ข่าว

ไร้กังวล เซ็ตซีโร่กกต. "ประวิช" ย้ำยึดกฎหมายลูกเป็นหลัก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 "ประวิช" ไร้กังวล เซ็ตซีโร่กกต. ชี้ยึดกฎหมายลูกเป็นหลัก ปัดปมขัดแย้งแย่งเก้าอี้ประธาน บอกแค่เปลี่ยนด้านทำงาน โวเป็นกกต.ชุดที่กลมเกลียวที่สุด 

 

          1 ต.ค. 59 - นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกระแสที่จะให้เซ็ตซีโร่ กกต.ว่า กกต.จะอยู่ต่อไปอย่างไรขึ้นอยู่กับพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นมาใหม่ ทุกองค์กรเหมือนกันหมด ฉะนั้นไม่มีอะไรซับซ้อนหรือมีอะไรที่เกี่ยวกับเซ็ตซีโร่ คนตัดสินใจขั้นที่ 1 คือกรธ.เพราะทำหน้าที่ยกร่างฯ จากนั้นส่งไปสนช.เพื่อให้ความเห็นชอบ ฉะนั้นต้องรอดูพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ จะว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล และไม่มีหน้าที่ที่จะไปกังวลหรือห่วงอะไร เพราะว่าในรัฐธรรมนูญบอกว่าขึ้นอยู่กับพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่หน้าที่กกต.ที่จะไปบอก   
          เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีความบกพร่องอะไรจึงมีเสียงภายนอกให้เซ็ตซีโร่กกต. นายประวิช กล่าวว่า กกต.ชุดนี้มาอยู่ 2 ปีเศษ ในฐานะที่เคยผ่านงานภาครัฐมามาก คิดว่าชุดนี้เป็นกกต.ที่กลมเกลียว สามารถหาข้อยุติต่างๆด้วยเหตุด้วยผล บ่อยครั้งเป็นเอกฉันท์ถือว่าเป็นการทำงานที่ราบรื่นมาก ไม่เห็นมีอะไรที่จะเป็นเหตุได้ ที่ว่ามีความขัดแย้ง ตนมองไม่เห็นเหตุตรงนั้น ส่วนเรื่องเก้าอี้ประธานกกต.เรื่องนี้เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้มีการกำหนดไว้ว่าให้กกต.เป็นแบบคณะกรรมการ เมื่อทำงานเป็นแบบคณะกรรมการ แต่ละคนควรมีโอกาสในการจะเรียนรู้งานแต่ละด้าน หรือผลัดเปลี่ยนกันในการกำกับได้ เรากำลังให้สำนักงานฯกกต.เซ็ตรูปแบบขึ้นมา ยอมรับว่าการปรับเปลี่ยนบทบาทมีการพูดกัน แต่จะไปถึงการเปลี่ยนตัวประธานกกต.เลยหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กระบวนการหลายขั้น การตัดสินใจจะเป็นภาพองค์รวมหรือประธานเองเห็นอย่างไร คงต้องเป็นความเห็นร่วมกันในวันเวลาที่เหมาะสมค่อยว่ากันอีกครั้ง คงไม่ใช่เป็นการแย่งเก้าอี้ประธานอย่างที่เป็นข่าว ไม่มีภาพอะไรที่เป็นแบบนั้น

          เมื่อถามว่ารัฐธรรมนูญหรือทั้งกฎหมายลูกที่จะคลอดออกมาสามารถคลอดนักการเมืองน้ำดีได้จริงหรือไม่ นายประวิช กล่าวว่า มีความพยายามมา 84 ปีแล้ว ไม่ใช่เฉพาะในช่วงที่ตนเป็นนักการเมืองมาแล้วพยายาม สิ่งหนึ่งที่เห็นคือเราพยายามใส่เข้าไปเยอะมาก เรื่องกฎกติกา บทลงโทษ ห้ามอย่างนั้นห้ามอย่างนี้ พอลงสนามจริงกลายเป็นว่าบางคนกลับไปใช้ช่องโหว่มาร้องเรียนกัน บางครั้งมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โต และหาช่องทางกฎหมายลงไปดำเนินการสร้างความทุกข์ให้แก่กัน วันนี้ต้องยอมรับว่ากกต.ทำหน้าที่มา 18 ปี แม้ว่าจะวางรากฐานกันมาดีตั้งแต่ชุดที่ 1-4 เรามั่นใจเรื่องความสุจริต เที่ยงธรรม ในเรื่องกระบวนการ เป็นมาตรฐานสากลได้รับการยอมรับจากผู้มาสังเกตการณ์ แต่ส่วนหนึ่งที่อยากจะเห็นและระดมสมองโดยเฉพาะที่จะคลอดพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญอีก ต้องตั้งโจทย์ว่าถ้าเขียนข้อนี้ไป จะช่วยให้ลดสิ่งที่ถามได้หรือไม่ ให้คนที่ได้รับการเลือกตั้งมีความภาคภูมิใจว่าได้รับเลือกตั้งจากประชาชนมาโดยความสุจริต หัวใจตรงนี้คิดว่านักการเมืองทุกคนต้องการ ไม่มีใครอยากซื้อเสียง โกงการเลือกตั้ง พอมาทำงานตรงนี้ได้ทำเรื่องการมีส่วนร่วมโดยตรง ถึงได้คิดเรื่องเครือข่ายภาคประชาชนเข้ามาร่วมทั้งเรื่องการจัด การตรวจสอบทุกขั้นตอน เชื่อว่าจะทำให้การเมืองโปร่งใสในทุกขั้นตอน ถ้าทำตรงนี้ให้ดีข้อกล่าวหาซึ่งกันและกัน เรื่องการซื้อเสียงต่างๆจะค่อยลดลงไป และจะเป็นการเมืองที่ว่ากันด้วยนโยบายมากขึ้น.



 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ