ข่าว

สนช.พร้อมประชุมหลังครม.แจ้ง‘การสืบสันตติวงศ์’

สนช.พร้อมประชุมหลังครม.แจ้ง‘การสืบสันตติวงศ์’

19 ต.ค. 2559

สนช.พร้อมประชุมทันทีหลังครม.แจ้งเรื่อง‘การสืบสันตติวงศ์’

 

          19  ต.ค.  -  นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการเป็นประธานในพิธีประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า กิจกรรมดังกล่าว แสดงถึงความจงรักภักดี และแสดงถึงความอาลัยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และที่น่ายินดีก็คือบรรดาสมาชิกฯ ต่างก็ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณและมาร่วมแรงร่วมใจกันอย่างคับคั่ง โดยสนช.ก็จะน้อมนำพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า ‘เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม’ ซึ่งเป็นหลักที่พระองค์ในฐานะผู้นำหมายเลขหนึ่งประเทศที่ปกครองแผ่นดินโดยธรรมก็หมายความว่าท่านปกครองคนอื่นโดยธรรม คนอื่น ๆ ที่ลดหลั่นลงมาหรือผู้ที่ได้รับพระบรมราชโองการ จะต้องปฏิบัติหน้าที่เฉกเช่นเดียวกับพระองค์ท่าน นั่นก็คือการยึดหลักความเป็นธรรมและพระองค์ท่านจะเน้นเรื่องความผาสุกของประชาชนชาวสยาม ซึ่ง สนช. ก็ถือเป็นข้าราชการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตนตามแบบอย่าง 

          ส่วนการประชุมของ สนช. ในครั้งต่อไปนั้น ก็จะเป็นวาระพิจารณากฎหมายปกติ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และกฎหมายต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปประเทศ ตามแผนงานของรัฐบาลและคณะกรรมาธิการฯ โดยจะต้องเป็นไปตามโรดแมปที่วางไว้ คือจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องรอดูกฎหมายลูกที่เข้ามา เพราะต้องออกตามรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ทราบว่า คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ได้ดำเนินการร่างกฏหมายลูกล่วงหน้าแล้ว โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแสดงความคิดเห็นหรือได้ดำเนินการรับฟังความเห็นของพรรคการเมืองมาบ้างแล้ว  สนช. จะไปพิจารณาล่วงหน้าไม่ได้ แต่สนช.จะต้องพิจารณาว่ากฏหมายที่กรธ.ส่งมาเป็นอย่างไร  ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่เป็นทางการแล้ว จะได้ไม่เป็นอุปสรรคที่จะอ้างได้ว่า เพิ่งได้รับ ไม่รู้เรื่อง อย่างนี้ไม่ได้   ส่วนกฎหมายที่เป็นไปตามแผนการปฏิรูปนั้น รัฐบาลก็พยายามเร่งรัดเสนอเข้ามา ขณะเดียวกัน กฎหมายที่ค้างอยู่ในชั้นคณะกรรมาธิการฯ นั้น ก็เหลืออยู่ไม่กี่ฉบับ แต่ถ้ากฎหมายใดที่มีปัญหาที่จะต้องรับฟังประชาชนมาก ๆ สนช. ก็ไม่ได้รีบร้อน ซึ่งจะต้องฟังความเห็นทุกอย่างเพื่อให้ลงตัว และเสนอให้ความเห็นชอบเพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายในวาระต่อๆไป

           ส่วนเรื่องการสืบสันตติวงศ์นั้นรัฐบาลได้ประสานกันมาตลอด เพราะต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลเนื่องจากตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฯ ปี 2550 มาตรา 23 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในปัจจุบันนั้น จะต้องมีกระบวนการที่ต้องให้ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) แจ้งให้สนช.ทราบ ถึงการที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงตั้งพระรัชทายาทเอาไว้ ซึ่งก็จะต้องดำเนินการอย่างเป็นทางการด้วยมติ ครม. ถ้าครม.มีมติมาเมื่อใด  สนช. ก็จะต้องมีการดำเนินการประชุมโดยรีบด่วน โดยสนช. ได้มีการเตรียมพร้อมตลอดทุกวัน ซึ่งอย่าลืมว่า สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพูดถึงนั้น ก็โยงไปถึงพระราชบัณฑูร ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารด้วย ดังนั้น จะต้องมีความสัมพันธ์กัน