ข่าว

หรือว่า.....ไม่มี ‘อภินิหารกฎหมาย ’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ราชกิจจานุเบกษาลงประกาศคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีฯ ระบุ ขยายเวลาออกหมายเรียกผู้มีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีมาทำการไต่สวนภายใน 5 ปี ไม่ได้

 

            เมื่อวันที่ 20 มี.ค.   ราชกิจจานุเบกษา ได้ลงประกาศ คําวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ที่  ๔๑/๒๕๖๐ เรื่อง การขยายเวลาการออกหมายเรียกตามมาตรา ๑๙ แห่งประมวลรัษฎากร 

           มีใจความว่า  ด้วยกรมสรรพากรได้ขอให้คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรวินิจฉัยว่า กรณีที่เจ้าพนักงานประเมิน มีเหตุอันควรเชื่อว่า ผู้ใดแสดงรายการตามแบบที่ยื่นไม่ถูกต้องตามความจริงหรือไม่บริบูรณ์แต่ไม่ได้ออกหมายเรียกผู้ยื่นรายการนั้นมาไต่สวนและออกหมายเรียกพยานกับสั่งให้ผู้ยื่นรายการหรือพยานนําบัญชี เอกสารหรือหลักฐานอื่นมาแสดงภายในเวลา 2 ปีนับแต่วันที่ได้ยื่นรายการ และไม่มีการอนุมัติโดยอธิบดี ให้ขยายเวลาการออกหมายเรียกดังกล่าวเกินกว่า 2 ปีแต่ไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันที่ได้ยื่นรายการ ในกรณี ปรากฏหลักฐานหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ยื่นรายการมีเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ตามมาตรา ๑๙ แห่งประมวลรัษฎากร เช่นนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะใช้อํานาจตามมาตรา ๓ อัฏฐ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ในการขยายกําหนดเวลาการออกหมายเรียกตามมาตรา ๑๙ แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อพ้นกําหนดเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ได้ยื่นรายการไว้ได้หรือไม่

            คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาและมีคําวินิจฉัยในการประชุมครั้งที่ ๔๖/๒๕๖๐ วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๐ ว่า มาตรา ๑๙ แห่งประมวลรัษฎากร ได้กําหนดเวลาในการออกหมายเรียกของ เจ้าพนักงานประเมิน และการอนุมัติให้ขยายเวลาการออกหมายเรียกของอธิบดี ในกรณีที่มีการยื่นรายการ ตามแบบไว้เป็นการเฉพาะแล้ว จึงไม่อาจนําบทบัญญัติมาตรา ๓ อัฏฐ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร เกี่ยวกับการขยายหรือเลื่อนกําหนดเวลาต่าง ๆ ตามประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นบททั่วไปมาใช้บังคับ แก่กําหนดเวลาการออกหมายเรียกและการขยายเวลาการออกหมายเรียกตามมาตรา ๑๙ แห่งประมวล รัษฎากรได้

         คําวินิจฉัยนี้ให้ใช้บังคับถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป 

         สั่ง ณ วันที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐

        ประภาศ คงเอียด รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายได้ ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงการคลัง ประธานคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร

         ก่อนหน้านี้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  สั่งการให้กรมสรรพากร ไปประเมินภาษีเพื่อเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้น บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น ก่อนหมดอายุความ ในวันที่ 31 มีนาคมนี้ กับทักษิณ ชินวัตร แต่มีผู้โต้แย้งว่า ขาดอายุความ ไปแล้ว ตามประมวลรัษฎากร พ.ศ.2481 มาตรา 19 ที่ระบุว่า กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษีอากร อธิบดีกรมสรรพากร จะอนุมัติให้ขยายเวลาการออกหมายเรียกผู้ยื่นรายการนั้นมาไต่สวนเกินกว่า 2 ปี ก็ได้แต่ต้องไม่เกิน 5 ปี

          กรณีนี้เป็นการขายหุ้นชินคอร์ปเมื่อปี 2549 หากต้องเสียภาษี ต้องยื่นเสียภาษีบุคคลธรรมดาภายใน มีนาคม ปี2550 ถ้าพบว่ามีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี กรมสรรพากร ต้องมีหมายเรียกไปยัง ทักษิณเพื่อทำการไต่สวนภายใน 5 ปี แต่ปรากฏว่าตลอดระยะเวลา 5 ปี คือ จนถึงปี 2555 กรมสรรพากร ไม่เคยมีหมายเรียก ทักษิณ มาทำการไต่สวนเลย จึงขาดอายุความในการเรียกเก็บภาษีตั้งแต่ปี 2555 แล้ว 

            อย่างไรก็ตามฝ่ายรัฐบาล ได้หาช่องทางโดยนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  หลักว่าด้วยตัวการต้องรับผิดชอบจากการกระทำของตัวแทนมาใช้โยงกับอายุความ 10 ปี ซึ่งจะครบกำหนดอายุความในวันที่ 31 มีนาคมนี้มาใช้แทน และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ได้ออกมาอธิบายว่าเป็น อภินิหารกฎหมาย (The Miracle of Law)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ