ข่าว

อสส. ระบุ คดี ม.112 ต้องใช้มาตรการส่งผู้ร้ายข้ามแดน (มีคลิป)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อัยการสูงสุด "อบรมอัยการไทย-อเมริกา พัฒนาทักษะรวบรวมหลักฐานไซเบอร์ไคร์ม การเงินทุกคดี รวมทั้งคดีพระธัมมชโย-ค้ามนุษย์ ส่วน ม.112 ต้องใช้มาตรการส่งผู้ร้ายข้ามแดน

ที่โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยท์ วันที่ 2 พ.ย.59 เวลา 10.00 น. ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการจัดอบรมเชิงปฎิบัติการเเลกเปลี่ยนความรู้ ทักษะ เเละเพิ่มความร่วมมือในการหาหลักฐานคดีทางการเงินและอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ว่า เราจะนำทักษะต่างๆ ที่อัยการและพนักงานสอบสวนสหรัฐอเมริกาเคยทำ มาเป็นข้อมูลใช้ปฏิบัติงานของไทยต่อไป

    เมื่อถามว่าการอบรมจะเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบรวบรวมหลักฐานทางการเงินคดีพระธัมมชโย และคดีค้ามนุษย์ที่อยู่ในการพิจารณาของอัยการที่จะเข้าสู่ชั้นศาลต่อไปได้หรือไม่ 
อัยการสูงสุด กล่าวว่า อัยการจะดำเนินการในทุกคดี

    เมื่อถามถึงความผิดคดีอาญา มาตรา 112 การหมิ่นเบื้องสูงที่อาจมีการกระทำผิดผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์กล่าวว่า คดีมาตรา 112 ก็จะมีปัญหาในการกระทำผิดนอกราชอาณาจักร ซึ่งความผิดลักษณะนี้ในต่างประเทศยังไม่กำหนดเป็นความผิด ดังนั้นการจะดำเนินคดีต้องอาศัยหลักการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่การในสัมมนาวันนี้ไม่ได้มีการพูดถึงเพราะการอบรมส่วนใหญ่จะคุยกันถึงข้อปฏิบัติการรวบรวมหลักฐานคดีทางการเงิน อย่างไรก็ดีเข้าใจว่าหน่วยงานของรัฐเองพยายามจะหามาตรการ หรือวิธีการว่าจะทำอย่างไรให้ดำเนินการในส่วนนี้ได้ เพื่อให้ได้ตัวมาดำเนินคดี

    เมื่อถามว่า คสช.ได้ส่งข้อมูลผู้กระทำความผิดมาตรา 112 ให้อัยการสูงสุดประสานความร่วมมือกับต่างประเทศมาบ้างหรือไม่  เขาตอบว่า ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าว ซึ่งคาดว่าอาจจะอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน หรืออาจจะมีการทำสำนวนส่งเข้ามาบ้างเเล้วเเต่อยู่ในการพิจารณาของอัยการสำงานต่างประเทศ ซึ่งคดีมาตรา 112 ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเจอก็จะรวบรวมพยานหลักฐานส่งสำนวนให้อัยการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนเรื่องการประสานความร่วมมือในคดีดังกล่าวอาจจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงตามข้อตกลง เเต่เราก็จะพยายามด้วยตนเองควบคู่กันไปด้วย

    เมื่อถามถึงความคืบหน้าของการสอบข้อเท็จจริง กรณีนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อดีตรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ที่ถูกคำสั่งย้ายชั่วคราวไปดำรงตำเเหน่งรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด กรณีที่โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวพาดพิง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเเละหัวหน้า คสช. ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์  กล่าวว่า หลังจากที่ได้ตั้งผู้ตรวจราชการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไปเเล้ว ตนยังไม่ได้รับรายงานผล  ส่วนนายปรเมศวร์ จะได้กลับมาดำรงตำเเหน่งเดิมหรือไม่นั้น ตนยังไม่สามารถบอกได้ ต้องรอดูผลตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนจะพิจารณาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เเต่การย้ายนายปรเมศวร์ เป็นเเค่การย้ายชั่วคราวระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ