ข่าว

"อุดมเดช"แบ่งงานคุมใต้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กโด่ง"ถกผู้แทนพิเศษรัฐบาล มอบหมายงานแก้ปัญหาชายแดนใต้ ตั้ง"ภาณุ"นั่งเลขาฯ ระบุ 13 คนให้ข้อมูลได้หมด ยันทำหน้าที่บูรณาการ แก้ปัญหาติดขัด งานเดินเร็ว

 

 

          6 ต.ค. --  พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐบาลพิเศษ ในคณะขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหน้า(คปต.ส่วนหน้า) ประชุมคณะผู้แทนพิเศษ คปต.ส่วนหน้าครั้งแรก โดยมี พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.กระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้  พล.อ.ปราการ ชลยุทธ พล.อ.จำลอง คุณสงค์ พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ พล.อ.สกล ชื่นตระกูล พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ นายพรชาต บุญนาค นายภานุ อุทัยรัตน์ นายจำนัล เหมือนคำ

          พล.อ.อุดมเดช ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมว่าเป็นการประชุมคณะผู้แทนรัฐบาลพิเศษ ในคณะขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหน้า(คปต.ส่วนหน้า) เพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม ได้ให้นโยบายมาบ้างแล้ว ส่วนอื่นจะยึดถือกลุ่มงานเดิมที่ คปต.เคยวางไว้ใน 7 กลุ่มงาน เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า ทั้ง 13 ท่านดูกลุ่มงานใดเป็นการเฉพาะ แต่ยังแสดงความคิดเห็นในงานด้านอื่น ๆ ได้ การประชุมในวันนี้เพื่อเกิดความชัดเจนและเข้าใจตรงกัน และหลังจากการประชุมวันนี้แล้ว เว้นระยะเพื่อให้แต่ละบุคคลที่รับผิดชอบไปจัดลำดับความสำคัญกลุ่มงานของตัวเอง และนำมาเสนอเพื่อจัดลำดับความเร่งด่วนและดูนโยบายของรัฐบาล เช่น ความชัดเจนให้เกิดผลในปี 2560 คือเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมเศรษฐกิจ มั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน

          พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า การทำงานของคณะผู้แทนรัฐบาลพิเศษ ในคณะขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหน้า จะต้องเข้าใจระบบการปฏิบัติงานต่าง ๆ ระบบรายงาน การปฏิบัติ ตามคำสั่งคสช.ที่ได้ระบุไว้ เป็นการประสานงาน ให้คำแนะนำเชื่อมต่อ การบูรณาการงานรัฐบาลในส่วนกลาง แต่ไม่ถึงกับการสั่งการส่วนราชการในพื้นที่ ยืนยันจะปฏิบัติหน้าที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ซึ่งคณะทั้ง 13 คน ตั้งใจทำงานให้สิ่งต่าง ๆ ที่ดำเนินการมา จะพยายามทำให้ลุล่วงเกิดผลดีในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความสงบมากที่สุดในรอบปีต่อไป

          พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณของคณะผู้แทนรัฐบาลพิเศษ มีสำนักงานนายกรัฐมนตรีดูแลอยู่แล้ว แต่ในส่วนของ คปต.ส่วนหน้า สภาความมั่นคงแห่งชาติจะเป็นผู้ดูแล พร้อมทั้งรายงานให้นายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร ที่ได้จัดระบบให้รายงานโดยตรงอยู่แล้ว เพื่อเกิดความรวดเร็ว โดยให้ นายภานุ เป็นเลขาธิการคณะผู้แทนพิเศษรัฐบาล ในส่วนทีมงานคปต ส่วนหน้า จะมีเจ้าหน้าที่สมช.ทั้งระดับสูง ระดับกลาง ที่เข้าใจงานอย่างดีอยู่แล้ว รวมถึงส่วนของทหารและพยายามให้ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน  ทั้งนี้จะดูแลให้มีเจ้าหน้าที่ในจำนวนที่เหมาะ ไม่ให้คนมากเกินไป ไม่ต้องการเกิดพะรุงพะรัง

          พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า คณะผู้แทนทั้ง 13 คนสามารถให้ข้อมูลได้หมด เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเปิดเผย ไม่ใช่เรื่องลับอะไร คิดว่าประชาชนอยากทราบความคืบหน้า จะไม่จำกัด สามารถชี้แจงได้หมด แต่ในโอกาสต่อไปจะพิจารณาวางตัวคนที่เหมาะสมมาให้ข้อมูล ส่วนการลงพื้นที่ปฏิบัติงานทั้ง 13 ท่านนั้น ไม่จำเป็นต้องลงไปพร้อม ๆ กัน แล้วแต่ความสะดวก อยากให้เกิดความคล่องตัว ซึ่งบางท่านทำงานในพื้นที่อยู่แล้ว ยกเว้นบางท่านที่มีงานประจำอย่างเช่น พล.อ.สุรเชษฐ์ แต่ส่วนใหญ่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะใช้ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย กองพลทหารราบที่ 15 จ.ปัตตานี ในการปฏิบัติงานเพื่อเป็นฐานรวบรวมข้อมูล
 
          พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า สำหรับ ในส่วนงานกองอำนวยการภาค 4 ส่วนหน้า และ ศอ.บต. มีความชัดเจนงานปกติอยู่แล้วก็ดำเนินการไป ในส่วนของคณะผู้แทนพิเศษรัฐบาล ทำหน้าที่เพียงกำกับดูแลเพื่อเกิดประสิทธิภาพ อะไรทำดีอยู่แล้วก็สนับสนุน สิ่งไหนที่ยังไม่ดี ล่าช้า จะเข้าไปดูแลปัญหาข้อขัดข้องให้ไหลลื่นเพื่อเกิดความสำเร็จ

          ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องกำกับดูแล กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ศอบต.หรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ในสังกัดแต่ละส่วนมีสายการบังคับบัญชาปกติอยู่แล้ว ซึ่งคณะผู้แทนพิเศษรัฐบาล ไม่ใช่สายการบังคับบัญชา เพราะตามคำสั่งคสช.ระบุชัดเจนว่า ไม่มีอำนาจสั่งการ เพียงแต่ทำหน้าที่บูรณาการ ขับเคลื่อน ปิดช่องว่างการทำงานให้แนบชิดกันเพื่อให้งานเดินไปได้ ซึ่งหลังจากคณะผู้แทนพิเศษปฏิบัติงาน จะรวบรวมข้อมูลเป็นสัปดาห์ รอบเดือน เพื่อสรุปประเมิรผลการทำงานรอบ 6 เดือน และ 1 ปี เพื่อสร้างตัวชี้วัดกลุ่มงาน

          "สิ่งใดที่ทำให้เกิดความล่าช้า อยู่ในหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะผู้แทนพิเศษรัฐบาล ต้องเร่งผลักดัน เพื่อเกิดความรวดเร็ว ส่วนเรื่องเจ้าหน้าที่เกียร์ว่างคงไม่มี อาจมีติดขัดบางอย่างทำให้งานเดินล่าช้าแต่ที่ผ่านมาเราพึงพอใจในระดับหนึ่ง บางช่วงงานสำเร็จเป็นเรื่อง ๆ บางช่วงสำเร็จน้อย นี่คือปัญหาที่นายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร มองว่า จำเป็นต้องมีคณะผู้แทนพิเศษรัฐบาลเพื่อขจัดปัญหา เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด แม้ว่าทุกคนที่เข้ามาทำงานบางคนเกษียณราชการไปแล้ว แต่มีประสบการณ์ มีความรู้ มีความสามารถ บางท่านเคยเป็นอดีตแม่ทัพภาค 4 ซึ่งรู้งานในพื้นที่เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ขอให้ประชาชนได้มั่นใจว่าผู้แทนพิเศษรัฐบาล 13 ท่าน ตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร" พล.อ.อุดมเดช กล่าว

          ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นคุยกับ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผอ.กอ.รมน.ส่วนหน้าภาค 4 น้องชาย พล.อ.ธีรชัย นาควานิช อดีต ผบ.ทบ. หรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า  ตนคุ้นเคยกับแม่ทัพภาคที่ 4 คนปัจจุบันเป็นอย่างดี เมื่อ 2 ปีก่อน สมัยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ตนเป็นผู้เสนอให้ พล.ท.ปิยวัฒน์  ทำงานด้านการข่าว โดยได้รับความเห็นชอบจากผู้บังคับบัญชา ไม่มีปัญหาอะไร


        
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ