ข่าว

“นายกฯ”บอกรัก“น้องติ๊ก”แต่พี่ตู่ช่วยอะไรไม่ได้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

“นายกฯ”บอกรัก“น้องติ๊ก” แต่พี่ตู่ช่วยอะไรไม่ได้ ระบุต้องรับผิดชอบตัวเอง ระบุไม่รู้มีบริษัท เผย“ปรีชา”มาขอโทษ พร้อมรับกระบวนการตรวจสอบ

 

        เมื่อวันที่ 27 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีผู้ร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในเรื่องการสร้างฝาย ที่อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และการประมูลงานก่อสร้างของกองทัพภาค 3 ซึ่งเกี่ยวข้องกับ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม และครอบครัว ว่า เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ก็ว่าไป ป.ป.ช.จะสอบก็ให้เขาสอบไป ตนไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเขา ถึงจะเป็นน้องก็เป็นคนละคนกัน ส่วนรายงานข่าวที่ระบุว่าบริษัทรับงานก่อสร้างอยู่ในค่ายทหารที่เป็นหลานนายกฯ ตนไม่รู้ ก็ไปสอบมา ตนถามไปและให้ไปเตรียมคำตอบให้ดี และต้องไปถามปลัดกระทรวงกลาโหม แต่ไปถามเขาก็คงไม่ตอบแล้ว กระทรวงกลาโหมเขาดำเนินการอยู่ เพราะเป็นลูกน้อง

 

          ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้นายกฯมีความมั่นใจที่จะให้ป.ป.ช.ตรวจสอบในฐานะที่พล.อ.ปรีชา เป็นทั้งสมาชิกสนช. และคสช. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วไง ทำไม คุณไม่เชื่อมั่นกระบวนการรัฐเลยหรืออย่างไร ถ้าไม่เชื่อก็ไปอยู่ที่อื่นนู่น กระบวนการยุติธรรมเขาทำงานอยู่ ไม่เอาอะไรสักอย่าง จะเอาแต่ความรู้สึกหรือไง พอแล้วไม่ตอบ ถามแบบนี้ไร้สาระแล้วจะหาว่าโมโห ต้องไปถามกระบวนการที่เขากำลังตรวจสอบโน่น โยงกันไปมาอยู่นั่น ตนไม่ได้โมโหนะ

 

          เมื่อถามว่ารัฐบาลนี้ขึ้นชื่อในการต่อต้านการทุจริต นายกฯ กล่าวว่า ปั๊ดโธ่ เขาสอบสวนอยู่ เขาฟ้องขึ้นมาก็เป็นคดี เขาก็ต้องตรวจสอบแบบนั้น นี่คือกลไกในการใช้อำนาจรัฐ ไม่ใช่อยู่ดีๆนึกจะตรวจสอบใครก็ตรวจสอบ ตอนนี้กระทรวงกลาโหมก็กำลังตรวจสอบ ขณะที่ป.ป.ช.ก็ตรวจสอบไป อย่าเอามาพันกับตน รวมไปถึงบริษัทเขาก็ตรวจสอบหมด

 

          “เขาสอบหมด บริษัทบ้าบอคอแตกอะไรนั่น อยากจะสอบอะไรก็สอบไปเถอะไป จะสอบครัวสอบส้วมก็สอบไป จะมาโยงกับผมทำไม เขาก็รับผิดชอบของเขาเองสิ ไม่ใช่เออ ไอ้ห่า ตระกูลผมเสียหาย มันคนละเรื่อง คนละคน แต่ถามว่าผมรักน้องไหม ผมก็รัก แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ ผมช่วยเขาไม่ได้ และผมก็มาตะแบง ชี้ แจงส่งเดชไม่ได้ เป็นเรื่องของกลไกก็รับไป และผมก็ไม่เคยไปว่าใคร ทุกอย่างเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม ใครอยากสอบก็สอบไป หรือสื่อจะเป็นตัวแทนเรืองไกร อีกคน ศรีสุวรรณ อีกคน มันทำงานอะไรวันๆหนึ่ง มันมาฟ้องกันทุกวัน มีงานทำหรือเปล่า ทำมูลนิธิเหรอ เดี๋ยววันหลังต้องไปสอบสองคนนี้บ้าง ทำอาชีพอะไร มีรายได้จากที่ไหน วันๆทำงานกันอย่างไร อาชีพสุจริตหรือเปล่า สื่อไปฟ้องแทนผมหน่อยสิ ผมไม่อยากยุ่งกับเขา กระบวนการตรวจสอบเขาก็เดินหน้าไปไม่ใช่มาประโคมข่าวสร้างความสำคัญ ผมเองยังไม่พยายามพูดถึงโครงการรับจำนำข้าว มันก็พูดกันอยู่นั่น กลับมาย้อนผมทุกเรื่อง ต้องไปสู้ที่กระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่มาสู้ตามสื่อ ผมก็ไม่ได้ตอบโต้ให้น้องผมทางสื่อ ไปว่ากันที่กระบวนการผิดก็คือผิด” นายกฯ กล่าว

 

          เมื่อถามว่าพล.อ.ปรีชา ได้มาขอโทษหรือไม่เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ธรรมดา เขามาขอโทษ บอกว่าไม่ได้ทำความผิด เพียงแต่บางอย่างอาจจะไม่สมควร เขายอมรับตรงโน้น แต่เรื่องของบริษัทเขาบอกว่าเตรียมหลักฐานไว้เต็มที่ ตนยังไม่รู้ว่าเขามีบริษัท ตั้งมาหลายปีแล้ว หลานก็โตแล้ว ไม่เจอหน้ามากี่ปีแล้ว ตนเป็นคนไม่ค่อยเจอครอบครัว เพราะทุ่มเวลาให้กับงานมาตลอด และรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้อยู่กับครอบครัว พ่อแม่พี่น้อง ตั้งแต่เด็ก แต่ความผูกพันยังเหมือนเดิม สายเลือดมันต้องมีอยู่แล้ว แต่หน้าที่เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด ลดปัญหาความขัดแย้งให้มากที่สุด ใครทำอะไรก็ต้องระวังตัวเอง รับผิดชอบกันเองก็แค่นั้น

 

          “ เดี๋ยวถ้าผมทำอะไรผิด พล.อ.ปรีชา ก็ต้องรับผิดชอบแทนผมสิ แล้วสื่อก็ต้องไปถามพล.อ.ปรีชาด้วยว่า เห็นว่านายกฯ เป็นยังไง เขาจะตอบอย่างไรไปถามเขาดู เขาบอกว่าเขาจะทำให้ดีที่สุด ผิดพลาดอะไรก็ไปว่ากันมา เขาก็ยอมรับในกระบวนการสอบสวนก็จบแค่นั้น อย่าไปเพิ่มปัญหาหรือภาระ ผมไม่ได้ปกปิด มีก็มีก็รับกันไป” นายกฯ กล่าว

 

          เมื่อถามว่าจะทำให้เครดิตนายกฯถูกมองทางลบหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เครดิตตนคือของตน ไม่เกี่ยวกับคนอื่น ทำด้วยตัวเอง ด้วยรัฐบาล ตนจะต้องไปรับชอบรัฐมนตรีทุกคน ญาติพี่น้องอะไรอีกหรือเปล่าตนไม่รู้ ตามคนต่างทำก็รับผิดชอบกันเอง ตนรับผิดชอบในงานของประเทศชาติ และดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ไม่เช่นนั้นจะพันกันไปหมด

 

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "เรืองไกร" ที่นายกฯพูดถึงคือนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย ที่มักยื่นร้องเรียนเรื่องต่างๆ และ "ศรีสุวรรณ" คือ นายศรีสุวรรณ จรรยา  เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ผู้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาค 3 พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ อดีตแม่ทัพภาค 3 นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก นายชลธร ปั่นเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำ ภาค 9 กรณีใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ช่วยเหลือ ห้างหุ้นส่วนจำกัดคอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ที่มีนายปฐมพล จันทร์โอชา บุตรชาย พล.อ.ปรีชา ให้ได้รับงานก่อสร้างโดยผ่านการประมูล 

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ