
ประธาน สปท.หวังดันงานปฏิรูปได้1ชิ้นก่อนหมดวาระ
ประธาน สปท.เน้นผลักดันงานปฏิรูปให้สำเร็จ ออกมาเป็นกฎหมายให้เสร็จ ก่อนที่ สปท.จะพ้นวาระ
เมื่อ เวลา09.30น. ในการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) มีร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสปท. เป็นประธานการประชุม โดยประธานได้แจ้งต่อที่ประชุมก่อนที่จะให้คณะกรรมาธิการ(กมธ.)ขับเคลื่อนการปฏิรูปแต่ละคณะไปประชุม ว่า งานที่สปท.จะต้องทำก่อนที่จะหมดวาระซึ่งจะออกมาเป็นกฎหมายและบางส่วนนำไปใช้ในมาตรา44เป็นเรื่องที่นายกฯ กระทรวงเจ้าของเรื่อง คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นด้วย และคณะกรรมการกฤษฎีกาช่วยร่างภาษาให้ออกมาเป็นกฎหมาย ที่สำคัญอยู่ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ไม่ว่าจะอยู่ในวาระ1,2หากสปท.และสนช.หมดวาระไป เรื่องนั้นก็ต้องนับหนึ่งใหม่สำหรับรัฐบาลใหม่
"ดังนั้นสิ่งที่เราทำมา ทำให้ผลลัพธ์บั้นปลายจะสูญเปล่า หากกมธ.ทั้ง12ด้าน ผลักดันให้งานปฏิรูปสำเร็จสัก1ชิ้นหรือ2-3ชิ้น อย่างมากที่สุดมาเป็นกฎหมายให้เสร็จก่อนที่เราจะพ้นวาระก็ประเสริฐสุดแล้ว และถ้าอะไรก็ตามไม่เสร็จเป็นกฎหมายประเทศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ถือว่างานปฏิรูปที่เราเสนอไปชิ้นนั้นๆ ไม่บรรลุผล สำหรับงานปฏิรูปที่ค่อนข้างจะสำเร็จเช่นกมธ.ด้านกีฬา กมธ.ด้านการศึกษา ที่มีการตั้งกมธ.ร่วมกับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งเราต้องทำทุกวิถีทาง ล็อบบี้ ใช้กำลังภายในสูงส่ง เพราะทำงานแบบเป็นทางการมันไม่เวิร์ค" ร.อ.ทินพันธุ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ที่ประชุมสปท.จะพักการประชุม โดยให้แต่ละคณะกรรมาธิการไปประชุมร่วมกันนั้น มีสปท.หลายคนลุกขึ้นติง อาทิ นายเสรี สุวรรณภานนท์ สปท. ติงว่าการให้ กมธ.แต่ละคณะไปประชุมโดยไม่มีจุดมุ่งหมายว่าจะให้เน้นเรื่องอะไร และระยะเวลาในการประชุมมีจำกัด เพราะจะต้องนำกลับมารายงานที่ประชุมในเวลา13.00น.เมื่อกลับมาในที่ประชุมแล้ว ให้สมาชิกอภิปรายคนละ10นาที ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ขณะที่นายวิทยา แก้วภราดัย สปท.เสนอให้กมธ.แต่ละคณะไปประชุมกันอย่างเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องจำกัดเวลาว่าต้องนำเข้ารายงานต่อที่ประชุมใหญ่ในช่วงบ่าย ควรจะให้กมธ.ประชุมกันอย่างเต็มที่ แล้วนำกลับมาเสนอต่อประชุมสนช.ในวันที่22ส.ค.อีกครั้ง ซึ่งประธานสปท.และที่ประชุมก็เห็นชอบด้วย



