"ยิ่งลักษณ์" มึนเรียกเก็บภาษี "หุ้นชินฯ" ชี้อย่าใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือไล่ล่า หากยังไม่เสมอภาคจะก้าวข้ามอย่างไร
เมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยคดีโครงการจำนำข้าว เดินทางมาศาลร่วมกระบวนพิจารณาไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 11 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าห้องพิจารณา ถึงกรณีที่รัฐบาล เตรียมการเรียกจัดเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปอเรชั่นฯ จากนายทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย และอดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ศาลฎีกาได้พิพากษายึดทรัพย์ไปแล้ว 46,000 ล้านบาทก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น การที่จะเรียกเก็บภาษีทั้งๆ ที่ศาลฎีกาตัดสินไปแล้วหวังว่าจะไม่ใช่การใช้อำนาจหรือกฎหมายที่ตนเองมีอยู่เพื่อประโยชน์ทางการเมืองหรือไล่ล่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขอให้เห็นใจกันเถอะ เพราะขณะนี้ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะใช้กฎหมายใด วิธีใด หรือรายละเอียดใด ทราบแต่ว่าปลายทางเรื่องราวต่างๆ ผ่านไปมากมายแล้วก็ยังไม่มีที่สิ้นสุด
" ที่สำคัญเหมือนเป็นการไล่ล่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็หวังว่ากฎหมายจะคำนึงถึงความยุติธรรม ควรที่จะบังคับใช้กับทุกคนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน อย่าให้กฎหมายนั้นเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพื่อที่จะไล่ล่า ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนก็ตั้งความหวังว่า ผู้ที่รักษากติกาจะทำกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เพราะมีหลายๆ คดีที่เหมือนกัน อยากให้อำนวยความยุติธรรมเท่าเทียมกัน "
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า ไม่ใช่แค่ครอบครัวหรือผู้ที่มีผลกระทบเท่านั้น เชื่อว่าประชาชนทุกคนก็คงอยากจะฟังคำชี้แจงจากรัฐบาลอย่างชัดเจน เราคงไม่อยากได้ยินเพียงแค่คำว่าอภินิหารทางกฎหมาย เราอยากเห็นการใช้กฎหมายด้วยความสุจริตและด้วยความเป็นธรรม
เมื่อถามว่า กรณีนี้จะกระทบกับการสร้างความปรองดองหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า กรณีของดิฉันเกิดขึ้นแล้ว ดังที่ได้มีการร้องขอความเป็นธรรมเรื่องจำนำข้าวไปแล้ว และคงจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามันเป็นการไล่ล่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่เกิดความเสมอภาค ก็ไม่เห็นว่าอนาคตจะก้าวข้ามไปได้อย่างไร เราเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ผู้ถือกติกาต้องคำนึงถึงตรงนี้ด้วย ต้องไปถามผู้ที่ถือกติกาว่าความหมายของคำว่าปรองดองคืออะไร ส่วนข้อเสนอการสร้างความปรองดองของพรรคเพื่อไทยนั้น อยากให้ผู้ที่มีความเป็นกลางมาร่วมเป็นกรรมการด้วย เพื่อจะได้ไม่ถูกมองว่ารัฐบาลจะเป็นคู่ขัดแย้งเอง ทุกคนจะเชื่อมั่นว่ากรรมการที่เป็นอิสระและเป็นกลางจะให้ความยุติธรรมกับทุกคน
เมื่อถามถึงกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะตรวจสอบเรื่องการเสียภาษีนักการเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองอยู่แล้ว ยังไม่ทราบว่าทาง สตง. จะดำเนินการอย่างไร ขอทราบรายละเอียดก่อน
เมื่อถามถึงการชี้แจงของรัฐบาลเรื่องสิทธิมนุษยชนที่นครรัฐเจนีวา ที่นานาชาติแสดงความห่วงใยเรื่องการละเมิดสิทธิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เป็นความห่วงใยที่ส่งผ่านมานานแล้ว คงไม่พูดซ้ำ แต่เชื่อว่ารัฐบาลคงทราบว่าจะทำอย่างไรที่จะคืนอำนาจให้ประชาชน อย่าใช้อำนาจที่มีเพื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็จะเกิดความสามัคคีที่แท้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการไต่สวนพยานจำเลยนัดที่ 11 วันนี้ ทนายความเตรียมพยานไต่สวน 3 ปาก โดยช่วงเช้าจะไต่ 2 ปาก ประกอบด้วย นายพิชัย ชุนหวชิร ผู้เชี่ยวชาญด้านการขายข้าว และอดีตประธานกรรมการบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) , พล.ต.อ.ธนกฤต อ่อนละออ รอง ผกก.สภ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เกี่ยวกับการดำเนินคดี และช่วงบ่าย คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในการรับจำนำข้าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง