ข่าว

"บิ๊กตู่"ร่ายสวด"เอ็นจีโอ"ยาว..!!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กตู่"สวด"เอ็นจีโอ"ยาว ขอความร่วมมือให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับปชช. วอนขอให้ยอมรับความจริง และยอมรับการพัฒนา ซัดอย่าทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง ปิดหู-ปิดตา ค้านตลอด


          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า เรื่องการลงทุนเพื่อการพัฒนาประเทศ ต้องขอความร่วมมือกับบรรดาเอ็นจีโอทั้งหลาย ทั้งที่หวังดีหรืออาจจะไม่เข้าใจช่วยกันดู และต้องให้สมดุลกับการรักษาทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ถ้าอันใดอันหนึ่งไม่สมดุลกันก็ไปไม่ได้ทั้งคู่ แล้วก็รักษาไม่ได้ทั้งสองอย่าง แล้วประชาชนก็ไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สำหรับประเทศที่พัฒนาแล้ว กำลังทุ่มเทอย่างมาก ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ถึงมีผลสำเร็จมาโดยตลอด ของเราต้องเร่งดำเนินการให้มีคุณภาพ ด้วยการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ ถ้าเรายังติดอยู่กับหลักคิดที่แย่ๆไม่เท่ากัน ไม่ใช่คิดในทางที่อะไรก็ได้ คิดเป็นอย่างเดียวไม่ได้ อาจจะมีการคิดโดยผู้ประสงค์ร้ายต่อประเทศชาติ หรือด้วยหวังอำนาจ ผลประโยชน์และเห็นแก่ตัว ที่อาจจะคิดง่ายๆว่าคนไม่มีการศึกษาและคนมีรายได้น้อย เขาจะปกครองได้ง่าย ครอบครองได้ง่าย และจะปกครองยาก รัฐบาลนี้ต้องการให้ทุกคนคิดเป็นทั้งหมด หลายอย่างติดขัดอาจจะเป็นเพราะความไม่รู้ ไม่เชื่อใจกันเอง หลายครั้งก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือของผู้ที่หวังผลประโยชน์ จากความไม่รู้ของเราให้เป็นประโยชน์กับเขาด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า บทบาทของเอ็นจีโอทั้งในประเทศและในต่างประเทศ ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน หากเรายังไม่ยอมรับความจริง ไม่ยอมรับการพัฒนาประเทศของเรา แล้วก็ไม่เข้าใจบทบาทของรัฐ แล้วทำแบบเดิม วันนี้เราเปลี่ยนแปลงมาเยอะแล้ว ก็ไม่อยากจะให้มุ่งแต่ประเด็นในกิจกรรมตนเองเท่านั้น คือจะต้องรักษาให้ได้มากที่สุด โดยไม่คำนึงถึงส่วนประกอบของการรักษาในเรื่องสิทธิมนุษยชน หรือแม้แต่การรักษาสิ่งแวดล้อม คือถ้าเราคิดอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ผูกพันกับเรื่องการพัฒนาประเทศ 
          "เราอย่าไปคิดอะไรที่แบบตกขอบ มองข้ามประเด็นส่วนรวม อะไรที่เป็นวาระแห่งชาติ อะไรเพื่อคนไทย เพื่อประเทศไทย เราก็จะต้องมีบทบาทร่วมกัน ในการช่วยส่งเสริม ช่วยตรวจสอบ แก้ผิดให้เป็นถูก หาทางออกร่วมกัน ถ้าโจมตีอย่างเดียว บางอย่างก็เสียหาย ช่วยกันแก้ดีกว่า เวลาพูดออกไปต่างประเทศก็ฟัง อะไรก็ฟัง บางครั้งก็ถูกบ้าง ผิดบ้าง แล้วก็ไม่เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ การค้าก็มีปัญหา แล้วท่านก็มาบ่นว่าเศรษฐกิจไม่ดี พันไปหมดไม่ดีตรงไหนก็มาบอก ผมก็แก้ให้หมด เราอย่าทำตัวกันเป็นจระเข้ขวางคลอง หรือไม่ก็ปิดหู ปิดตา คัดค้านตลอดเวลา โดยไม่ชั่งน้ำหนัก" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทุกอย่างมีได้ก็มีเสีย แล้วก็ไม่มีอะไรที่จะได้มาฟรีๆ อยากได้อะไรก็ต้องทำเอง รัฐบาลก็จะช่วยให้ เสริมให้ สนับสนุนให้ แต่เราจะทำยังไง ให้ได้คุ้มกับที่เสียไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผังเมือง เรืองพลังงาน คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการน้ำ การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ ท่าเรือ ท่าอากาศยาน ถนนหนทาง มีปัญหาหมด เพราะว่าเราปล่อยปละละเลยจนกระทั่งประชาชนเข้าไปอยู่ในพื้นที่ซึ่งทำให้ทำอะไรไม่ได้ ก็คัดค้าน ต่อต้านตลอด 
          "อะไรแก้ได้ก็แก้กัน แล้วก็จะเกิดผลดีในอนาคต อาจจะช้าบ้างเร็วบ้าง ต้องร่วมมือกัน ไม่อย่างนั้นก็ไม่เกิดอะไรเลย เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลย ปัญหาก็มากขึ้นเรื่อยๆคนมากขึ้น ยุ่งกันไปหมด ซึ่งปัจจุบันมักมองด้านเดียว พอเสียหายทำไม่ได้ แล้วพอประชาชนเสียประโยชน์ในวันหน้า ก็โทษรัฐบาลว่าไม่ทำเอง เราต้องช่วยกันทำให้โครงการที่สำคัญ เริ่มโครงการเหล่านี้ไปได้ เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรม บางส่วนเสียประโยชน์ก็ต้องช่วยดูแลเขา เยียวยาเขา ถ้าไม่ทำอะไรเลย ต่อต้านไปแบบนี้ รัฐบาลทำไม่ได้ มีโครงการทำไม่ได้ ทุกเรื่องจะเดือดร้อนทีหลัง แล้ววันหน้ามาโทษรัฐบาลและคสช.ไม่ได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
          พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนยืนยันรัฐบาลคิดทุกเรื่อง แล้วเขียนแผนทำโครงการมาทุกเรื่อง แต่ติตรงไปทำตรงไหนก็ติดคน บางที่ก็ไม่ติดคน ติดความคิด ติดความไม่เข้าใจ ต่อต้านกันอย่างนี้ตอดจะเกิดได้ยังไงนะ คิด 2 ทางบ้าง ก็ขอให้ระลึกเสมอว่า รัฐบาลนี้ มีเป้าหมายที่ประกาศชัดเจนมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เปิดเผยทุกโครงการ จะทำอะไรก็บอกก่อนทุกครั้ง คิดแล้วก็บอก คิดแล้วก็แนะนำ คิดแล้วก็สร้างความเข้าใจ ยังติดขัดเลย ถ้าทำแบบเดิมๆ จะยิ่งไปไม่ได้ใหญ่
"อยากจะขอร้องให้เอ็นจีโอ ที่จะช่วยผมได้มากในการลองปรับวิธีคิดดูใหม่ว่า ทำอย่างไรเอ็นจีโอแทนที่จะค้านอย่างเดียว เอ็นจีโอลองมาฟังดูทางนี้แล้วก็ไปบอกประชาชน เรื่องจริงเป็นยังไง ถ้าท่านไปหาข้อมูลมาจากที่ไหนก็แล้วแต่ ผมไม่ว่าแต่ท่านต้องมาถามฝ่ายรัฐก่อน แล้วท่านคิดเอาเอง มาหารือกับพวกของตัวเอง ว่าข้อมูลนี้กับข้อมูลรัฐ มันเชื่อถืออันไหนได้ ถ้าท่านหาของท่านมาแล้วท่านมาต่อสู้กับรัฐตลอดเวลา มันก็ไปไม่ได้ ประชาชนก็ไม่ร่วมมือ ไม่รู้จะไปข้างไหน จึงอยากให้ทุกคนหาข้อเท็จจริงด้วย ขอร้องเอ็นจีโอวันนี้ ขอร้องมากหน่อย มันจะได้ไม่ต่อต้านอีกต่อไป ถ้าคิดจะต่อต้านอย่างเดียวแล้วไม่สร้างสรรค์ ตนว่ามันไม่น่าจะเป็นการทำงานที่ถูกต้อง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
          พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การบิดเบือนข้อเท็จจริง บางทีก็นำเสนอข้อมูลที่เป็นการให้ความหวังที่ผิดๆนะ ไอ้ถูกๆไม่เป็นไรหรอก ทุกคนก็ต้องมีความหวัง แต่ถ้าเป็นความหวังที่บิดเบือนผิดๆ หวังผลทางการเมืองบ้างหวังผลอะไรก็แล้วแต่ ในทางไม่สุจริตหรือทำให้การเมืองระหว่างประเทศมีปัญหา ทำให้สังคมสับสน ทำให้ถูกจับตามองจากองค์กรระหว่างประเทศ ทำให้ผู้คนในประเทศไทยมีความขัดแย้ง ประเทศแตกแยกทางความคิดไม่มีเสถียรภาพ ทุกอย่างมันก็เละไปหมดกระจัดกระจายไปหมด หลายพรรค หลายฝ่าย หลายกลุ่ม มีความแตกต่าง มีความเหลื่อมล้ำ  ประชาชนก็เหลื่อมล้ำ ความคิดก็เหลื่อมล้ำ นักการเมืองก็แตกแยกกันไปอีกมันก็เลยไปไม่ได้ ยุทธศาสตร์มันก็ไม่เกิด
          "รัฐบาลนี้พยายามจะแก้ปัญหาทั้งหมด ในเชิงปฏิรูป ในเชิงโครงสร้าง ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่อยากให้มีแรงต่อต้าน ทำให้เจ้าหน้าที่เดือดร้อน กระบวนการยุติธรรมไม่ได้รับความน่าเชื่อถือเข้าไปอีกนะ อย่าบิดเบือนกันนักเลย เขาตรวจสอบแล้ว ตัดสินแล้ว ออกมาอย่างไรก็อย่างนั้นแหละ ศาลก็ต้องเป็นอย่างนั้น องค์กรอิสระก็ต้องเป็นอย่างนั้น  อย่าไปคิดว่าทำไมทำแต่ข้างนี้ แล้วข้างนี้ทำผิดข้างเดียวหรือเปล่า อีกข้างเขาทำผิดแล้วเขายอมรับกระบวนการยุติธรรมใช่หรือไม่ ก็ไปเลือกเอาดู ไปคิดดู ฝ่ายไหนผมก็ไม่รู้ เมื่อฟังข้อมูลจนอิ่มตัวแล้ว เราต้องยอมรับความรู้ที่ตกผลึกที่จะเดินหน้าประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ