ข่าว

“ณัฐวุฒิ” ชี้ ใช้ม. 44 คดีจำนำข้าว เท่ากับเพิ่มอำนาจรัฐ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เหน็บ ถ้าต้องการเพิ่มคู่ต่อสู้แฝงให้มากที่สุด ถือว่ามาถูกทางแล้ว

 

             นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า ดูเหมือนการปราบโกงที่เป็นงานโชว์ของรัฐบาลมาตลอด จะถูกตั้งคำถามมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการเปรียบเทียบมาตรฐานการดำเนินการระหว่างคนฝ่ายตรงข้าม กับคนหรือองค์กรฝ่ายเดียวกันกับกลุ่มผู้มีอำนาจ เเละการยึดหลักนิติธรรมในการดำเนินคดี โดยเฉพาะคดีรับจำนำข้าว ซึ่งประเมินกันว่าจะเป็นฐานความชอบธรรมให้การยึดอำนาจ แต่พอมีการใช้มาตรา 44 ในหลายขั้นตอน ทำให้ความเชื่อมั่นในกรณีนี้ลดลงไปเรื่อยๆ เมื่อนายกฯ อธิบายว่าไม่ได้ใช้ตัดสินคดี แต่ใช้เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่กลัวในการปฏิบัติก็เกิดคำถามว่า ถ้าทำถูกต้องทุกอย่าง แล้วคนทำงานต้องกลัวอะไร

            นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า แม้จะเน้นย้ำตลอดเวลาว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการปกติ มีการใช้พ.ร.บ.ความผิดทางละเมิดมาแล้วกว่า 5,000 คดี แต่ส่วนตัวเชื่อว่านี่เป็นกรณีแรกที่ใช้อำนาจแบบมาตรา 44 มาดำเนินการ ถ้าไม่ใช่ก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาอธิบาย ทั้งนี้ ความหมายของการใช้มาตรา 44 ในการดำเนินคดี คือการเพิ่มอำนาจรัฐและตัดสิทธิ์ผู้ถูกกล่าวหา ยิ่งใช้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักว่า ภายใต้อำนาจปกติไม่สามารถกระทำได้ ส่วนการจะเรียกค่าเสียหายอีก 80 % จากฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น ควรพิจารณาให้รอบคอบว่าทำได้จริงหรือไม่ แค่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ คนเดียวยังต้องเอามาตรา 44 เข็นกันแล้วเข็นกันอีก แล้วจะใช้กับ 850 คดีจะไหวหรือ

            “ผลที่จะเกิดขึ้นคือ คนจำนวนมากทั้งข้าราชการและเอกชน ตลอดจนครอบครัวและญาติมิตรรู้สึกไม่ปลอดภัยในสถานการณ์นี้ เพราะไม่มั่นใจระบบอำนาจพิเศษ การสร้างความหวาดกลัวด้วยการขู่ยึดทรัพย์คนจำนวนมากเป็นเรื่องพึงระวัง แต่ถ้ารัฐบาลคิดว่าต้องการเพิ่มคู่ต่อสู้แฝงให้มากที่สุด ก็ถือว่ามาถูกทางแล้ว”นายณัฐวุฒิกล่าว

//////

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ