ข่าว

“พิภพ” ผิดหวัง “บิ๊กตู่” มองชุมนุมเป็น “ทะเลาะ”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“พิภพ” เหลืออด โพสต์เฟซบุ๊ก ผิดหวังวาทกรรม “นายกฯ” มอง ชุมนุมปชช. เป็น “การทะเลาะกัน” ยัน พธม. เคลื่อนไหวหวังตรวจสอบนโยบาย “ทักษิณ” นำไปสู่ทุจริตคอร์รัปชั่น

                                                

          4 ก.พ.60 - นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ค ชื่อ "Pibhop Dhongchai" หัวข้อ "การปรองดองกับแรงจูงใจทางการเมือง" ใจความว่า 

          "เดิมไม่คิดว่าจะพูดเรื่องปรองดอง จะรอจนให้เห็นแนวทางของนายกรัฐมนตรีก่อน แต่วันนี้เห็นว่าน่าจะพูดเรื่องนี้ผ่าน Facebook ได้แล้ว                                               

          ก่อนหน้านี้ได้พูดในรายการสภากาแฟ ทาง News 1 และเมื่อวานนี้ได้พูดผ่านทางโทรศัพท์ในรายการนี้อีกครั้ง 

          "ผมเริ่มด้วยข้อโต้แย้งต่อ “วาทะกรรม”ของนายกฯที่ว่า การชุมนุมของประชาชนเป็นการ “ทะเลาะ” นายกฯคิดว่าการชุมนุมของ พธม. ของ กปปส. ของ นปช. เป็นการ“ทะเลาะ”กัน ทะเลาะกับพรรคการเมือง ทะเลาะกับนักการเมือง ทะเลาะกันระหว่างประชาชนด้วยกัน" 

           ถามกลับว่า “ประชาชนทะเลาะกับใคร ?” 

           เมื่อทักษิณ คิดว่า เราทะเลาะกับเขา จึงนำเรื่องไปฟ้องศาล หาว่าแกนนำ พธม.และผู้ประสานงาน รวม 6 คน “หมิ่นประมาท” จึงนำเรื่องไปฟ้องถึง 4 ศาล 4 คดี 4 จังหวัด ศาลตัดสินให้แกนนำชนะคดี ทุกศาล และในคำบรรยายคำตัดสิน ก็ชี้ให้เห็นว่า คำแถลงการณ์ของ พธม. เนื้อหาเป็นการตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลทักษิณ ตาม รธน.และเป็นความจริง ไม่ใช่เรื่องชวนทะเลาะกับทักษิณ จนมากล่าวหาว่า “หมิ่นประมาท” ซึ่งทักษิณก็แพ้คดีความไป 

           แต่ก็ขอชมนายกรัฐมนตรี ที่ให้แยกการปรองดองออกจากนิรโทษกรรม ซึ่งคงจะไม่ได้หมายความว่าแยกกันเด็ดขาด ถ้าพิจารณากรณีแอฟริกาใต้ เขาจะแก้ปัญหาของชาติในความขัดแย้งไปพร้อมๆกัน จนเกิดความสมานฉันท์ ตามมา 

           จะขอพูดในส่วนของ พธม. ประชาชนทุกอาชีพ ที่ออกมาร่วมชุมนุมเรือนแสน และอยู่ที่บ้านอีกเรือนล้าน (หน้าจอ Astv) ไม่ได้ต้องการ“ทะเลาะ”กับใคร เราออกมาชุมนุมเพื่อตรวจสอบรัฐบาลทักษิณ 2 และตรวจสอบถึงรัฐบาลตัวแทนของทักษิณด้วย ในเรื่องการบริหารประเทศ ที่นโยบายอาจนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชั่น การละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการอุ้มฆ่า การฆ่าตัดตอน และการกระทำที่อาจหมิ่นเหม่ต่อสถาบันของชาติ นานถึง 10 ปี 

           ทหารเองก็ไม่พอใจรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลสมัคร รัฐบาลสมชาย และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ในเรื่องการบริหารประเทศที่อาจนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชั่นได้ ดังที่นำคดีขึ้นสู่ศาลหลายคดี หรือคดีที่ใช้อาวุธปราบปรามประชาชนที่ชุมนุมอย่างสงบและสันติ 

           ทหารแทนที่จะกดดันรัฐบาลด้วยวิธีอื่นตามที่ตนเองมีอำนาจตาม กม. หรือร่วมกับประชาชน แต่กลับใช้วิธียึดอำนาจ ขับไล่รัฐบาล โดยล้มล้าง รธน.และทหารก็ตั้งตัวเป็นรัฐบาลเสียเอง ถึง 2 ครั้ง แล้วออก กม.นิรโทษกรรมตัวเอง ซึ่งประชาชนชนชั้นกลางก็ปรบมือให้ 

            มาวันนี้ ทหารกลับมองว่าประชาชนที่ออกมาชุมนุมเพื่อตรวจสอบรัฐบาล เป็นการ“ทะเลาะ”กันเอง ระหว่างประชาชนกับประชาชน ประชาชนกับนักการเมือง หรือประชาชนกับพรรคการเมือง โดยใช้ กม.อาญาและ กม.แพ่ง มาจัดการแกนนำและประชาชนบางส่วน นำคดีขึ้นสู่ศาลอาญาและศาลแพ่ง แทนที่จะตีความว่าเป็นความขัดแย้งทางการเมือง เป็นการต่อสู้ทางการเมือง ถ้าจะถือว่ามีการละเมิด กม.ในระหว่างการชุมนุม ก็ให้ถือเป็น“เรื่องการต่อสู้ทางการเมือง” ถ้าจะทำให้เป็นคดีความ ก็ควรจะเป็น“คดีความทางการเมือง” ไม่ใช่คดีอาญา หรือคดีแพ่ง 

           ทางออกคือ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคดีในระหว่างการชุมนุม และสั่งยุติคดีอาญา คดีแพ่ง “ชั่วคราว” และให้พิจารณาว่าการชุมนุมของประชาชน เป็นความขัดแย้งทางการเมือง และการตรวจสอบทางการเมือง ตาม รธน.ใช่หรือไม่ 

           เหมือนกรณีความขัดแย้งระหว่างรัฐไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์ เมื่อถูกตีความว่าเป็นความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ทางการเมือง จึงเกิดนโยบาย 66/2523 เพื่อแก้ปัญหาทางการเมือง เรื่องความขัดแย้งทางการเมือง และความขัดแย้งทางอุดมการณ์ทางการเมือง เรื่องจึงยุติลง" 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ