“ปชต.ใหม่”ยอมรับผล“ประชามติ”

          กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (เอ็นดีเอ็ม) นำ โดยนายรังสิมันต์ โรม ได้นำอ่านแถลงการณ์ของกลุ่มภายหลังจากทราบผลการนับคะแนนออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งปรากฏว่าคะแนนเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญมากว่าไม่เห็นชอบ ว่า เป็นเรื่องยากที่จะพูด หลายคนร่วมสู้กับเราตลอด 4 - 6 เดือนที่ผ่านมา เรามีความหวังแต่ตนไม่อยากให้พวกเราทุกคนหมดหวัง ยังเชื่อว่าวันหนึ่งจะดีกว่านี้ แต่วันนี้อาจไม่ใช่วันของเรา ทั้งนี้การที่ผู้มีสิทธิส่วนใหญ่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญนั้น ทางกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ขอยืนยันว่า เราเคารพเสียงของประชาชนทุกคน ไม่ว่าฝ่ายใดหรือมีความคิดเห็นอย่างไร เราพร้อมยอมรับการตัดสินใจของประชาชน เพราะเป็นการตัดสินใจของเจ้าของประเทศร่วมกัน กว่า 6 เดือนที่ผ่านมา ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้ทำกิจกรรมรณรงค์เผยแพร่ข้อเสียของร่างรัฐธรรมนูญ และผลกระทบที่จะเกิดตามมาอย่างสม่ำเสมอ เราเอาตัวเองเข้าแข่งขันในกติกาที่ไม่เป็นธรรม เผชิญการคุกขาม ข่มขู่ หลายคนติดคุกและยังไม่ได้รับอิสรภาพ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะเอามาใช้แก้ตัว ผลประชามติที่ออกมาสะท้อนว่าเรายังพยายามไม่มากพอ จึงต้องทุ่มเททำงานให้หนักกว่านี้ พัฒนาไปให้มากกว่านี้ แม้ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านการออกเสียงประชามติไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าการกระทำของ คสช. จะเป็นความถูกต้อง ไม่ได้หมายความว่าสิทธิเสรีภาพของประชาชนจะได้รับความคุ้มครอง และไม่ได้หมายความประเทศไทยจะกลับคืนสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง
  
          นายรังสิโรม กล่าวอีกว่า หลังจากนี้เรายืนยันจะเดินหน้าเรียกร้องประชาธิปไตย พิทักษ์สิทธิของประชาชน ต่อต้านการกระทำอย่างไม่ถูกต้องของเผด็จการทหารต่อไป เราจะไม่ย่อท้อเพียงเพราะความผิดหวังแค่ครั้งนี่ครั้งเดียว วันนี้หนทางสู่ประชาธิปไตยอาจยังยาวไกล แต่เชื่อว่าหากไม่หยุดนิ่ง ในวันข้างหน้าเราและประชาชนทุกคนจะถึงจุดหมายที่หวังไว้อย่างแน่นอน
 
          “ผมคิดว่าพวกเราน่าจะตอบคำถามกับคนรุ่นหลังได้ว่า พวกเราทำเต็มที่แล้ว แต่มันก็ได้แบบนี้ แต่ยืนยันพวกเราจะสู้ต่อ เราไม่คิดว่าความฝันจะพังทลายแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ไม่ใช่ว่าวันสุดท้าย เพราะคะแนนเสียงของประชาชน 40เปอร์เซ็นต์ ที่ไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญนี้ เป็นความหวังของคนรุ่นต่อไป วันนี้อาจจะเจ็บปวด ที่เราไม่ใช่ผู้ชนะ แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป” นายรังสิมัน โรม กล่าวและว่า เรายืนยันว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผิดหลักการทั้งหมด แต่เราก็เคารพการตัดสินใจของประชาชนที่ได้ตัดสินใจแล้ว ในคูหาเลือกตั้งทุกคนมีสิทธิจะเลือกอนาคตของตัวเอง สิ่งที่เราทำมาคนส่วนใหญ่อาจไม่เป็นด้วย แต่มันคือทางเลือกของประชาชน