่ก่อนเลือกตั้งตามโรดแม็ปของผม ก่อนการเลือกตั้งท่านเร่ิมทำให้ตนเถอะ เพื่อไปสู่จุดหมายปลายทาง เพื่อให้เกิดความยั่งยืน อย่าให้ใครมาทาบทับอำนาจบริหารราชการที่ท่านมีตามกฎหมาย ท่านต้องทำงานให้เกิดความก้าวหน้าและถูกต้อง ไม่มีใครก้าวล่วงท่านได้ จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก นั่นคือข้าราชการในอนาคต วันนี้เราต้องทำให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะสับสนอลม่านไปหมด และท้ายสุดท่านต้องเป็นผู้รับผิดชอบตามกฎหมายทุกประการจำไว้ วันนี้ก็เห็นอยู่แล้ว หลายอย่างข้าราชการส่วนใหญ่ถูกโยงไปทั้งหมด เพราะท่านต้องทำงานเอกสาร ทำงานตามขั้นตอน ผมไม่อยากให้ท่านต้องไปอยู่ตรงนั้น"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว        
        ท่านต้องตั้งหลักตั้งแต่วันนี้ เข็มแข็งให้ได้ ขอให้มีความภาคภูมิใจ อย่างน้อยวันนี้ตนก็ภูมิใจได้ทำงานกับท่าน มีคนรักตนบ้างไม่รักตนบ้างไม่เป็นไร แต่ขอให้รักประเทศชาติ รักประชาชน นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด แล้วจะกลับมาเป็นบุญกุศลให้กับท่าน มากกว่าการไปทำบุญเยอะแยะ คนไทยทำบุญไหว้พระแล้วต้องเอามาปฏิบัติด้วย สวดมนต์ขอพรอย่างเดียวพระก็แย่เหมือนกัน ขอให้ให้ทำงานเรื่องนี้ไปได้ด้วยดีและสำเร็จ ไม่เกิดการกระทบกระทั่งกัน ขอให้ไม่ต้องใช้กฎหมายมาก ตนสวดมนต์อย่างนี้ทุกวัน ตนไม่เคยขอให้ตัวเอง ตนจะขออยู่เสมอให้ประเทศชาติ สถาบันปลอดภัย และประชาชนมีความสุขทำงานสำเร็จ นี้คือส่ิงที่ตนสวดมนต์มา 3 ปี ก่อนนั้นที่เป็นผบ.ทบ.ก็ขอให้ลูกน้องปลอดภัย หากเกิดการปะทะให้สูญเสียน้อยที่สุด หรือไม่สูญเสียเลย นั้นคือส่ิงที่ผู้บังคับบัญชาทุกคนต้องระลึกอยู่เสมอ

         ทั้งนี้ภายหลังนายกรัฐมนตรี กล่าวให้โอวาท นายวิษณุ เป็นประธานในพิธีมอบเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติแก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2560 จำนวน 615 คน 

          "วิษณุ"นำ"ครม-ขรก."ทำเนียบฯ ทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ 59 รูป วันข้าราชการพลเรือน ครบรอบ 89 ปี พร้อมมอบรางวัลข้าราชการดีเด่น 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 31 มี.ค.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศล และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน วันที่ 1 เม.ย.ครบรอบ 89 ปี ประจำปี 2560 โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.)  ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ข้าราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และข้าราชการพลเรือนดีเด่นที่ได้รับเกียรติบัตรและเข็มเชิดชูเกียรติ เข้าร่วมพิธี
        
                

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ