ข่าว

สนช.ไม่อนุญาต “อุดมเดช”เพิ่มพยานหลักฐาน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สนช.นัดแถลงเปิดคดีถอดถอน "อุดมเดช - นริศร" 6 ต.ค. ไม่อนุญาตให้ “อุดมเดช” เพิ่มพยานหลักฐาน

 

            29 ก.ย. 59 - การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม  ได้พิจารณาดำเนินกระบวนการถอดถอนนายนริศร ทองธิราช อดีตส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งส.ส.ออกจากตำแหน่งกรณีใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ลงคะแนนแทนบุคคลอื่น  และนายอุดมเดช  รัตนเสถียร  อดีตส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งส.ส.ออกจากตำแหน่ง กรณีสลับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาของสมาชิกวุฒิสภาที่เสนอต่อประธานรัฐสภา ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ประกอบมาตรา 64 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542

            นายสุรชัย ได้แจ้งว่า นายนริศรไม่ได้ขอเพิ่มพยานหลักฐานเพิ่มเติม แต่นายอุดมเดช ได้ขอเพิ่มพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารจำนวน  4 รายการ  และตนขอนัดแถลงเปิดสำนวนคดีของป.ป.ช.ผู้กล่าวหาและแถลงคัดค้านสำนวนคดีของผู้ถูกกล่าวหาในวันที่ 6 ต.ค.

           จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณาคำขอเพิ่มพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารจำนวน 4 รายการ ประกอบด้วย 1.รายงานบันทึกการประชุมสนช.ลงมติไม่ถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา 2. รายงานบันทึกการประชุมสนช.ลงมติไม่ถอดถอน อดีต 38 ส.ว.  3.รายงานบันทึกการประชุมสนช.ลงมติไม่ถอดถอนอดีตส.ส. 248  คน กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาส.ว.โดยไม่ชอบ  และ 4.คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 53/58 คำวินิจฉัยตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญปี 50 เมื่อในวันที่ 6 ส.ค. 57  

            น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช. ได้คัดค้านโดยให้เหตุผลว่าเป็นพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นก่อนที่จะวินิจฉัยในคดีนี้ และทางป.ป.ช.ได้เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นพยานหลักฐานแล้ว แต่เหตุใดผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นในตอนนั้น

            ด้านนายอุดมเดช  ชี้แจงว่า เอกสารหลักฐานเป็นหลักฐานใหม่ที่ไม่ปรากฏในสำนวนของป.ป.ช.ซึ่งการนำเอกสารทั้ง 4 รายการมาก็เพื่อประโยชน์ในทางคดีอีกทั้งการที่ป.ป.ช.กล่าวเป็นมีลักษณะเดียวกันกับคดีถอดถอนนายสมศักดิ์ นายนิคมและอดีตส.ส.248  คน อีกทั้งจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของสนช.30 คนที่ตั้งมาใหม่เพราะสนช.30 คนนี้ไม่ได้รับทราบถึงการลงมติในคดีดังกล่าว

           จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติ โดยไม่อนุญาตให้นายอุดมเดช เพิ่มพยานหลักฐานเอกสารทั้ง 4 รายการ และไม่มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อทำหน้าที่สรุปข้อเท็จจริงของกฎหมายและพยานหลักฐานของคู่กรณีเพราะเห็นว่าคดีดังกล่าวไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ