ข่าว

เปิด! สำนวนถอดถอน “สุกำพล”

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดสำนวนถอดถอน “สุกำพล” ตามที่ ป.ป.ช. ชี้ใช้ตำแหน่งแทรกแซงแต่งตั้งปลัดกห. ขณะที่เจ้าตัว แจง6ข้อ ปัดข้อกล่าวหา

          25 ส.ค.59 -- ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อดำเนินกระบวนการถอดถอนพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหม ออกจากตำแหน่งใน ข้อหาเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล เข้าไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมโดยมิชอบ โดยใช้สถานะหรือตำแหน่งเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติราชการหรือการ ดำเนินงานในหน้าที่ประจำของคณะกรรมการปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อประโยชน์ของตนเองของผู้อื่น และพรรคการเมือง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา268 ประกอบมาตรา266 (1) (2) และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมือง ข้อ15 พ.ศ.2551 มีมูลส่อว่าจงใจในการใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญปี2550 และขัดต่อมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง จึงเป็นเหตุให้ถูกถอดถอนตามพ.ร.บ. ป.ป.ช.ปี 2542 ด้วย      

          น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช. ได้แถลงเปิดสำนวนว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2555 พล.อ.อ.สุกำพลได้นำพล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วย ผบ.ทบ.และพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. เข้าพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สนับสนุนพล.อ.ทนงศักดิ์ เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม จากนั้นในวันที่ 17 ส.ค. 2555 เวลา 10.00 น.ได้มีการเสนอชื่อพล.อ.ทนงศักดิ์ โดยไม่ได้มีการพิจารณาของคณะกรรมการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม แต่มาพิจารณาในตอนบ่าย และมีการรับรองชื่อในวันที่ 20 ส.ค.ถือเป็นแทรกแซงและไม่ปฏิบัติตามมาตรา 25 วรรค 2 ของพ.ร.บ. ว่าด้วยการจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551และข้อบังคับ ว่าด้วยการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลของกระทรวงกลาโหม ในข้อที่11 ทำให้พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหมได้มีหนังสือทักท้วงไปว่า ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กระทรวงกลาโหมกำหนดไว้ เนื่อง จาก พล.อ.ทนงศักดิ์ สังกัดกองทัพบก ตามข้อบังคับการแต่งตั้งของกระทรวงกลาโหมจากส่วนราชการหนึ่งไปอีกส่วนราชการ หนึ่งต้องให้หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทำการตกลง แต่ปรากฏว่าไม่มีการตกลงใด ๆทั้งสิ้นอย่าง ไรก็ตาม กฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่มีอยู่มุ่งทำให้เกิดดุลภาพในเรื่องการบริหารกองทัพ ทั้งเรื่องการแต่งตั้งและห้ามเข้ามาล้วงลูกการแต่งตั้งโยกย้าย     

          “การกระทำที่กล่าวมาข้างต้นชี้ให้เห็นเจตนาอย่างชัดเจนว่า พล.อ.อ.สุกำพลใช้ตำแหน่งรัฐมนตรีเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงในหน้าที่ประจำของข้า ราชการ ซึ่งไม่ใช่นโยบายเป็น การปฏิบัติที่ผิดหลักการ การบริหารที่ดี ย่อมทำให้รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศขาดความศักดิ์สิทธิ์ไม่ อาจใช้บังคับได้ผล เป็นการทำลายความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชน เป็นการทำลายระเบียบ มาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจึงสมควรถูกถอดถอนและตัดสิทธิ์การดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี”น.ส.สุภา กล่าว     

          จากนั้น พล.อ.อ.สุกำพล แถลงคัดค้านสำนวนคดี ว่า การแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลในเดือน ต.ค.ปี 55 ได้ยึดข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.จัดระเบียบข้าราชการกลาโหม และข้อบังคับของกระทรวงกลาโหม โดยจะขอชี้แจงถึงการดำเนินการประชุมของคณะกรรมการระดับกระทรวงกลาโหม (กห.)ที่ตนเป็นประธาน โดยกห.ขอให้หน่วยที่ขึ้นตรงต่างๆส่งรายชื่อนายทหารทั้งหมดที่จะโยกย้ายให้มา ถึงที่สำนักงานปลัดกห. ภายในวันที่ 15 ส.ค. 2555 แต่เมื่อถึงกำหนดก็ไม่มีหน่วยไหนส่งรายชื่อมาเลย แม้แต่สำนักงานปลัดกห.ก็ไม่มี จึงเป็นจุดสำคัญที่ตนต้องตัดสินใจ เพราะวาระการแต่งตั้งโยกย้ายในเดือนส.ค. น่าจะไม่เสร็จทันตามกำหนดที่จะ ต้องทำให้เสร็จเพื่อส่งให้สำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อดำเนินต่อ ซึ่งหน่วยต่างๆจะต้องส่งรายชื่อมายังตนวันที่ 3 ก.ย. 2555 ซึ่งเวลาให้ตนพิจารณาเพียง 5 วัน ตนจึงได้ตัดสินใจนัดประชุม โดยให้ ปลัด กห.นัดประชุมด้วยวาจาในวันที่ 17 ส.ค. 2555 เวลา 10.00 น.และเป็นรับทราบทั้งหมด เว้นแต่ ผบ.ทอ. เท่านั้นไปราชการต่างประเทศ จึงไม่ได้เข้าร่วมประชุม แต่ตนได้แจ้งกับที่ประชุมว่า อยากหาข้อยุติในเรื่องปลัดกห.เพียงวาระเดียว เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในส่วนนี้ โดยมีการแจ้งชัดเจนว่าไม่ให้จดบันทึกการประชุม เพราะมีวาระเดียวจำเอาไว้และป้องกับความลับรั่วออกไป เพราะรั่วทุกปี 

          พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวต่อว่า ตนขอโต้แย้งข้อกล่าวหาของปปช.ใน 6 ประเด็น ดังนี้ 1.ปปช.กล่าวหาว่า การแต่งตั้งในวันที่ 17 ส.ค.2555 ไม่ถือเป็นการประชุมนั้น ตนขอยืนยันว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมที่ครบองค์ประชุม เพื่อพิจารณาตำแหน่งปลัด กห.เพียงตำแหน่ง โดยตนเสนอชื่อ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ซึ่งเป็นผช.ผบ.ทบ.เป็นปลัด ส่วน พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกห.ให้ขณะนั้น เสนอ พล.อ.ชาตรี ทัตติ รองปลัด กห. ซึ่งตนได้ถามที่ประชุมทีละคนว่า จะเลือกใคร ซึ่งมติที่ประชุมเห็นชอบ 4 ต่อ 1 เห็นชอบ พล.อ.ทนงศักดิ์ เป็นปลัดกห.ตามที่ตนเสนอ ทั้งนี้ ยอมรับว่า ตนได้พูดว่า พล.อ.เสถียรส่งใครมา ตนจะเปลี่ยนทั้งหมดจริง แต่เป็นการพูดภายหลังจากมีมติ 4 ต่อ 1 แล้ว และ ผบ.ทบ. ผบ.สส. ผบ.ทบ. ผบ.ทร.ก็ยืนยันกับ ปปช.ว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมที่ถูกต้องที่ชอบด้วยข้อบังคับทุกประการ แต่ปปช.กลับไม่ฟัง ไปฟังคนที่ไม่เข้าประชุม 2.การที่ ปปช.บอกว่า ตำแหน่งปลัดกห.ไม่ขึ้นตรงกับรมว.กห.ตนขอถามว่า ถ้าปลัดกห. ไม่ขึ้นตรงกับรมว.กห. แล้วจะขึ้นกับใคร 3.การที่ปชช.ระบุการประชุมเพื่อแต่งตั้งโยกย้าย ต้องจัดทำบัญชีรายชื่อทุกตำแหน่งเป็นบัญชีเดียว ซึ่งกฎระเบียบข้อบังคับไม่ได้กำหนดให้ต้องมีบัญชีรายชื่อเป็นบัญชีเดียวกัน ตั้งแต่การประชุมครั้งแรก แต่การประชุมครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2555 มีรายชื่อบัญชีรายทุกตำแหน่งในบัญชีเดียวกันครบตามที่กำหนด 

          พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวอีกว่า 4. ปปช.กล่าวหาว่า การแต่งตั้งปลัดกห.ไม่เป็นไปตามข้อบังคับนั้น ตนยืนยันว่า การประชุมครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 5 ก.ย. เป็นไปตามข้อบังคับทุกประการ และองค์ประกอบครบ โดยที่ประชุมมีมติ 4 ต่อ 1 เห็นชอบ พล.อ.ทนงศักดิ์ เป็นปลัดกห.แล้ว 5.ปปช.กล่าวหาว่า การแต่งตั้งจะข้ามส่วนราชการไม่ได้นั้น ตนยืนยันว่า องค์ประชุมในวันนั้นมีองค์ประกอบจากทุกส่วนราชการของ กห.มาร่วมประชุมแล้ว และที่ประชุมมีมติในเรื่องบุคคล อีกทั้ง รักษาปลัดกห.ในขณะก็ได้มีหนังสือขอตัว พล.อ.ทนงศักดิ์ จาก ทบ.เพื่อโอนย้ายมาสังกัด สำนักงานปลัดกห.แล้วด้วย และ 6.ปปช.กล่าวหาการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล รวมถึงปลัด กห.ให้พิจารณาตัวบุคคลในส่วนราชการนั้นๆ เป็นลำดับแรกก่อน ตนขอยืนว่า ในการประชุมวันที่ 17 ส.ค.2555 คนเสนอชื่อ 2 คนให้ที่ประชุมพิจารณา คนหนึ่งมาจาก ทบ. อีกคนมาจากสำนักงานปลัดกห. ซึ่งการพิจารณาความเหมาะสมต้องให้เกียรติคณะกรรมการที่พิจารณา ซึ่งพิจารณาว่า พล.อ.ทนงศักดิ์ เหมาะสม คนเป็นฝ่ายการเมืองเพียงเสียงเดียวไม่สามารถไปสั่งใครได้ ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องคณะกรรมการใช่เรื่องของตน 

           “ทั้งหมดเป็นรายละเอียดที่ผมรับผิดชอบถามที่ได้รับมอบหมายแต่หากสนช.สงสัย ว่าสิ่งที่ผมพูดจริงหรือไม่ ขอให้สอบถามกับ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ อดีตผบ.ทร ซึ่งเป็น สนช.ในขณะนี้ดูก็ได้ เพราะพล.ร.อ.สุรศักดิ์ นั่งประชุมร่วมกับตน ทั้งวันที่ 17 ส.ค. และ 5 ก.ย. 2555 หรือจะถาม พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ อดีต ผบ.ทอ.ก็เป็น สนช.อยู่ด้วยก็ได้ ส่วนที่กล่าวหาที่ว่า ผมพา พล.อ.ทนงศักดิ์ กับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.ไปพบนายกฯ ก็เพราะอยากรู้จักเท่านั้นเอง ที่ผ่านมารู้จัก แต่ 5 เสือไม่รู้จักเสือตัวเล็กๆเลย และหลักเข้าพบก็ไม่ปิดบังอะไร นักข่าวเห็นหมด และ ทั้ง 2 คนให้การกับปปช.ว่า นายกฯก็ไม่ได้พูดเรื่องการแต่งตั้งเลย” พล.อ.อ.สุกำพล กล่าว 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ