ข่าว

 “วัฒนา” หนุนกระบวนการสร้างความปรองดอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วัฒนา” โพสหนุนกระบวนการสร้างความปรองดอง ติง ยังข้องใจองค์ความรู้และการมีส่วนได้เสียของรัฐบาล

         เพื่อไทย -19 ม.ค.60-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์ ได้โพสข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยมีใจความสรุปได้ว่า “หลายคนสอบถามผมว่า ท่านนายกฯ ทักษิณคิดอย่างไรกับเรื่องปรองดอง แต่บังเอิญในช่วงปีใหม่ที่ผมไปกราบสวัสดีท่านนั้นรัฐบาลยังไม่ได้หยิบยกเรื่องปรองดองขึ้นมาดำเนินการ ผมเลยไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับท่าน แต่ผมเชื่อว่าท่านและคนไทยเกือบทุกคนน่าจะเห็นด้วยที่บ้านเมืองจะเกิดความปรองดอง เพราะวิกฤตความขัดแย้งที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งความเสียหายอย่างประมาณค่ามิได้สู่สังคมไทย ทั้งยังส่งผลในทางลบต่อทุกภาคส่วนของสังคม มีเพียงบุคคลบางกลุ่มเท่านั้นที่ไม่เห็นด้วยเพราะเป็นพวกได้ประโยชน์จากความขัดแย้งของสังคม แต่บังเอิญท่านนายกฯ ทักษิณและผมไม่ได้อยู่ในกลุ่มนั้น ส่วนจะเป็นใครบ้างสังคมคงพอมองออก

          หลายฝ่ายในอดีตได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อค้นหาสาเหตุและแนวทางยุติความขัดแย้ง เช่น รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ ได้แต่งตั้งคอป. และสภาผู้แทนราษฎรในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้แต่งตั้งสถาบันพระปกเกล้า ทั้งสองคณะทำงานมีความเห็นตรงกันว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากการเมือง เมื่อผสมกับปัญหาเชิงโครงสร้างความเหลื่อมล้ำของสังคม ความอ่อนแอของกลไกในระบอบประชาธิปไตย และกระบวนการยุติธรรมของประเทศ รวมทั้งกลไกต่างๆ ของรัฐที่มิได้อยู่บนหลักนิติธรรม ทำให้ความขัดแย้งที่มีอยู่แล้วทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ความขัดแย้งมิได้เกิดจากใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่เกิดจากหลายฝ่ายร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ประชาชน เจ้าหน้าที่และองค์กรของรัฐ จึงนับเป็นโอกาสดีที่สังคมไทยจะได้เข้าสู่กระบวนการปรองดอง

           แต่กระบวนการสร้างความปรองดองจะบรรลุเป้าหมายได้นั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงเหตุแห่งความขัดแย้ง รวมถึงมีกระบวนการในการแก้ไขปัญหาและสร้างความปรองดองที่ทุกฝ่ายยอมรับ ซึ่งจะต้องอยู่ในบรรยากาศที่ทุกฝ่ายสามารถถกเถียง มีความเห็นหรือแสดงออกเพื่อร่วมกันไปยังเป้าหมายภายใต้กติกาของสังคมที่เห็นพ้องร่วมกันได้ ผมจึงเห็นด้วยและยินดีสนับสนุนกระบวนการสร้างความปรองดอง แต่ผมยังสงสัยในองค์ความรู้และการมีส่วนได้เสียของรัฐบาล

           รัฐบาลยังมองปัญหาความขัดแย้งแบบตื้นเขิน กล่าวหาแต่ผู้อื่นโดยโทษนักการเมืองว่าเป็นต้นตอปัญหาและเป็นคู่กรณีแห่งความขัดแย้ง ไม่ได้มองว่าตัวเองก็เป็นคู่กรณีและเป็นสาเหตุสำคัญที่ซ้ำเติมทำให้ความขัดแย้งขยายวงมากขึ้น เพราะการยึดอำนาจก็ดี การใช้อำนาจตามอำเภอใจก็ดี หรือการที่องค์กรของรัฐใช้อำนาจที่ขัดต่อหลักนิติธรรม ล้วนเป็นสาเหตุที่นำมาซึ่งความขัดแย้ง ที่สำคัญคือ รัฐบาลนี้และสมัครพรรคพวกล้วนได้ดิบได้ดีหรือได้ประโยชน์จากความขัดแย้งทั้งสิ้น เพราะหากบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ เป็นประชาธิปไตย คนพวกนี้ไม่มีทางได้อำนาจจากประชาชน” .

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ