ข่าว

ราชกิจจาฯ ประกาศ "ปรับปรุงระบบแต่งตั้ง ตร."

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เว็ปไซด์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ "ปรับปรุงระบบการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตํารวจ"

 

           วันที่ 20 ก.พ.60 ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ "คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 7/2560 เรื่อง การปรับปรุงระบบการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตํารวจ" โดยที่การบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายและต้นทางของกระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ หากมิได้ดำเนินการให้ถูกต้องเป็นธรรมแล้ว ย่อมกระทบต่อขวัญ กำลังใจ ความเจริญก้าวหน้าในอาชีพ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ทั้งหากมีผู้ใช้การแต่งตั้งเป็นช่องทางเรียกรับผลประโยชน์ อันไม่ชอบด้วยกฎหมายและปราศจากธรรมาภิบาลด้วยแล้ว ก็ยิ่งก่อให้เกิดความคับแค้นใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบ และอาจเป็นการผลักภาระต่อไปให้แก่ประชาชนกลายเป็นวัฏจักรแห่งการทุจริตในวงราชการ ความไร้ประสิทธิภาพ ในการบังคับใช้กฎหมายและการอำนวยความยุติธรรม จำเป็นต้องปฏิรูประบบการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจ ซึ่งรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ดำเนินการในบางเรื่องบางประเด็นมาแล้วเป็นลำดับ และจะต้องดำเนินการต่อไปให้สมบูรณ์ทั้งระบบเพื่อตอบสนองความคาดหวังของประชาชน

 

            ในส่วนของการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจซึ่งตามกฎหมายในปัจจุบันเป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินั้น แม้จะมีกลไกการปฏิบัติภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว แต่ควรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอนการกลั่นกรองให้เกิดความรับผิดชอบ ความถูกต้องเรียบร้อยเป็นธรรม และมีความเหมาะสมตรงกับความรู้ความสามารถตามสายการบังคับบัญชาและการจัดสรรอัตรากำลังในแต่ละพื้นที่ยิ่งขึ้น เพื่อให้มีขั้นตอนชัดเจน โปร่งใส ปราศจากการวิ่งเต้น การเรียก รับ ให้หรือสัญญาว่าจะให้สิ่งตอบแทนแลกเปลี่ยนกับการแต่งตั้ง และปลอดจากระบบอุปถัมภ์ อันเป็นความจำเป็นต่อการปฏิรูประบบราชการ ตลอดจนการเตรียมการให้เป็นไปตามแนวทางการปฏิรูปด้านกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับกิจการของตำรวจตามมาตรา 258 และมาตรา 260 ของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่กำลังจะประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

 

            จึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้

 

             ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 44/2558 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจ ลงวันที่ 4 ธันวาคม พุทธศักราช 2558 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

 

            “มาตรา 54 การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่มาตรา 44 (7) ลงมา ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้บัญชาการเป็นผู้สั่งแต่งตั้ง โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และขั้นตอน ดังต่อไปนี้


(1) ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือหน่วยงานระดับกองบังคับการ แต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับกองบังคับการ โดยอย่างน้อยต้องประกอบด้วยรองหัวหน้า ส่วนราชการหรือหน่วยงานนั้นทุกคนเป็นกรรมการ เพื่อทำหน้าที่พิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ให้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในส่วนราชการหรือหน่วยงานนั้น แล้วเสนอต่อหัวหน้าส่วนราชการ หรือหน่วยงานระดับกองบัญชาการเพื่อดำเนินการตาม (2) หรือเสนอต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้สั่งแต่งตั้งในกรณีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการตาม (3) ต่อไป แล้วแต่กรณี


(2) ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือหน่วยงานระดับกองบัญชาการแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับกองบัญชาการ โดยอย่างน้อยต้องประกอบด้วยรองหัวหน้าส่วนราชการ หรือหน่วยงานนั้นทุกคนเป็นกรรมการ เพื่อทำ หน้าที่พิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ให้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในส่วนราชการหรือหน่วยงานนั้น และการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่ได้รับการเสนอตาม (1) แล้วเสนอต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อดำเนินการตาม (3) หรือดำเนินการแต่งตั้งต่อไป แล้วแต่กรณี

(3) ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ โดยอย่างน้อยต้องประกอบด้วยจเรตำรวจแห่งชาติและรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกคนเป็นกรรมการ เพื่อทำหน้าที่พิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่ได้รับการเสนอตาม (1) หรือ (2) แล้วเสนอต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้สั่งแต่งตั้งเพื่อดำเนินการแต่งตั้งต่อไป กรณีที่ผู้สั่งแต่งตั้งเห็นว่ารายชื่อข้าราชการตำรวจตามวรรคหนึ่งผู้ใดมีความไม่เหมาะสม หรือมีข้าราชการตำรวจซึ่งเห็นสมควรดำรงตำแหน่งต่าง ๆ เพื่อประโยชน์แก่การบริหารงานบุคคล
ของข้าราชการตำรวจให้เกิดประสิทธิภาพ ให้ผู้สั่งแต่งตั้งมีอำนาจแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติม
การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ แล้วดำเนินการแต่งตั้ง หรือสั่งให้พิจารณาทบทวน
การเสนอแต่งตั้งได้ตามควรแก่กรณี” 


ข้อ 2 การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 44 (7) ถึง (10) ในวาระการแต่งตั้งประจำปี พ.ศ. 2559 ให้ดำเนินการตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 21/2559 เรื่อง การปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงวันที่ 26 เมษายน พุทธศักราช 2559 จนกว่าจะแล้วเสร็จ โดยให้นำข้อ 1 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

ข้อ 3 การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้กระทำโดยสุจริต เป็นธรรม ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด หากมีเรื่องร้องเรียนหรือข้อสงสัยว่ามีการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ หรือมีการเรียก รับ ให้ หรือสัญญาว่าจะให้ประโยชน์ตอบแทน แลกเปลี่ยนหรือจูงใจในการแต่งตั้งไม่ว่าด้วยประการใด ๆ ให้ผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบหรือสอบสวนโดยเร็วและรายงานผลให้ผู้บังคับบัญชาเหนือชั้นขึ้นไปหรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้วแต่กรณี ทราบเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน
เกี่ยวกับการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ การเรียก รับ ให้ หรือสัญญาว่าจะให้ประโยชน์ตอบแทน หรือการแลกเปลี่ยนหรือจูงใจในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ เพิ่มขึ้นอีกช่องทางหนึ่ง เมื่อตรวจสอบแล้ว ให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไปโดยกำหนดมาตรการคุ้มครองพยานหรือผู้แจ้งเบาะแสชี้ช่องด้วย  ในกรณีจำเป็นจะเสนอหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเพื่อสั่งให้ข้าราชการตำรวจที่ถูกร้องเรียน
หรือเกี่ยวข้องไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานอื่นหรือนอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นการชั่วคราวระหว่าง
การตรวจสอบก็ได้ 


ข้อ 4 ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติศึกษาแนวทางการปฏิรูปตำรวจทั้งระบบ โดยอย่างน้อย ให้ครอบคลุมถึงการปรับปรุงการบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจ โดยพิจารณาเปรียบเทียบผลดีผลเสียและความเป็นไปได้ของหลักประกันความเป็นธรรมในการแต่งตั้งตามหลักเกณฑ์ต่าง ๆ การมีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม การดำเนินการทางวินัย การจัดระเบียบเกี่ยวกับอำนาจ ในการสอบสวนคดีอาญา การควบคุมและถ่วงดุลการใช้ดุลยพินิจ การกระจายอำนาจ การนำวิทยาการตำรวจสมัยใหม่ เทคโนโลยี และการบริหารราชการแนวใหม่มาใช้ในกิจการตำรวจ การปรับปรุงประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม การให้บริการที่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
และการจัดระบบสวัสดิการของข้าราชการตำรวจโดยอยู่บนพื้นฐานของหลักนิติธรรม หลักธรรมาภิบาล สิทธิมนุษยชน การรักษาความมั่นคงแห่งชาติ การปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ แล้วรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบภายในหกสิบวันนับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการปฏิรูปกิจการตำรวจที่จะจัดตั้งขึ้นตามมาตรา 260 ของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รับไปพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจต่อไป 

                    
ข้อ 5 ในกรณีเห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไข เปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้ 


ข้อ 6 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป 


สั่ง ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2560
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ