ข่าว

กกต.ถกสนช.พรุ่งนี้ ชง 5 เสืออยู่ครบวาระ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กกต.เตรียมถกสนช.พรุ่งนี้ ชง 5 เสือกกต.อยู่ครบวาระ เหตุมาถูกต้องตามรธน.50 พร้อมย้ำจุดยืนคงกกต.จว. ปธ.กกต.

          22 มี.ค. - นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ ( 23 มี.ค.) ตนพร้อมด้วยนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง และผู้บริหารสำนักงานจะเข้าหารือกับคณะกรรมการพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีน.พ.เจตน์ ศิรธรานนท์ เป็นประธานตามที่ได้รับคำเชิญ โดยทราบว่าคณะกรรมการของสนช. ยึดร่างพระราชบัญญัติที่กกต.เสนอให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)เป็นหลักในการพิจารณา แต่เมื่อกรธ.มีการแก้ไขเนื้อหาไม่เป็นไปตามที่กกต.เสนอ คณะกรรมการของสนช.จึงต้องการทราบว่ากกต.ในฐานะผู้ปฏิบัติว่าคิดเห็นอย่างไร หรือมีข้อขัดข้องในเรื่องใดบ้าง ซึ่งประเด็นที่ที่ประชุมกกต.เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมานั้นเห็นว่าควรจะเสนอต่อคณะกรรมการของสนช. คือในเรื่องการดำรงตำแหน่งของกกต.ชุดปัจจุบัน โดยเห็นว่าควรให้ดำรงตำแหน่งต่อไปจนครบวาระ เนื่องจากได้รับการสรรหามาโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ 2550 และผ่านการเห็นชอบคุณสมบัติจากวุฒิสภา หลักเกณฑ์คุณสมบัติใหม่ตามร่างรัฐธรรมนูญควรจะไปใช้บังคับในการสรรหากกต.ครั้งต่อไป 

        นอกจากนี้จะเสนอในประเด็นของผู้ตรวจการเลือกตั้ง โดยจะเสนอข้อดีข้อเสียของการเปลี่ยนจากกต.จังหวัดเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้ง ประเด็นสถานะของสำนักงานกกต.ที่ควรมีการกำหนดให้พ.ร.ป.ว่าด้วยกกต.ให้มีการออกพ.ร.บ.สำนักงานกกต. เพื่อให้สำนักงานมีความมั่นคงเช่นเดียวกับ ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงเรื่องสิทธิประโยชน์ของพนักงานที่จะได้รับทั้งเมื่อเกียษณอายุราชการและการได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อีกทั้งประเด็นเรื่องการห้ามใช้งบประมาณของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองไปดูศึกษาดูงานต่างประเทศ ซึ่งก็จะชี้ให้เห็นว่า การเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศมีความจำเป็น เพราะการเลือกตั้งของแต่ละประเทศมีบริบทที่แตกต่างกัน ประเทศที่ไม่มีซื้อเสียง ก็ต้องไปดูว่าเขามีวิธีการในการส่งเสริมให้ความรู้ประชาชนอย่างไร จึงไม่มีการซื้อเสียงเกิดขึ้น แต่ทั้งหมดเมื่อกกต.เสนอไปแล้วสนช.ในฐานะผู้มีหน้าที่ออกกฎหมายจะเห็นเป็นอย่างไร และที่สุดกฎหมายออกมาอย่างไร กกต.ในฐานะผู้ปฏิบัติก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม 

         นายศุภชัย ยังกล่าวด้วยว่า ในการประชุมกกต.เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา กกต.ก็ได้มีการพิจารณาถึงเรื่องการศึกษาดูงานต่างประเทศของหลักสูตรพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูงที่มีการท้วงติงเรื่องความเหมาะสมและความคุ้มค่า โดยที่ประชุมได้ให้แนวทางกับทางสถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งของสำนักงานในฐานะเจ้าของหลักสูตรว่าการเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศของนักศึกษาต่อไปต้องปรับให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีที่ให้พิจารณากลุ่มประเทศอาเซียน+3 เป็นหลัก แต่ทั้งนี้ตามมติครม.ก็มีการยกเว้น ให้สามารถเดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศนอกกลุ่มประเทศอาเชียน +3 ได้หากเป็นกรณีจำเป็น มีเหตุสมควรโดยถ้าเป็นหน่วยราชการต้องขออนุมัติต่อรัฐบาล แต่ถ้าเป็นองค์กรอิสระก็ต้องขอต่อผู้บังคับบัญชาสูงสุด ซึ่งในกรณีของพตส. ผู้บังคับบัญชาสูงสุดก็คือ กกต. โดยขณะนี้ทางสถาบันพัฒนการเมืองและการเลือกตั้ง กำลังพิจารณา หากในกลุ่มประเทศอาเซียน+3 ไม่มีประเทศไหนที่มีการเลือกตั้งให้นักศึกษาสามารถไปดูงานได้ ก็จะพิจารณาประเทศนอกกลุ่มอาเซียน+3 แล้วจึงเสนอต่อประชุมกกต.พิจารณาอนุมัติ 

         "เวลานี้กระแสมันแรง เราจะไปฝืนกระแสก็ไม่ได้ รวมทั้งบ้านเราก็กำลังประสบปัญหาเรื่องงบประมาณ อะไรที่ช่วยประหยัดงบประมาณได้ กกต.ก็พร้อมที่จะทำ ที่เขาพิจารณากันอยู่ อย่างประเทศญี่ปุ่น จะมีการเลือกตั้ง ถ้าไป ก็จะไปดูเรื่องที่รัฐเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการติดป้ายหาเสียงให้กับผู้สมัคร เพราะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ของเราก็นำแบบอย่างมาจากเขา แต่หลักการดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการไปดูงานต่างประเทศของกกต. เพราะเมื่อเรามีหน้าในการจัดการเลือกตั้ง ก็จำเป็นต้องไปดูว่าแต่ละประเทศเขาพัฒนาประชาธิปไตยกันอย่างไร ถือว่าได้ประโยชน์มาก และส่วนใหญ่ที่ไปก็เป็นไปตามคำเชิญของประเทศต่าง ๆ อย่างเช่นไปดูเลือกตั้งที่ประเทศเอกวาดอร์ ก็เป็นไปตามคำเชิญของ AWEB ซึ่งเขาออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด เราออกแค่ค่าเดินทางอย่างเดียว" นายศุภชัย กล่าว 

 
 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ