ข่าว

(ฉบับเต็ม)“มาร์ค”ลั่น!ไม่รับรธน.มีชัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 อภิสิทธิ์ชี้ร่างรธน.ไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาประเทศ3ประเด็น ออกตัวไม่มีอคติแต่ยึดอุดมการณ์พรรค หากร่างรธน.ถูกคว่ำ แนะ “บิ๊กตู่” ร่างใหม่ นำรธน. 50 เป็นต้นแบบ

 

--27ก.ค.59--เวลา14.00น.นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แถลงจุดยืนเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญว่า   ที่ผ่านมาตนเคยแถลงข่าวมาแล้วว่าไม่รับคำถามพ่วงประชามติและใช้คำว่าไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ   แต่ถูกสอบถามว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญมาตลอด     ซึ่งตนต้องการเห็นทางเลือกที่ชัดเจนว่าถ้าไม่รับจะเป็นอย่างไรรวมทั้งต้องการเห็นบรรยากาศทางการเมืองไม่ขัดแย้ง    การแถลงวันนี้ไม่สามารถเป็นมติพรรคได้   เพราะไม่สามารถประชุมพรรคได้  แต่เป็นจุดยืนที่ตนแสดงความเห็นในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นอุดมการณ์ของพรรค  จึงไม่ใช่เรื่องที่ชอบหรือไม่ชอบในส่วนตัวของตัวเองแต่เป็นการสานต่ออุดมการณ์ของพรรค

 

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าขณะนี้มีปัญหา 3 ประเด็นที่ต้องได้แก้ไข       ประเด็นที่ 1 คือเราจะกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศอย่างไร   ซึ่งหนีไม่พ้นการอาศัยหลักการประชาธิปไตยคือให้ประชาชนมีส่วนร่วมและการกำหนดสิทธิเสรีภาพ นอกจากนี้แนวทางตามความเชื่อตามอุดมการณ์พรรค   คือการกระจายอำนาจสู่ชุมชนและท้องถิ่น    แต่ร่างรัฐธรรมนูญนี้ไม่ได้เดินไปทิศทางที่สอดคล้องกับแนวคิดดังกล่าวและมีหลักประกันสิทธิเสรีภาพน้อยกว่ารัฐธรรมนูญ2550จึงมองว่าโอกาสที่รัฐธรรมนูญจะทำให้ประเทศก้าวหน้าและรัฐบาลที่มาหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญจะตอบสนองสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นไปได้ยาก   เพราะไม่สามารถตอบโจทย์ประเทศและแก้ไขปัญหาต่างๆ

 

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อไปว่า    ประเด็นที่2ความขัดแย้งต้องแก้ด้วย2กระบวนการคือ1.การเมืองที่เป็นประชาธิปไตยและ2.กระบวนการยุติธรรมซึ่งไม่ใช่แค่เลือกตั้งใช้เสียงข้างมากแต่ต้องมีการตรวจสอบถ่วงดุลอย่างเหมาะสมแต่กลไกโดยส.ว. 250คนที่มาจากการคัดเลือกกันเองในบทถาวรและแต่งตั้งในบทเฉพาะกาล     ต้องยอมรับว่าไม่ได้เป็นตัวแทนประชาชนอย่างแท้จริง   ไม่สามารถแก้ปัญหาขัดแย้ง   กลับจะสร้างความขัดแย้งขึ้น    ส่วนกติกาที่ตั้งมาเป็นกติกาที่แก้ยากมาก    อีกทั้งกระบวนการประชามติเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างผิดปกติไม่เป็นไปตามแนวทางที่ปฏิบัติกันมา   มีข้อโต้แย้งว่าฝ่ายที่เห็นต่างได้รับความเป็นธรรมหรือไม่   จนทำให้เกิดความตึงเครียดจึงเป็นปัญหาเรื่องความชอบธรรมในการจัดทำประชามติหมายความว่ารัฐธรรมนูญนี้จะเป็นเงื่อนไขความขัดแย้งในอนาคตได้โจทย์แก้ไขความขัดแย้งผมจึงคิดว่าจะไม่บรรลุ

 

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า   ประเด็นที่3การแก้ไขปัญหาการทุจริต  เป็นจุดเด่นของรัฐธรรมนูญนี้  ตนสนับสนุนหลายมาตรา    แต่เราต้องมองการแก้ไขปัญหาทุจริตให้ครบวงจรซึ่งการจับการทุจริตต้องเริ่มต้นจากบรรยากาศที่เปิด    ประชาชนสามารถตรวจสอบเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเต็มที่   แต่ร่างรัฐธรรมนูญแบับนี้จะจัดการนักการเมืองโกง  แต่ได้เปลี่ยนแปลงกระบวนการไปจากเดิมที่มีทั้งกระบวนการถอดถอนและดำเนินคดีอาญา   แต่ร่างรัฐธรรมนูญนี้กลับถอดกระบวนการถอดถอนออก    โดยพึ่งกลไกหลักคือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)และศาลฏีกา   แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  กลับทำให้2องค์กรนี้อ่อนแอลงเพราะคนทำผิดสามารถอุทธรณ์ได้ง่ายและถ้ารัฐธรรมนูญนี้ผ่าน   คนกลุ่มแรกที่ได้รับประโยชน์จากรัฐธรรมนูญนี้คือจำเลยในคดีจำนำข้าว   เพราะถ้าถูกตัดสินว่าผิดก็สามารถอุทธรณ์ตามรัฐธรรมนูญใหม่ได้เลย   ตนสนับสนุนการปราบโกงแต่บทบัญญัติกำลังทำให้กระบวนการปราบโกงอ่อนแอลง  ไม่ได้เป็นอย่างที่พูดกันว่าการปราบโกงเข้มข้นขึ้น

 

“จากโจทย์3ข้อจึงให้คำตอบว่าผมไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในฉบับนี้    ขอย้ำว่าเกณฑ์การพิจารณาไม่มีประเด็นใดเลยที่เกี่ยวข้องกับระบบเลือกตั้งและการเมืองแต่ที่ไม่รับเพราะเห็นว่าร่างนี้ไม่ตอบโจทย์ของประเทศ  ไม่เป็นกติตกาที่เอื้อให้ประเทศไทยก้าวพ้นจากปัญหาเดิมๆได้  ซึ่งถ้า7 ส.ค.ร่างไม่ผ่านจะเกิดอะไรขึ้น    ผมก็เรียกร้องเรื่องนี้มายาวนานแต่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนจึงต้องตอบคำถามวันนี้ให้ชัดว่า   ผมไม่สามารถรับร่างนี้ได้   เพียงเพราะผมกลัวที่จะได้สิ่งที่แย่กว่า”หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

 

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อไปว่าการลงมติรับหรือไม่รับไม่ใช่เรื่องที่บอกชอบหรือไม่ชอบห  รือเชียร์ฝ่ายใดทางการเมือง  ซึ่งตนไม่ยอมให้ใครนำเงื่อนไขว่า   ถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่านจะก่อให้เกิดความวุ่นวายขัดแย้งในบ้านเมือง  ตรงกันข้ามถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่านตนสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา   นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ทำรัฐธรรมนูญใหม่ตามโรดแมปที่กำหนดไว้แล้วเลือกตั้ง  ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเพราะถ้าร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน  คสช.ก็ต้องรับผิดชอบ   จึงเป็นโอกาสที่จะทำให้พล.อ.ประยุทธ์จะให้รัฐธรรมนูญที่ดีแก่สังคม   

 

“ผมมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องตระหนักว่าสาเหตุมีที่มาที่ไปอย่างไรและท่านคงไม่เขียนคนเดียวแต่ต้องฟังจุดอ่อนจุดแข็งจากสังคมโดยไม่ต้องเปลี่ยนเป้าหมายในการแก้ปัญหาประเทศดังนั้นตนเสนอจุดเริ่มต้นว่า น่าจะนำรัฐธรรมนูญปี50ที่เคยผ่านการทำประชามติมาแล้วและรัฐธรรมนูญ2550ไม่ใช่ตัวปัญหาเงื่อนไขที่ทำให้เกิดรัฐประหารและบทบัญญัติเรื่องสิทธิเสรีภาพปี2550ชัดเจนที่สุดเราไม่ควรถอยหลังไปจากนี้ที่สำคัญคือสามารถปฏิรูปเรื่องสำคัญๆก่อนการเลือกตั้งได้โดยไม่โยนเรื่องการปฏิรูปไปสู่คณะกรรมการฯ”

 

“ยืนยันว่าการกำหนดจุดยืนของผมเพื่อต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์เริ่มต้นก้าวแรกที่เป็นก้าวใหม่ในการเมืองใหม่เหมือนกัน    เราต้องพิจารณาตามหลักการอุดมการณ์และผลประโยชน์ส่วนรวมประเทศ   ถ้าเรายังเอาการเมืองที่ว่าคนนี้เราชอบพูดอย่างนี้เราต้องตามถ้าคนนี้ไม่ชอบพูดอย่างนี้   เราต้องค้านตลอดเวล   เราจะไม่มีวันก้าวผ่านวิกฤติได้เลยขนาดนาฬิกาตาย ในหนึ่งวันยังบอกเวลาตรงถึง2ครั้ง    ยืนยันว่าที่ผมแสดงจุดยืนผมเอาอุดมการณ์และผลประโยชน์มารวมกัน    โดยไม่สนใจว่าคสช.นปช.จะพูดอย่างไร    เราจะเอาหลักเกณฑ์เช่นนั้นกำหนดอนาคตประเทศไม่ได้   เราต้องเอาหลักการมากำหนดการเมืองใหม่เพื่อตอบโจทย์ประเทศได้แท้จริง    สำหรับคนที่เป็นห่วงว่าผมแถลงอย่างนี้เพราะสมคบคิดพรรคการเมืองคงไม่ใช่   เพราะอุดมการณ์ชัดเจนเราจะดำเนินการด้วยความบริสุทธิ์  ซื่อสัตย์  สุจริต  ไม่มีวันไปสมคบคิดกับคนที่โกงชาติหรือคิดจะโกงชาติในอนาคตโดยเด็ดขาดและวันนี้จะไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน   อยากให้ท่านไปพิจารณาสาระที่ผมพูดวันนี้ว่าจะทำให้ประเทศเดินหน้าได้หรือไม่    ถ้าใครเห็นว่าสิ่งที่ผมพูดวันนี้ไม่ถูกต้องเพราะข้อเท็จจริงที่เอามาอ้างนั้นไม่ใช่  ผมยินดีแลกเปลี่ยนเสมอ    แต่วันนี้อย่าเอาเนื้อหาสาระที่พูดดึงผมว่า     ขัดแย้งกับใครหรือสมคบใครผมแถลงด้วยจุดยืนที่จะเปลี่ยนแปลงสู่อนาคต” นายอภิสิทธิ์กล่าว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ