
"พรเพชร”ยันพรบ.คอมพ์ดีกว่าเก่า
“พรเพชร”ยันพรบ.คอมพ์ ดีกว่าเก่า คงอำนาจศาลสั่งระงับหรือปิดเว็ปไม่เหมาะสม พร้อมเพิ่มกก.กลั่นกรอง วอนกลุ่มเห็นต่างเข้ามาพูดคุย
19 ธ.ค. -- นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงถึงร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ... ที่ผ่านความเห็นชอบจากสนช.ในวาระ 3 เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า เมื่อกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาสนช. ส่วนตัวได้ให้หลักการพิจารณาว่า กมธ.จะต้องประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเข้าใจในกฎหมายและเรื่องคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริงและรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนทั้งประชาชนรวมถึงผู้ให้บริการ และองค์กรที่ควบคุมดูแลระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ต้องหาจุดที่เหมาะสมหรือดุลยภาพระหว่างการใช้อำนาจของรัฐกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชนจะทำให้เป็นกฎหมายที่ดี
กฎหมายนี้เป็นการแก้ไขพ.ร.บ.คอมพ์ฯจากปี 2550 ซึ่งถือว่าดีกว่าเดิม เพราะมีการทอนอำนาจของเจ้าพนักงาน โดยยังคงอำนาจศาลเอาไว้ และเพิ่มคณะกรรมการกลั่นกรองซึ่งมีภาคประชาชนเข้ามาร่วม โดยรัฐมนตรีไม่ได้ใช้อำนาจในการพิจารณาเอง แต่ต้องไปร้องต่อศาล ถ้าศาลเห็นด้วยจึงจะระงับได้ และยืนยันว่าการปิดหรือระงับใช้ข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์หลายประเทศอ่อนแอกว่าไทย บางประเทศสั่งปิดทันทีโดยไม่มีการไปขอคำสั่งศาล ไม่ทัดเทียม ไม่มีการไปศาล อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวมีมาแล้วตั้งแต่ปี 2550 และองค์กรภาคประชาชนที่ออกมาคัดค้านนั้น ส่วนตัวอยากให้มาพูดคุยกันด้วยเหตุผลว่าไม่เห็นด้วยตรงไหน ที่ขัดกับสิทธิเสรีภาพ โดยสนช.พร้อมเปิดเวทีให้เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยน แต่ไม่อยากให้กล่าวหาไปโยงกับเรื่องซิงเกิ้ลเกตเวย์ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้นี้เป็นการควบคุมการทำงานของเจ้าพนักงานไม่ให้แทรกแซงข้อมูลของประชาชน หากพบเจ้าหน้าที่กระทำผิดจะถูกลงโทษหนักเป็นสามเท่ากว่าคนอื่น
ส่วนผู้ที่ลงชื่อคัดค้าน 3 แสนรายชื่อ ก็อยากให้ดูว่าเป็นการแก้ไขกฎหมายที่ใช้มานานเป็น 10 ปี ซึ่งมีข้อบกพร่องและจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุง เพราะเป็นการให้อำนาจเจ้าหน้าที่มากเกินไป ซึ่งเมื่อเข้าสู่การพิจารณาทาง กมธ.ก็ได้มีการแก้ไขมากไปจากร่างที่รัฐบาลเสนอเข้ามา ตนอยากให้เครือข่าวภาคประชาชนช่วยผลักดันกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมากกว่า เพราะเป็นห่วงว่ากรณีที่มีการนำข้อมูลในบัตรประชาชน หรือ พร้อมเพย์ ไปใช้ หากมีกฎหมายดังกล่าวออกมาจะช่วยเพิ่มการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวได้เป็นอย่างดี และจะทำให้ควบคุมเจ้าหน้าที่รัฐที่ควบคุมดูและระบบคอมพิวเตอร์ไปได้อย่างเหมาะสม ส่วนที่มีข้อเรียกร้องให้ชะลอการประกาศใช้กฎหมายออกไปก่อนคงไม่สามารถทำได้ เพราะกฎหมายได้ผ่านการพิจารณาสนช.ไปแล้ว หากสนช.ไม่ให้ผ่านจะกลับไปใช้กฎหมายเก่าเมื่อปี 2550 หรืออย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มคัดค้านกฎหมายดังกล่าวเตรียมโจมตีเว็บไซต์ราชการ จะมีแนวทางป้องกันอย่างไร นายพรเพชร กล่าวว่า ป้องกันเท่าที่ทำได้ เพราะคนที่เก่งในระบบคอมพิวเตอร์สามารถทำได้ เนื่องจากเราไม่สามารถลงทุนในเรื่องของดังกล่าวได้ขนาดนั้น



