ข่าว

ปฏิรูปความรับผิดชอบของรัฐบาล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“วิษณุ”แจง ตั้งป.ย.ป. หวังส่งไม้ต่อให้รัฐบาลหน้าปฏิรูป ระบุ รธน.ใหม่ประกาศใช้ เริ่มนับ 1 สู่วันเลือกตั้งชัดขึ้น

 

 

          22 มี.ค.60 - นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง "การปฏิรูปในความรับผิดชอบของรัฐบาลต่อกฎหมายที่จะต้องทำภายหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ" โดยระบุตอนหนึ่งว่า ช่วงนี้จะได้ยินคำว่าคณะกรรมการ ป.ย.ป. บ่อยขึ้น ซึ่งมีที่มาจากคำว่าปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติ และสามัคคีปรองดอง ซึ่งคำเต็มก็คือคณะกรรมการบริหาราชการแผ่นดิน ตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง ทั้งนี้รัฐบาลมีหน้าที่บริหารประเทศ สภามีหน้าที่ออกกฎหมาย และควบคุมรัฐบาล ส่วนศาลมีหน้าที่ตัดสินคดี ก็คือบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ซึ่งรัฐบาลในอดีตบทบาทของเขามีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เข้ามา ก็อย่างที่ทราบกันว่าเหตุการณ์ไม่ค่อยจะเป็นระเบียบ รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่ออกมา ได้เขียนเอาไว้ให้ส่งต่อไปให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะออกไม่กี่วันข้างหน้า ทั้งรัฐบาลวันนี้ และรัฐบาลต่อจากนี้ไป ไม่ได้มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินเพียงอย่างเดียว อย่างที่เข้าใจกันมาตลอด 80 ปีที่ผ่านมา หากแต่มีภารกิจเพิ่มขึ้นมา  
          นายวิษณุ กล่าวว่า สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือการปฏิรูปนั้น ไม่ใช่สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. คิดขึ้นมาเอง ฝันขึ้นมา แล้วออกมาพูด และไม่ใช่เรื่องที่ใครจะมาหาเสียง แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำ เพราะบังคับไว้ในรัฐธรรมนูญทั้งฉบับชั่วคราว และฉบับที่กำลังเตรียมประกาศใช้ ถ้าไม่ทำก็เกิดเรื่อง รัฐบาลอยู่ไม่ได้ อีกภารกิจก็คือยุทธศาตสร์ชาติ ซึ่งสมัยก่อนก็มี แต่พูดกันแบบนโยบาย แบบหาเสียง แต่ตอนนี้ต้องพูดกันในฐานะที่เป็นบทบังคับตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ เป็นเรื่องต้องทำ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของการสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่งรัฐบาลในอดีตก็เคยพูด แต่สถานการณ์ยังไม่บีบบังคับ เพราะความแตกแยกยังไม่สูง การสร้างความปรองดองในอดีต จึงแค่ทำให้คนอยู่รวมกันได้โดยไม่ขัดแย้ง แต่สิบปีที่ผ่านมาบ้านเมืองขัดแย้งหนัก เราจึงต้องชูประเด็นเรื่องสามัคคีปรองดองเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งจะทำได้หรือไม่ได้ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องทำ

          “การจะขับเคลื่อนงานพิเศษนี้ให้ได้ ซึ่งงานบริหารราชการปกติเรามีครม.อยู่แล้ว ก็ทำไป ส่วนปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติ สามัคคีปรองดอง ถ้าไม่มีใครทำ รัฐบาลก็ทำไป แต่เพื่อให้ขับเคลื่อนงานให้เร็วขึ้นนายกฯจึงใช้อำนาจ ม.44 ตั้งคณะป.ย.ป.ขึ้น “นายวิษณุ กล่าว  
           รองนายกฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ รัฐธรรมนูญใหม่ยังไม่ได้ประกาศใช้ ซึ่งเป็นที่รับรู้ว่าจะประกาศใช้ในไม่ช้านี้ เมื่อประกาศแล้วใช้แล้ว อะไรต่ออะไรก็จะเริ่มนับ 1 ใหม่ การนับระยะเวลาจะเป็นรูปธรรมขึ้น แม้อาจจะไม่ 100% ก็ตาม โดยในส่วนที่เกี่ยวกับ ป.ย.ป. ก็ยังเดินหน้าต่อไป แต่จะเป็นช่วงขาลง เพื่อส่งให้คนอื่นสานงานต่อ ถ้าเฉพาะเรื่องปฏิรูป สิ่งแรกที่จะทำคือ รัฐบาลต้องส่ง พ.ร.บ.ปฏิรูป และพ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติ 2 ฉบับนี้ถือเป็นฝาแฝดกัน ซึ่งขณะนี้ร่างเสร็จแล้ว เตรียมเข้าสู่สภา ได้กำหนดไว้ว่าการปฏิรูปประเทศ ต้องอิงรัฐธรรมนูญ ซึ่งระบุว่าต้องปฏิรูปอย่างน้อย 7 ด้าน ให้มีคณะกรรมการอย่างน้อย 7 ชุด แต่ละชุดมี 15 คน ซึ่งมาจากการแต่งตั้งโดย นายกฯ จะเป็นข้าราชการหรือไม่ก็ได้ โดยมีวาระ 5 ปี  และมีหน้าที่ร่างแผนปฏิรูปในด้านของตัวเอง เมื่อร่างแผนเสร็จแล้ว ก็ไปถามประชาชน และถามความเห็นหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง  
          นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วน พ.ร.บ. ยุทธศาสตร์ นั้นได้ระบุให้มี คณะกรรมการกลางชุดหนึ่ง โดยให้นายกฯเป็นประธานโดยตำแหน่ง ซึ่งก็จะมีผู้ดำรงตำแหน่งจากภาคส่วนอื่นๆ และผู้ทรงคุณวุฒิ รวมแล้ว 15 คน มีวาระ 5 ปี ยกเว้นคนที่เป็นคณะกรรมการโดยตำแหน่งอย่างนายกฯ ส่วนคนที่ร่างยุทธศาสตร์ชาติก็เป็นคณะกรรมการอีกชุด แล้วนำร่างยุธศาสตร์ชาตินั้นไปรับฟังความเห็นจากประชาชน แล้วปรับปรุง เพื่อเสนอให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ถ้าเห็นด้วย ก็ส่งให้สภาพิจารณา และถวายบังคมทูล ประกาศใช้แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยืนยันว่าแผนยุทธศาสตร์ชาตินั้นแก้ไขได้ แต่ต้องทำตามขั้นตอนนี้ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งแผนยุทธศาสตร์ที่คิดไว้คร่าวๆน่าจะมีประมาณ 6 ด้าน 1.ด้านความมั่นคง 2.ศักยภาพการแข่งขันกับต่างประเทศ 3.การพัฒนากำลังคนความสามารถ 4.พัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5.พัฒนาลดความเหลื่อมล้ำ และ 6.พัฒนาในด้านกฎระเบียบของรายการ ดังนั้นต่อจากนี้หน่วยงานไหนจะเบิกงบทำโครงการอะไร ก็ต้องตอบให้ได้ว่า สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านไหนดด้วย   
          เมื่อถามว่า การเลือกตั้งจะมีเมื่อไหร่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ต้องดูที่โรดแมป หรือที่เรียกว่าแผนและขั้นตอน เป็นการระบุว่าทำอะไรก่อนหลัง และควรทำอะไรเมื่อไหร่ ถ้าจะขอเวลาชัดๆตนตอบไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่ากฎหมายของ กรธ. จะเสร็จเมื่อไหร่ แต่จะเอ้อระเหยในการทำกฏหมายลูกไม่ได้ ส่วนจะใช้เวลาเที่ยงคืนในวันสุดท้ายก็ไม่มีใครว่า แต่สุดท้ายทุกอย่างก็นำไปสู่การเลือกตั้งแน่นอน.

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ