ล่ามือขโมยบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ เมืองคนเสื้อแดงอุดรธานี

        เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการขโมยบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ ที่ติดอยู่ที่ศาลาประชาคม บ้านสะแบง หมู่ 7 ต.สะแบง อ.หนองหาน เหตุเกิด เมื่อเวลา 20.00 น.วานนี้ (29 ก.ค.) โดยนายอนันต์ แสงศิลา ผู้ใหญ่บ้าน บ้านสะแบง หมู่ 7 ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สุรศักดิ์ อักษรกลาง สว.(สอบสวน) สภ.หนองหาน ว่า บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติ ได้หายไปจากกระดานป้ายติดรายชื่อ ที่ปิดประกาศไว้ที่ศาลาประชาคมบ้านสะแบง หมู่ 7 ต.สะแบง ที่เป็นหน่วยเลือกตั้งที่ 9 ของหมู่ 7 ต.สะแบง

        เมื่อไปตรวจสอบพบว่าสถานที่เกิดเหตุเป็นศาลาประชาคมประจำหมู่บ้านสะแบง หมู่ 7 สภาพทั่วไปเป็นศาลาประชาคม เปิดโล่งมีผนังปูนกั้นด้านทิศเหนือของศาลา มีห้องเก็บของปิดล็อคกุญแจ มีห้องน้ำแยก ซึ่งจุดที่ปิดประกาศรายชื่อ ได้ปิดอยู่กระดานดำที่สามารถยกเคลื่อนที่ได้ และตัวกระดาษบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติได้หายไปทั้งหมด

        จากการสอบสวนทราบว่า นายอนันต์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านสะแบง หมู่ 7 พร้อมนายธวัช ศูนย์ศร และ นายบุญทัน ผลสุวรรณ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้นำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติของบ้านสะแบง หมู่ 7 ปิดประกาศไว้ที่ศาลาประชาคมประจำหมู่บ้าน ที่ผ่านมามีการตรวจสอบทุกวัน จนวันที่ 29 กรกฎาคม เวลา 18.00 น. นายธวัช ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้ออกมาตรวจสอบ ปรากฏว่าประกาศรายชื่อดังกล่าวได้สูญหายไป ตอนแรกคาดว่า อาจมีคณะกรรมการนำออกไปเก็บรักษา เพราะมีพายุฝนฟ้าคะนอง เกรงจะได้รับความเสียหาย แต่เมื่อตรวจสอบแล้วไม่มี คณะกรรมการผู้ใดนำ จึงแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการหาตัวคนร้ายที่ขโมยบัญชีรายชื่อไป

        พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงศ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กล่าวว่า ได้สั่งให้ชุดสืบสวน สภ.หนองหาน และชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ลงพื้นที่สืบสวนหาตัวคนร้ายที่ขโมยบัญชีรายชื่อไป โดยให้สอบบุคคลต่างๆ และพยายามติดตามหาภาพจากกล้องวงจรปิดที่อาจมีบ้านของชาวบ้านในหมู่บ้านติดอยู่ โดยได้รายงานให้ฝ่ายความมั่นคงรับทราบเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว

       ด้านพล.ต.อำนวย จุลโนนยาง ผบ.มทบ.24 และ ผบ.กกล.รส.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี หากมีการสืบสวนไปเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล หรือมีปัญหาติดขัดอะไร ทางทหารเตรียมกำลังพลเป็นหน่วยสนับสนุนการทำงานของตำรวจอีกที แต่ไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงขึ้นในพื้นที่