ข่าว

"บิ๊กป้อม"เสียใจเหตุบึ้มหน้าโรงเรียนบ้านตาบา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กป้อม"เสียใจเหตุบึ้มหน้าโรงเรียนบ้านตาบา ยอมรับมีช่องว่างการข่าว สั่งแม่ทัพภาค 4 บูรณาการร่วมทุกหน่วยงาน ยันประเทศไทยไม่มีพื้นที่สีแดง

         6 ก.ย. - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุระเบิดหน้าโรงเรียนบ้านตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายว่า รู้สึกเสียใจกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเราเองพยายามทำเรื่องนี้อยู่แล้ว ในเรื่องของการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ ตนเองได้โทรศัพท์พูดคุยกับแม่ทัพภาค 4 โดยสั่งการลงไปว่าให้บูรณาการกันให้ได้ ระหว่างตำรวจ ทหาร ข้าราชการมหาดไทย ที่ต้องช่วยเหลือดูแลในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก


         "โดยเฉพาะงานด้านการข่าว ในพื้นที่จะต้องลงลึกไปในพื้นที่ให้ได้ ให้ประชาขนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งได้สั่งการแล้ว และแม่ทัพภาค 4 คงได้ไปประชุมเพื่อบูรณาการให้ทุกหน่วยงานได้ดำเนินการ" พล.อ.ประวิตร กล่าว

 

         ผู้สื่อข่าวถามว่า ยอมรับใช่หรือไม่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาด้านการข่าว พล.อ.ประวิตร กล่าวยอมรับว่าจะมีช่องว่างเกี่ยวกับงานด้านการข่าว ทั้งเรื่องเน็ตเวิร์ค และงานด้านการข่าว ซึ่งเราอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไข ที่จะบูรณการให้เกิดความชัดเจนให้ได้

 

         ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดเหตุการณ์รุนแรงจึงกลับมาเกิดขึ้นอีกในช่วงนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อย่าไปพูดว่าเหตุการณ์รุนแรงใหญ่ ๆ กลับมา และเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดทั่วทุกพื้นที่ เกิดเพียงบางพื้นที่ และไม่ได้บ่อย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ระวังให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ยอมรับว่าเหตุการณ์รุนแรงก็เกิดขึ้นบ้าง เพราะทำอย่างไรได้ เนื่องจากคนหนึ่งจ้องจะทำ แต่อีกฝ่ายก็ทำเพียงแต่เฝ้าระวัง และป้องกัน ทั้งนี้เราต้องดูแลประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ยืนยันอีกครั้งว่าเหตุการณ์รุนแรงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย เพิ่งเกิดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากเหตุระเบิดรถไฟแต่เราก็พยายามแก้ไขในส่วนของเส้นทางรถไฟ ทางการรถไฟยืนยันว่าในวันที่ 10 ก.ย. จะเปิดการเดินรถไฟสายใต้แล้ว

         ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ทางด้านการข่าวจะมีการปรับปรุงอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ได้บอกไปแล้วว่ากำลังปรับปรุงอยู่ ต้องบูรณาการและช่วยกัน เจ้าหน้าที่ทุกคนก็พยายามทำงานเพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุรุนแรง  ส่วนถือว่าการข่าวมีการคลาดเคลื่อนหรือไม่เพราะเกิดเหตุการณ์รุนแรง 2 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถป้องกันได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การข่าวไม่ได้คลาดเคลื่อนและเราก็รู้ก่อน อย่างกรณีของรถไฟก็รู้ แต่ขั้นตอนและกระบวนการมันช้า อย่างเหตุการณ์ที่หน้าโรงเรียนบ้านตาบา นั้นก็รู้ก่อน ทางเจ้าหน้าที่แจ้งมาตั้งแต่เมื่อวาน (5 ก.ย.) ซึ่งตนก็ได้เตือนไปตั้งแต่วานนี้แล้ว แต่อย่าไปพูดว่าเป็นความบกพร่องของหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ทุกคนพยายามทำงานอย่าไปซ้ำเติม เกิดเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้ทุกคนก็เสียใจเต็มที่อยู่แล้ว สื่ออย่าไปซ้ำเติมอีก นอกจากจะไม่ทำแล้วชอบไปพูดกันอีก

           ผู้สื่อข่าวถามว่าพื้นที่ที่เกิดเหตุรุนแรง เป็นพื้นที่เซฟตี้โซนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการกำหนดว่าพื้นที่ใดเป็นเซฟตี้โซน และก็ไม่ใช่พื้นที่สีแดง ประเทศไทยไม่มีพื้นที่สีแดง ทุกพื้นที่เข้าได้หมด ยืนยันว่าตอนนี้ประชาชนในพื้นที่ยังเข้าข้างฝ่ายรัฐเหมือนเดิม มีเพียงบางคน และบางส่วนเท่านั้น ซึ่งมีไม่มาก เมื่อถามว่ากลุ่มเห็นต่างในพื้นที่ยังคงเป็นกลุ่มเดิมหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า มันก็เป็นกลุ่มเดิม ๆ ไม่มีกลุ่มใหม่



 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ