ปรับระบบถวายความปลอดภัย-ลดซ้ำซ้อน

       พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงข่าว การประชุมสภากลาโหม โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  เป็นประธานว่า ที่ประชุมสภากลาโหมพิจารณาให้ความเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้าง หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องและทบทวนภารกิจการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการถวายความปลอดภัย โดยรวมกลุ่มลักษณะงานที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกันเข้าไว้ด้วยกันเพื่อลดความซ้ำซ้อน ในการปฏิบัติงานรวมทั้งกำหนดความรับผิดชอบในการปฏิบัติและให้การสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจการถวายความปลอดภัยให้มีความเป็นเอกภาพมีประสิทธิภาพสอบพร้อมกับภารกิจของกระทรวงกลาโหมในปัจจุบัน  
         "บิ๊กป้อม"เน้นย้ำ เหล่าทัพ หนุนปรองดอง ยึดประชาชน
         พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า  พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพในการดำเนินการสนับสนุนการสร้างความสามัคคีปรองดอง โดยขอให้ทุกเหล่าทัพสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองร่วมกันทำงานอย่างประสานสอดคล้อง โดยมุ่งเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง และเปิดกว้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกภาคส่วนรอบด้านควบคู่ไปกับการสร้างความรับรู้ความเข้าใจกับประชาชนอย่างกว้างขวางใน ประชาชนได้ประโยชน์ร่วมกัน
      ย้ำจัดซื้อจัดจ้างกองทัพ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ห้ามเปิดช่องทุจริต
      พล.ต.คงชีพ กล่าว่า ที่ประชุมเน้นย้ำเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงกลาโหมสู่องค์กรที่มีความโปร่งใส เนื่องจากงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ได้มาจากภาษีของประชาชนจึงจำเป็นต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการสร้างหลักประกันความมั่นคงของชาติ ตามภารกิจของกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร จึงได้เน้นย้ำในหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมดำเนินการทุกวิถีทางในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยยึดผลประโยชน์ขององค์กรและส่วนรวมเป็นตัวตั้งโดยจะต้องไม่มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือการกระทำใดๆที่ก่อให้เกิดการทุจริตโดยเด็ดขาด  
         "บิ๊กป้อม"ย้ำเหล่าทัพ ไม่ประมาท บูรณาการงานการข่าวทุกด้านป้องก่อการร้าย

        พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า  ที่ประชุมเน้นย้ำ การเตรียมความพร้อมรับมือภัยคุกคามการก่อการร้ายโดยได้เน้นย้ำให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากการก่อการร้ายโดยไม่คาดคิด ดังกรณีที่เกิดกับประเทศต่างๆเมื่อเร็วๆนี้ พร้อมให้ความสำคัญงานด้านการข่าวเชื่อมโยงการทำงานด้านการข่าวกับภาคประชาชนและประเทศต่างๆในภูมิภาคให้มากขึ้น เกิดความต่อเนื่อง ขณะเดียวกันจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้มีความตื่นตัวร่วมกันสอดส่องดูแลการกระทำที่กระทบต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ