ข่าว

ฟังชัดๆ!! "แค่มะเหงก ไม่ได้ตบ!!" สปท.อนุสร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“อนุสร” ย้ำ!! "เขกหัว" เด็กเสิร์ฟ ไม่ได้ตบ ระบุแค่ต้องการเตือนไม่ให้เรียก"ป๋า"เท่านั้น

 

          13 มี.ค. 60 - นายอนุสร จิรพงศ์ สภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ สปท. กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวทำร้ายร่างการพนักงานเสิร์ฟร้าอาหารว่า ในวันที่เกิดเหตุ พนักงานคนนั้นมาเรียกตนว่า ป๋า ซึ่งตนเคยบอกพนักงานคนนั้นเมื่อนานมาแล้วว่า ตนไม่ชอบให้ใครเรียกว่าป๋า เพราะดูไม่ดี ซึ่งเรื่องนีไม่เกี่ยวกับตำแหน่ง สปท. แต่ไม่ชอบมานานแล้ว พอพนักงานคนนั้นเรียกตนอย่างนั้น ก็เลยเขกหัว เหมือนทำกับเด็กไม่ได้โกรธมาก หรือมีเจตนาทำร้าย และก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ซึ่งขณะนั้นก็มีพนักงานผู้หญิงยืนอยู่ 2 - 3 คน อีกทั้งมีลูกค้าโต๊ะข้างๆเห็นเหตุการณ์ด้วย แต่เขาก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากเพราะเป็นการเขกหัวทั่วๆไป จนตอนนี้ก็รู้สึกโกรธเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา และโกรธตัวเองที่ทำแบบนั้นด้วย จริงๆแล้วเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลย ทั้งนี้ส่วนตัวก็รู้จักพนักงานคู่กรณีตั้งแต่สมัยเขาเป็นเด็กเสิร์ฟข้างนอก ก่อนที่จะทำงานหน้าบาร์เครื่องดื่ม เพียงแต่ว่า แต่ละคนมีความน้อยเนื้อต่ำใจไม่เหมือนกัน ซึ่งตนก็ตกใจที่ได้ทราบว่าหนักงานคนนั้นร้องไห้ด้วย ซึ่งตนยินดีรับผิดชอบในสิ่งที่ผิดพลาดไป และชดใช้ค่าเสียหาย รับรองได้ว่าตนไม่มีความบาดหมางแน่นอน ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่องตนยังไม่ได้คุยกับพนักงานนนั้นจนได้ทราบข่าว และมีผู้สื่อข่าวมาขอให้ชี้แจงกรณีดังกล่าว 

          เมื่อถามถึงกรณีที่พนักงานระบุว่านายอนุสรใช้หลังมือตบนั้น นายอนุสรกล่าวว่า ตนใช้มือเขกหัว ขอให้ดูที่คลิปวีดีโอได้เลย ในคลิปคือการเขก ก็อาจจะมีหลังมือนิดๆ แต่ไม่ได้ตบ ทั้งนี้ตนก็มีความรู้สึกผิดกับกรณีดังกล่าว ซึ่งกรณีเกิดขึ้นกับคนที่คุ้นเคยด้วย ทั้งนี้การตีความเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางทีก็รับได้บ้างไม่ได้บ้าง ตนว่ายุคสมัยนี้อยู่ลำบาก ทำอะไรต้องคิดถึงสิ่งที่จะเกิดตามมา หรือต้องคำนึงถึงความรู้สึกคนอื่น

          เมื่อถามถึงว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งกระทบต่อตำแหน่ง สปท. หรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่าจะมีการเสนอให้สอบจริยธรรมนั้น นายอนุสรกล่าวว่า เรื่องนี้ตนอยากให้มีการสอบจริบธรรมด้วยซ้ำ เพราะจะได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ ซึ่งสิ่งที่ตนทำนั้นเป็นข้อผิดพลาดที่ไม่ได้วางแผนมาก่อน ทั้งนี้ต้องขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ถ้ามีผลกระทบอะไรตนก็ขอรับผิดชอบ และก็ยินดีที่จะคุยกับพนักงานคู่กรณีให้เกิดความสบายใจ แต่ตนก็ผิดหวังนิดๆว่า การตีความเจตนาของเขา ซึ่งเขาจะรับฟังหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่สุดท้ายก็มีพยานในเหตุการณ์เยอะ โดยสิ่งที่ตนทำไปก็ไม่ได้ไปรบกวลูกค้าคนไหน หรือรุนแรงถึงขั้นต้องหาคนมาห้ามเหตุการณ์ 

          “ถ้าเกิดผมจะเข้าจริยธรรมอะไรก็โอเค และไม่ติดใจ ถ้าการที่เขกหัวเด็กที่พูดจาไม่เพราะ ถือว่าเป็นจริยธรรมที่แย่ แสดงว่าคนในประเทศเราก็ต้องมีมาตรฐานสูงจริงๆ”นายอนุสร กล่าว

           ติดตามรายละเอียดในรายการกรองข่าวเช้านี้ ทางเอฟเอ็ม 102 เวลา 07:30 น. วันที่ 14 มีนาคม 2560 (ฟังย้อนหลังที่นี่)

 

 

 

          

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ