“เสรี”ชี้ตั้งแง่ต่อรองปรองดองยาก

           21 ม.ค. -- นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) กล่าวถึงการจะเห็นแนวทางการปรองดองภายใน 3 เดือน ตามที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดองระบุว่า ต้องอยู่ที่ความร่วมมือของทุกฝ่าย ถ้ายังตั้งแง่พูดต่อรอง และสนองในสิ่งที่ขัดแย้งตั้งแต่แรก อย่างนี้การปรองดองก็จะไปไม่รอด เช่นให้ทหารมาทำเอ็มโอยูว่าจะไม่ปฏิวัติแล้ว ซึ่งเงื่อนไขการปฏิวัติพูดไปก็จะเป็นการกล่าวหากัน เพราะสิ่งสำคัญคือนักการเมืองที่เข้าไปสู่ระบบเลือกตั้ง จะเข้าไปทุจริตคอร์รัปชั่นหรือไม่ แสวงหาผลประโยชน์ เอาแต่พวกพร้องหรือไม่ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่นำไปสู่ปัญหาทั้งสิ้น ปัญหาใหญ่อยู่ตรงนี้ การเสนอข้อต่อรองสร้างบรรยากาศของความขัดแย้งก็จะไปสู่ผลสำเร็จยาก                               

            “ดังนั้นจึงอยู่ที่ความร่วมมือ อยู่ที่ข้อตกลง เพราะจุดยื่นของคนเรียกร้องของการเมืองแต่ละฝ่ายเป็นจุดที่รักษาผลประโยชน์ส่วนตัวทั้งนั้น ถ้าจะให้พ้นทุกคดีพ้นทุกข้อหา ถ้าผลออกมาไม่เป็นไปตามกระบววนการยุติธรรมก็ไม่เป็นที่ยอมรับ ซึ่งวิธีนี้ไม่พ้นเรื่องการออกมาตรการป้องกัน เพราะสุดท้ายต้องออกมาตรการป้องกัน นอกจากกฎหมายห้ามชุมนุม ก็ต้องมีเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ไม่ทำอะไรผิดด้วย ไม่ใช่ไปสร้างมาตรการไม่ชุมนุมอย่างเดียว แต่เงื่อนไขก็เป็นสัญญาสุภาพบุรุษเท่านั้นถึงเวลา ก็คอร์รัปชั่น โกงการเลือกตั้ง.ฝ่ายที่ถูกเอาเปรียบไม่ได้รับความป็นธรรมก็ออกมาต่อสู้ ถ้าตั้งแง่อย่างนี้ก็ไม่มีทางปรองดองสำเร็จ ในที่สุดก็ต้องเข้าไปสู่กระบวนการยุตจิธรรม ที่ต้องให้มีการพิจารณาความถูก ผิด แล้วให้ศาลตัดสิน ก็จะยุติได้  ถึงเวลาใครผิดก็รับโทษไป ไม่ผิด ก็ปล่อยตัว  ทั้งนี้ปัญหาอยู่ที่ว่าจะยอมรับกันหรือไม่ ”นายเสรี กล่าว  

            นายเสรี กล่าวต่อว่า ในส่วนของกมธ.ด้านการเมือง สปท.  ตอนนี้อนุกรรมาธิการรวบรวมข้อเสนอการแก้ปัญหาความขัดแย้ง กมธ.ด้านการเมือง ก็จะรวบรวมข้อมูลความคิดเห็นที่เป็นเอกสารความเห็นของแต่ละพรรคการเมือง และนักการเมืองแต่ละคนแต่ละฝ่าย ว่ามีความคิดเห็นความต้องการอย่างไร แล้วนำมาวิเคราะห์แนวทางที่จะยุติปัญหาได้อย่างไร ซึ่งเป็นแนวทางที่เราก็พยายามที่จะหาความปรองดองให้เกิดขึ้น