จี้ "รบ." ดำเนินการ "คิงเพาเวอร์" ทำรัฐเสียรายได้

          24 ก.ย.59 - นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงความคืบหน้ากรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ระบุว่า การไม่เชื่อมต่อระบบรับรู้รายได้จากการขายสินค้าหน้าร้านและสต๊อกสินค้าคงคลัง หรือ Point Of Sals  : POS ของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัดมหาชน ( ทอท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ว่า จากกรณีที่ ทอท. ได้ให้ข่าวผ่านสื่อมวลชนโต้แย้ง สตง. โดยยืนยันว่าการไม่ได้ติดตั้งระบบ POS มาเป็นเวลา 9 ปีของคิง เพาเวอร์ คือตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน ไม่สร้างความเสียหายให้กับรัฐถือว่าไม่เป็นความจริง

          นายชาญชัย กล่าวว่า ในสัญญาที่ ทอท. ทำกับบริษัท คิงเพาเวอร์สุวรรณภูมิ จำกัด ระบุว่า ผู้รับอนุญาตในการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินตามสัญญาต้องเก็บรายได้ทุกชนิดจากการขายสินค้าและบริการให้ ทอท. ในอัตรา 15% ของยอดขายสินค้าทั้งปี ตั้งแต่ปีที่ 1-5 จากนั้นในปีที่ 6-10 ต้องเพิ่มผลประโยชน์ให้รัฐอีกปีละ 1% โดยครบกำหนด 10 ปี ในปี 59 ซึ่งในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ มียอดขายรวมกว่า 130,000 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับว่ารัฐต้องสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมากกว่า 20,000 - 30,0000 ล้านบาท 

          นายชาญชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ ทอท. ยังมีมติลดรายได้ที่คิง เพาเวอร์ ต้องจ่ายให้รัฐตั้งแต่ปี 2555 - 2558 อีกปีละ 1% ส่วนในปี 2559 ลดให้ถึง 2% โดยอ้างเหตุผลที่คิง เพาเวอร์ร้องเรียนให้ ทอท. มีมาตรการเยียวยาเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้บริษัทต้องสูญเสียรายได้จากยอดขายและจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการสนามบินลดลง ซึ่งการเยียวยาดังกล่าวทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้และถือว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน โดยไม่สมเหตุสมผล โดยขณะนี้ สตง. อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องที่ดำเนินการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนอีกด้วย  
          "ผมขอเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐและผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกับ คิงเพาเวอร์ ที่ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้มีการท้วงติงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ขณะที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า จึงตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมรู้เห็นกับการที่ทำให้รัฐต้องเสียประโยชน์ด้วยหรือไม่" นายชาญชัย กล่าว.